Skip to main content
sharethis

กลุ่มประชาชน #Saveนาบอน ร้องเรียนให้ยุติการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ อ.นาบอน จ.นครศรีฯ ยกระดับปักหลักหน้าทำเนียบ ขอระดมพลประชาชน 23 ธ.ค. บ่ายโมง อย่างที่ #Saveจะนะ ทำมาแล้ว

23 ธ.ค.2564 ความคืบหน้าการเคลื่อนไหวของกลุ่ม #Saveนาบอน ที่เดินทางมาที่กรุงเทพฯ และเดินสายยื่นหนังสือไปยังองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เพื่อร้องเรียนให้ยุติการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากกังวลเรื่องส่งผลกระทบที่อ่านจะเกิดต่อประชาชนในพื้นที่ทั้งในแง่สิ่งแวดล้อม สังคม และสุขภาพนั้น

The Reporters รายงานว่า วันที่  22 ธ.ค. เวลา 17.00 น. ที่หน้ากรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ แยกพาณิชยการ ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มภาคี Saveนาบอน ประกาศเจตนารมณ์ทุบหม้อข้าว เอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องบ้านเกิด ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติไว้ให้ลูกหลาน หลังการเจรจากับ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ไม่เป็นผล

เรียง สีแก้ว ที่ปรึกษากลุ่ม saveนาบอน เปิดเผยว่าตามที่ทราบโดยทั่วกันว่าเมื่อเช้าที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ลงชื่อในคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปเยียวยา 13 ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่อำเภอนาบอน และให้ สผ. กับ กกพ.รับข้อเสนอของกลุ่ม saveนาบอน ในการให้มีการศึกษาใหม่ในด้านความเหมาะสมของที่ตั้งหรือการศึกษาผลกระเชิงยุทธศาสตร์ (SEA)และให้ กกพ. รับข้อเสนอนี้ ซึ่งได้มีการนัดประชุมกับ สผ. และ กกพ. เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา

โดยการเจรจาดังกล่าวล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง สผ.ไม่ยอมรับแนวทางการทำ SEA หรือแม้แต่จะทบทวนเรื่องของที่ตั้งที่เหมาะสม ยืนยันว่าจะไม่ดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น ฉะนั้นตัวแทนของชาวนาบอนขอใช้ชีวิตเข้าสู้ เข้าแลก ในการปกป้องถิ่นฐานบ้านเกิด ปกป้องแผ่นดินภาคใต้ไว้ในครั้งนี้ และจะขอยกระดับการชุมนุม โปรดติดตามอีกครั้งในคืนนี้ จะเริ่มปฏิบัติการการต่อสู้โดยใช้ชีวิตและอิสระภาพเข้าแลก จนกว่าข้อเสนอจะได้รับการตอบสนอง

iLaw รายงานเพิ่มเติมว่าเวลา 19.02 น. ผู้ชุมนุม #saveนาบอน 15 คน นอนบนพื้นหน้าแผงเหล็กแขวนป้ายผ้าข้อความ เช่น ‘พล.ต.อ.วิระชัย ฆ่า นาบอน’, ‘หมู่บ้านผู้ประสบภัยจากทุนศักดินา’ และ ‘สพ.ออกใบอนุญาตฆ่านาบอน’ เพื่อแสดงอารยะขัดขืนที่หน้าแนวกั้นของตำรวจบนสะพานชมัยมรุเชฐ มีการนำป้ายผ้าไปติดที่แผงเหล็กข้อความว่า "หมู่บ้านผู้ประสบภัยจากทุนศักดินา" โดยขณะนี้ข้อเสนอของกลุ่ม #saveนาบอน เหลือเพียงหนึ่งข้อคือ ให้นายกรัฐมนตรีลงนามยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าที่ ต.ทุ่งสง อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราชเท่านั้น

ผู้สังเกตการณ์รายงานด้วยว่าในบริเวณที่ชุมนุมมีเพียงไฟส่องสว่างจากสวนสาธารณะหน้าศาลกรมหลวงชุมพร และไฟกระพริบจราจร แต่ไม่มีไฟเสริม ส่วนการเข้าห้องน้ำผู้ชุมนุมต้องเดินไปเข้าที่ปั๊มน้ำมันที่อยู่บริเวณแยกนางเลิ้งเพราะรถห้องน้ำกลับไปแล้ว สำหรับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่มีตำรวจสวมชุดกากีไม่สวมอุปกรณ์ป้องกันยืนอยู่หลังแนวหน้าทำเนียบรัฐบาลประมาณ 10 - 20 นาย

จากนั้นเวลา 20.16 เรียง อ่านสานส์จากพี่น้องนาบอนถึงพี่น้องคนไทยซึ่งสรุปได้ว่า ประชาชนทั่วประเทศคงทราบแล้วว่าวันนี้นายกมีคำสั่งให้ สผ. ไปทำการศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่ว่าควรตั้งโรงไฟฟ้าหรือไม่ แต่สผ.ปฏิเสธไม่ทำตามคำสั่งนายก ตอนนี้ประชาชนจากนาบอนขอเอาอิสระภาพและชีวิตเข้าแลกทำอารยะขัดขืนที่สะพานชมัยมรุเชฐ พรุ่งนี้ (23 ธ.ค.64) เวลา 13.00 ขอให้พี่น้องมารวมกันที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อรวมพลังประชาชนอีกครั้ง หลังจากเคยพลังเพื่อเซฟจะนะมาแล้ว เป้าหมายของการชุมนุมพรุ่งนี้นอกจากการยุติโรงไฟฟ้ากลางชุมชน แล้ว ยังเป็นการพิสูจน์ด้วยว่าพลังของประชาชนคือพลังของการเปลี่ยนแปลง ขอเชิญทุกคนที่ทนความอยุติธรรมไม่ได้ให้มารวมกัน ณ ที่แห่งนี้ และพี่น้องนาบอนจะปักหลัก ณ. ที่แห่งนี้ และช่วงย่ำรุ่งวันพรุ่งนี้อาจมีความเป็นไปได้ที่พี่น้องนาบอนจะถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่ จึงขอให้ทุกคนจับตาวันพรุ่งนี้ว่าจะเป็นอย่างไร

เบนจา แสงจันทร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ซึ่งมาลงพื้นที่สังเกตการณ์กล่าวโดยสรุปว่า การชุมนุมนี้เป็นไปโดยสงบ ของให้เจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุม เพราะเจ้าหน้าที่มีหน้าที่อำนวยความสะดวกในการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชน ไม่ใช่การจำกัดสิทธิ และอยากฝากถึงรัฐบาลให้รับฟังเสียงของประชาชน ส่วนปัญหาของพี่น้องนาบอนในขณะนี้มีกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร 3 ชุด ที่กำลังนำเรื่องเข้าไปพูดคุยหาทางแก้ปัญหาอยู่

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net