สหรัฐฯ เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อ จีน, พม่า และเกาหลีเหนือ

สหรัฐอเมริกา แคนาดา และอังกฤษประกาศคว่ำบาตรเพิ่มต่อประเทศเผด็จการ ไม่ว่าจะเป็นพม่า, รัสเซีย, จีน, เกาหลีเหนือ ซึ่งวันที่ประกาศตรงกับวันสิทธิมนุษยชนโลกและเป็นช่วงที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โจ ไบเดน กำลังจัดประชุมซัมมิทออนไลน์ด้านประชาธิปไตย

แฟ้มภาพรถหุ้มเกราะกองทัพพม่า เสริมกำลังเข้าย่างกุ้ง เมื่อ 14 ก.พ. 64 (ที่มา: DVB)

สหรัฐอเมริกาเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรและการแบนวีซ่าต่อบุคคลหลายสิบรายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับจีน, พม่า, เกาหลีเหนือ และบังกลาเทศ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันสิทธิมนุษยชนโลก มีประเทศอื่นๆ อีก 5 ประเทศรวมถึงรัสเซียที่ตกเป็นเป้าหมายของมาตรการลงโทษทางการทูต

นอกจากสหรัฐฯ แล้ว แคนาดาและสหราชอาณาจักรก็ร่วมกับสหรัฐฯ ในการคว่ำบาตรพม่าจากสาเหตุในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลพม่าด้วย ขณะที่สหรัฐฯ เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่อเกาหลีเหนือ

วอลลี อาเดเยโม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ แถลงว่า การคว่ำบาตรของพวกเขาในวันนี้ โดยเฉพาะจากประเทศพันธมิตรอย่างสหราชอาณาจักรและแคนาดาเป็นการแสดงออกให้เห็นว่าประเทศประชาธิปไตยทั่วโลกจะมีการกระทำโต้ตอบผู้ที่ลุแก่อำนาจรัฐจนนำมาซึ่งการสร้างความทุกข์ยากและการกดขี่ลิดรอนสิทธิประชาชน

สถานทูตจีนในสหรัฐฯ ประณามการเพิ่มการคว่ำบาตรในครั้งนี้ว่าแสดงให้เห็นถึง "การแทรกแซงต่อกิจการภายในของจีนอย่างร้ายแรง" และ "เป็นการละเมิดอย่างหนักต่อบรรทัดฐานขั้นต้นของการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ"

มาตรการคว่ำบาตรใหม่เกิดขึ้นในช่วงเดียวกับที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน นำการประชุมซัมมิทด้านประชาธิปไตยทางออนไลน์เป็นเวลา 2 วัน ไบเดนกล่าวในการประชุมว่ามันเป็นพันธกิจของผู้นำโลกมากกว่า 100 รายที่จะต้องโต้ตอบกลับลัทธิเผด็จการที่กำลังมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ "เกิดผืนดินที่อุดมสมบูรณ์สำหรับปลูกเพาะประชาธิปไตยให้เบ่งบานทั่วโลก"

ในการคว่ำบาตรครั้งใหม่นี้สหรัฐฯ ได้เพิ่มเอาบริษัทในเครือเซนส์ไทม์กรุ๊ปซึ่งเป็นบริษัทด้านระบบปัญญาประดิษฐ์ของจีนเข้าไปด้วย โดยขึ้นบัญชีดำทางการลงทุนกับพวกเขาในบัญชีดำสำหรับ "บริษัทด้านอุตสาหกรรมการทหารของจีน" การคลังสหรัฐฯ ได้กล่าวหาว่าบริษัทเซนส์ไทม์ได้พัฒนาโปรแกรมจดจำใบหน้าที่จะระบุเชื้อชาติของเป้าหมายได้โดยเน้นเป้าหมายเล่นงานกลุ่มชาวอุยกูร์ เชื้อชาติที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมและกำลังตกเป็นเป้าหมายการถูกจับเข้าค่ายกักกันปรับทัศนคติในซินเจียง จากรายงานของสหประชาชาติและหลักฐานอื่นๆ

ผู้เชี่ยวชาญจากสหประชาชาติประเมินว่ามีประชากรชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยเชื้อสายมุสลิมอื่นๆ ในซินเจียงถูกคุมขังอยู่ในค่ายกักกันของทางการจีน

ในการเสนอขายหลักทรัพย์ขั้นต้น เซนส์ไทม์ขายหุ้นได้เกือบ 1,500 ล้านหุ้น (มูลค่ารวม 767,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 26 ล้านล้านบาท) แต่หลังจากที่มีมาตรการคว่ำบาตรใหม่ออกมาแล้วทางบริษัทก็เริ่มหารือเกี่ยวกับการเสนอขายหลักทรัพย์ของพวกเขาว่าจะมีชะตากรรมเช่นไรต่อไป

ในรายชื่อการคว่ำบาตรอื่นๆ ยังประกอบด้วย สถาบันยุโรปจัสโตในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ที่ให้การสนับสนุนวีซ่าสำหรับคนทำงานก่อสร้างจากเกาหลีเหนือ รวมถึงการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่เผด็จการทหารพม่าเพิ่มอีก 4 นาย

เรียบเรียงจาก

US imposes new sanctions on China, Myanmar, North Korea, DW, 11-12-2021

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท