ศาลดุสิตลงโทษ 'แอมมี่' คุก 4 เดือนปรับ 4 หมื่น คดีสาดสี ตร. แม้จ่ายค่าเสียหายแล้วและผู้เสียหายไม่เอาความ

ศาลแขวงดุสิตพิพากษาลงโทษจำคุก "แอมมี่" 4 เดือนปรับเงิน 40,000 บาท คดีสาดสีตำรวจที่สน.สำราญราษฎร์เมื่อ 28 ส.ค.2563 แต่รับสารภาพลดโทษเหลือจำคุก 2 เดือน ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา แม้ว่าฝ่ายผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความและแอมมี่เคยจ่ายคา่เสียหายไปแล้วถึง 50,000 บาทก็ตาม

ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ ภาพจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

8 ธ.ค.2564 ที่ศาลแขวงดุสิต มีนัดฟังคำพิพากษาคดีของไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ เดอะ บอททอมบลูส์ ที่ถูกดำเนินคดีจากการสาดสีใส่ตำรวจที่ สน.สำราญราษฎร์ เมื่อ 28 ส.ค.2563 จนถูกดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ และข้อหาตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเคยรายงานว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีตำรวจที่เครื่องแบบเสียหายจำนวน 10 นาย โดยก่อนหน้านี้ไชยอมรได้จ่ายค่าเสียหายให้คนละ 5,000 บาทรวมเป็นเงิน 50,000 บาท ไปแล้วในนัดพร้อมสอบคำให้การเมื่อวันที่ 11 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา ซึ่งทางตำรวจทั้ง 10 คนไม่ติดใจเอาความในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ นอกจากนั้นตำรวจนายหนึ่งที่อ้างว่าถูกไชยอมรผลักไปโดนมือก็ไม่ติดใจเอาความในความผิดฐานทำร้ายร่างกายด้วย

ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ทนายความของไชยอมรให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้ทางไชยอมรรับสารภาพและได้มีการชดเชยค่าเสียหายรวมถึงฝั่งผู้เสียหายก็ไม่ติดใจเอาความแล้ว แต่ศาลยังคงมีคำพิพากษาจำคุกถึง 4 เดือน ปรับ 40,000 บาท โดยเห็นว่าเป็นการกระทำต่างกรรมกันจึงให้ลงโทษเรียงกระทงทั้ง 3 ข้อหา แต่ศาลเห็นว่าไชยอมรรับสารภาพให้ลดโทษเหลือจำคุก 2 เดือนปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 1 ปีพร้อมกับคุมความประพฤติ 1ปี โดยระหว่างถูกคุมประพฤติให้ไชยอมรต้องบำเพ็ญประโยชน์รวมอีก 24 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตามศศินันท์ระบุว่ากำลังปรึกษากับทางไชยอมรว่าจะอุทธรณ์คดีหรือไม่ เนื่องจากเห็นว่าศาลพิพากษาลงโทษหนักเกินไป อีกทั้งตอนรับสารภาพก็ได้ทำคำแถลงประกอบการรับสารภาพด้วยว่าทางไชยอมรไม่ได้มีเจตนาทำร้ายร่างกายแต่เป็นเหตุชุลมุนต่อเนื่องกันตอนสาดสีไม่ได้มีเจตนาไปผลักรั้วให้โดนเจ้าหน้าที่

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2563 ที่เยาวชน นักกิจกรรมและศิลปินรวม 15 คนเดินทางไปที่ สน.สำราญราษฎร์เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาจากการถูกดำเนินคดีร่วมกิจกรรมของ "เยาวชนปลดแอก" เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2563 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งคดีนี้นอกจากคนที่ได้รับหมายเรียกแล้วยังมีคนถูกจับกุมไปก่อนแล้วถึง 13 คน 

ในวันนั้นที่หน้า สน.สำราญราษฎร์มีคนมารอให้กำลังใจผู้ที่ถูกดำเนินคดีราว 200 คน โดยทางตำรวจได้นำแผงเหล็กมากั้นทางขึ้นสถานีตำรวจเอาไว้และอนุยาตให้เฉพาะผู้สื่อข่าวที่มีบัตรประจำตัวกับผู้ที่ถูกออกหมายเรียกขึ้นไปในอาคารได้เท่านั้น

ทั้งนี้ผู้ที่มารอให้กำลังได้ดึงแผงเหล็กเพื่อที่จะเข้าไปบริเวณลานจอดรถใต้อาคารระหว่างนี้ไชยอมรได้ถือถังสีมาสาดใส่ตำรวจที่วางกำลังอยู่ใต้อาคารจนตำรวจเปื้อนสี และเขาได้กล่าวว่า และกล่าวว่า "นี่ไม่ใช่คำขู่ หากยังคุกคามพวกเราอยู่ ผมจะคุกคามคุณกลับด้วยวิธีที่เป็นศิลปะ"

ไชยอมรเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำครั้งนั้นว่าเป็นการทวงความยุติธรรมและสิ่งที่เกิดขึ้นกับเพื่อนศิลปินอย่าง HOCKHACKER ที่ถูกจับกุมว่าไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมแล้ว

"เราเห็นแล้วว่า เขายังเพิกเฉย ต่อให้เรายังยืนอยู่ในระเบียบตะโกนให้เสียงดังสุดเสียง เขาก็จะเพิกเฉยต่อไป เราทำเหมือนเดิมเราก็ได้ผลลัพธ์แบบเดิม

ฉะนั้นสิ่งที่เราทำคือการสร้างสัญลักษณ์ในการทวงความยุติธรรม ทวงถามความชอบธรรม และต้องการสื่อสารให้พวกเขาหยุดคุกคามประชาชนเสียที เพราะต่อไปนี้ไม่ใช่คุณแล้วที่จะคุกคามเราอย่างเดียว ถ้าคุณทำพี่น้องเรา เราก็มีสิทธิที่จะทำคุณเหมือนกันด้วยชั้นเชิงทางศิลปะ”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท