Skip to main content
sharethis

ข่าวสดออนไลน์รายงานว่าแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวชาว อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ผู้พูดต่อหน้า 'ประยุทธ์' ให้เกษียณ ระบุถูก ตร.สภ.บ้านดุง เชิญให้ไปทำประวัติ แต่ตนไม่ได้ทำผิดจึงยังไม่ไป - โฆษกรัฐบาลยืนยันไม่มี ตร. เชิญไปทำประวัติ ย้ำรัฐบาลไม่เคยสั่งปิดกั้นการแสดงความเห็นของประชาชน


ภาพการลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2564 ที่ผานมา | แฟ้มภาพสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2564 ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่าจากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่เกาะคำชะโนด บ้านโนนเมือง ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี และได้เดินทักทายชาวบ้าน จากนั้นมีสาวรายหนึ่งพูดกับนายกว่า อยากให้มาพัฒนาเยอะ ๆ แต่หากพัฒนาไม่ได้ ขอให้นายกฯ เกษียณไปเร็ว ๆ นะคะ โดยนายกหันหลังกลับถามกลับว่า อะไรนะ จนสาวคนดังกล่าวบอกอีกว่า หากพัฒนาไม่ได้ก็ให้เกษียณเร็ว ๆ ให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน นายกตู่เลยบอกว่าไปดูที่ผ่านมานายกฯ ทำอะไรสำเร็จแค่ไหนแล้ว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2564

ล่าสุดวันที่ 4 ธ.ค. 64 หญิง (นามสมมติ) อายุ 28 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวชาว อ.บ้านดุง กล่าวว่า สิ่งที่ตนพูดไปกับนายกวันนั้นเป็นการพูดจากใจ ไม่มีของขั้วการเมืองเข้าเกี่ยวข้องแน่นอน และพูดอยากให้รับฟังจากคนรุ่นใหม่ด้วย หากพัฒนาได้ก็อยู่ต่อ แต่หากพัฒนาไม่ได้วัยท่านน่าจะเกษียณและพักผ่อนได้แล้ว

ภายหลังมีข่าวออกไป ตร.สภ.บ้านดุง ได้ติดต่อตนเพื่อจะเดินทางมาหาที่บ้านเพื่อขอพูดคุยด้วยแต่ตนไม่อนุญาตให้เข้ามาพูดคุยที่บ้าน ทางตร.สภ.บ้านดุง จึงเชิญมาที่ สภ.เพื่อทำประวัติ ก็ไม่รู้ว่าตนผิดอะไร ทำไมถึงต้องทำประวัติจึงยังไม่เดินทางไปที่ สภ.บ้านดุง

ตนไม่ได้เป็นสาวกใคร แต่จะเป็นสาวกของคนที่ทำงานได้ ตามข่าวของหลาย ๆ คนที่ทำงานเก่ง อย่างนายกเราก็ตาม เราเป็นคนที่สนใจข่าว ติดตามข่าวมาตั้งแต่เด็ก ชื่นชมทุกคนที่เก่งที่ทำได้ อย่างนายกชื่นชมท่านด้วยที่ตอนแรกที่เข้ามาทำ เพราะช่วงนั้นบ้านเมืองวุ่นวาย นานเกิน ท่านบอก ขอเวลาอีกไม่นาน แต่นี่นานเกินแล้ว

ตนเป็นคนที่สนใจการเมืองอยู่แล้วชอบฟังวิสัยทัศน์ของนักการเมือง เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเวลาเลือกตั้ง ในเฟซบุ๊กก็แชร์วิสัยทัศน์ของนักการเมืองหลาย ๆ ท่าน ที่ไปคุยกับท่านนายกไม่ได้มีกลุ่มการเมืองใดเข้ามาสนับสนุน ไปด้วยตัวเอง

ยืนยันว่าไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมมา เมื่อไปถึงก็ไปยืนรอนายกเหมือนกับคนอื่น ๆ พอนายกเดินทักทายประชาชนก็หาจังหวะเข้า และเห็นคนมาจัดเตรียมที่นั่งให้คุณยายพร้อมกับเตรียมคุณยายว่าถ้านายกเดินมาให้คุณยายพูดเลยนะ จึงเดินเข้าไปยืนข้างหลังคุณยาย เพราะมั่นใจว่านายกต้องเดินมาทักทายคุณยายแน่นอน

และจุดประสงค์ของการไปเพราะอยากพูดคุยกับนายกและแสดงจุดยืนว่านายกควรพักผ่อนที่บ้านและให้คนอื่นเข้ามาทำหน้าที่แทนแล้วถ้าไปพูดจาหยาบคายใครเขาจะคุยด้วย ไม่ได้ต้องการไปทำลายภาพพจน์เมืองอุดรธานีอย่างที่มีคนพยามจะใส่ร้าย ยืนยืนค่ะว่าไม่ได้รับงานใคร ไม่ได้เงินจากใครสักบาทต้องเติมน้ำมันรถไปเองด้วย

โฆษกรัฐบาลยืนยันไม่มี ตร. เชิญไปทำประวัติ ย้ำรัฐบาลไม่เคยสั่งปิดกั้นการแสดงความเห็นของประชาชน

วันเดียวกันนั้น (4 ธ.ค.) สำนักข่าวไทย รายงานว่านายธนากร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีหญิงสาวรายหนึ่งพูดคุยกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระหว่างลงพื้นที่ที่จังหวัดอุดรธานี ว่าอยากให้มาพัฒนาเยอะ ๆ แต่หากพัฒนาไม่ได้ ขอให้นายกฯ เกษียณไปเร็วๆ และมีข่าวว่าได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวไปทำประวัติยังสถานีตำรวจ ว่าตนได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้รับการยืนยันว่า พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี สอบถามไปยัง พ.ต.อ.จักรภพ ศรีจันทะ ผู้กำกับการตำรวจภูธรอำเภอบ้านดุง และ พ.ต.อ.วิทยากรณ์ ษมากรวิทิต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรดงเย็น เจ้าของพื้นที่รับผิดชอบ คำชะโนด โดยทั้งตำรวจและฝ่ายปกครองยืนยัน ไม่มีเจ้าหน้าที่ท่านใดเข้าไปรบกวนผู้หญิงคนดังกล่าว ซึ่งข่าวที่ออกไปว่า ได้นำตัวหรือเชิญตัวมาพบหรือทำประวัตินั้น ไม่เป็นความจริง ซึ่งผู้การ จ.อุดรธานี ยังชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปฏิบัติงาน ภายใต้อำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น

“ผมขอยืนยัน ตลอดระยะเวลาที่นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศพยายามหาโอกาสลงพื้นที่ พบปะพี่น้องประชาชนและตั้งใจจะไปทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งพบปะเจ้าหน้าที่และประชาชนในพี้นที่ เพี่อรับทราบปัญหา เห็นอุปสรรคด้วยตนเอง ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยสั่งปิดกั้นการแสดงความเห็นของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน พร้อมรับฟังและชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องตลอดเวลา และนายกฯดูแลประชาชนทุกกลุ่มอย่างเสมอภาคภายใต้กรอบกฎหมายเดียวกัน” นายธนกร กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net