Skip to main content
sharethis

ประยุทธ์ ชวนประชาชนร่วมประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านคอร์รัปชัน ตามแนวคิด 'คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต' หวังสร้างวัฒนธรรมสุจริต เพื่อหล่อหลอม ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้แก่เด็ก เยาวชน และคนไทย ขณะที่ย้อนดูเมื่อเดือนสิงหา ป.ป.ช.เผยเปิดบัญชีทรัพย์สิน-หนี้สิน ประยุทธ์-วิษณุ รอบ 2 ไม่ได้ แจง คกก.วินิจฉัยข้อมูลข่าวสารถือกฎหมายคนละฉบับ อ้างรัฐธรรมนูญคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล-มีหน้าที่แค่เก็บ

 

10 ธ.ค.2564 จากกรณีที่องค์การสหประชาชาติ กำหนดให้วันที่ 9 ธ.ค.ของทุกปี เป็น “วันต่อต้านคอร์รัปชันสากล” เพื่อให้ทุกประเทศทั่วโลกตระหนักถึงภัยร้ายแรงที่เกิดจากการคอร์รัปชันนั้น เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวคำประกาศเจตนารมณ์ผ่านบันทึกวีดิทัศน์ เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) ณ ห้องนนทบุรี 1 ชั้น 3 อาคาร 4 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.นนทบุรี และถ่ายทอดสดผ่าน Facebook live เพจ สำนักงาน ป.ป.ช.

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประเทศไทยได้ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันรณรงค์ต่อต้านคอร์รัปชันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคอร์รัปชันเป็นปัญหาสากลที่เกิดขึ้นในสังคมไทย และสร้างความเสียหายต่อประเทศเป็นอย่างมาก แสดงถึงการขาดจิตสำนึกในการแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวมออกจากกัน นอกจากทำให้สูญเสียงบประมาณแผ่นดินแล้ว ยังมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ

รัฐบาลมีเจตจำนงมุ่งมั่นที่จะสร้างภาครัฐโปร่งใส และสร้างสังคมไทยปลอดการทุจริตคอร์รัปชัน รวมทั้งสร้างจิตสำนึกและค่านิยมละอายต่อการทุจริต ประพฤติมิชอบทุกรูปแบบให้เกิดขึ้น และมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและจริงจัง โดยได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ด้วยแนวคิด “คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต” พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในสังคมไทย
 
ที่ผ่านมารัฐบาลได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคเครือข่ายต่าง ๆ และได้มีการพัฒนาปรับปรุงข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อให้มีความทันสมัย มีความเป็นสากล และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ครอบคลุมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเป็นระบบ รวมทั้งปลูกฝังค่านิยม ความซื่อสัตย์สุจริต จิตสำนึกในการปฏิเสธไม่ยอมรับการทุจริตประพฤติมิชอบอย่างสิ้นเชิง ตลอดจนการสร้างวัฒนธรรมสุจริต เพื่อหล่อหลอม ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนคนไทยทุกคน เพื่อให้มีความละอายต่อการกระทำผิด ไม่เพิกเฉย และไม่ยอมให้ผู้อื่นกระทำการทุจริต ที่จะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อสังคมโดยรวม เพื่อทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
 
พล.อ.ประยุทธ์ เชิญชวนประชาชนและทุกภาคส่วน ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ ด้วยการประพฤติปฏิบัติตนด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ยึดถือประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่มีคุณภาพ และคุณธรรมที่ปลอดจากการทุจริตคอร์รัปชันตลอดไป

 

ป.ป.ช.เผยเปิดบัญชีทรัพย์สิน-หนี้สิน ประยุทธ์-วิษณุ รอบ 2 ไม่ได้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ประชาชาติธุรกิจและสื่ออื่นๆ รายงานตรงกันว่า  พล.ต.อ.วัชพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวตอนหนึ่งระหว่างรับฟังความคิดเห็นครบรอบ 3 ปี  พ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 สำนักงาน ป.ป.ช.จัดกิจกรรมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พบสื่อมวลชนระดับบรรณาธิการ ผ่านระบบ Zoom กรณีคณะกรรมการวินิจฉัยข้อมูลข่าวสาร สาขาสังคมฯ วินิจฉัยว่าบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีกรณีดำรงตำแหน่งครั้งที่ 2 ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 2/1 เมื่อปี 2562 ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะนั้น ว่า เบื้องต้นมีการปรึกษากับคณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ช. รวมถึงที่ปรึกษาทางกฎหมายต่าง ๆ และศึกษาตามรัฐธรรมนูญแล้ว เห็นว่า มีการระบุถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ ไม่ใช่จะเปิดเผยได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ความสำคัญมาก อภิปรายเรื่องนี้กันเยอะ โดยการวินิจฉัย พ.ร.บ.ป.ป.ช. กับการวินิจฉัยของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารฯ อาจไม่ตรงกัน แต่ของ ป.ป.ช. การบอกให้ยื่นเป็นหลักฐานเท่านั้น

“แค่เราจะไปตรวจ ยังไปตรวจไม่ได้เลย ได้แค่เก็บไว้ แต่ถ้ามีการอ้างถึงเมื่อไหร่ ถึงจะเข้าไปตรวจสอบได้ เรามีหน้าที่แค่เก็บ และไม่ได้มีแค่ 2 ท่านนี้ ยังมีอีกหลายคนยื่นในลักษณะเป็นหลักฐานเช่นกัน ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเราจะถูกดำเนินคดีด้วยเหมือนกัน ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติว่า ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะไปเปิดเผยกรณียื่นเป็นหลักฐาน และจะชี้แจงไปยังคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารฯว่า การตีความข้อกฎหมายของท่านกับเราไม่เหมือนกัน เราดำเนินการตามบทบัญญัติต่างกัน มีความรับผิดชอบทางอาญาเข้ามาเกี่ยวข้อง” พล.ต.อ.วัชรพลกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net