Skip to main content
sharethis

สน.ลุมพินีออกหมายเรียกนายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ด้านเจ้าตัวไม่หวั่นชี้ป้องกันตัวเองอย่างดีด้วยการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและเชื่อประเด็นสื่อสารบนเวทีเป็นการแสดงความคิดเห็นด้วยเจตนาสุจริตในกรณีความเห็นต่อการแก้ไขกฎหมายที่ละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน

24 ธ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (24 ธ.ค. 2564) คอรีเยาะ มานุแช นายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน โพสข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าตนได้รับหมายเรียกจาก สน.ลุมพินี ลงวันที่ 22 ธ.ค. 2564 ให้ไปรายงานตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีอาญาเลขที่ 645/2564 โดยรายละเอียดในหมายเรียกระบุข้อความว่า [เจ้าหน้าที่ตำรวจ] อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ.2477 มาตรา 52 ด้วยเหตุที่ต้องหาร่วมกันจัดกิจกรรมของการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยไม่ได้รับอนุญาต และให้เข้ารายงานตัวที่ สน.ลุมพินี ในวันที่ 29 ธ.ค. 2564 เวลา 10.00 น.

หมายเรียกจาก สน.ลุมพินี ให้คอรีเยาะไปรายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาจากการร่วมปราศรัยในม็อบ '12.12 ยกเลิก 112' โดยในหมายดังกล่าวปรากฎชื่อของชาติชาย แกดำ หรือบอย ซึ่งเป็นพิธีกรบนเวทีการชุมนุม พร้อมพวกร่วมด้วย
 

คอรีเยาะระบุเพิ่มเติมผ่านทางเฟซบุ๊กถึงการได้รับหมายเรียกในครั้งนี้ด้วยว่า "ค่ำวานมีรุ่นน้องส่งข้อความมาหาว่ามีรายชื่อที่อาจจะถูกหมายเรียกจากการร่วมเวทีเสวนา 'ราษฎร์พิพากษา' เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา วันนี้ได้รับหมายเรียกอย่างเป็นทางการจาก สน.ลุมพินี ให้ไปพบพนักงานสอบสวนจากข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงงต่อการแพร่โรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยไม่ได้รับอนุญาต เรามีเจตนาที่จะให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างสิ้นเชิง เนื่องจาก 1. เราไม่ได้เป็นผู้จัดกิจกรรม ไปร่วมในฐานะแขกรับเชิญเวทีเสวนา 2. เราไม่ได้โพสในพื้นที่สาธารณะเพื่อเชิญชวนผู้ใดให้เข้าร่วมกิจกรรมในวันดังกล่าว 3. ประเด็นที่เราสื่อสารบนเวทีเป็นการแสดงความคิดเห็นด้วยเจตนาสุจริตในกรณีความเห็นต่อการแก้ไขกฎหมายที่ละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน 4. เราป้องกันตัวเองอย่างดีด้วยการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และได้รับวัคซีน 3 โดส ก่อนร่วมเวที 5. สิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นต้องไม่ถูกปิดปากด้วยการมาตรการควบคุมโรค 'กระจอก' ของรัฐมนตรีสาธารสุข"

ทั้งนี้ คอรีเยาะระบุเพิ่มเติมว่า "อย่างไรก็ดี เนื่องจากตามวันเวลาตามหมายเรียก เราติดภาระกิจต้องไปร่วมงานมงคลสมรสของมิตรสหายที่รักจึงไม่สามารถเข้าพบพนักงานสอบสวนตามวันเวลาดังกล่าวได้ เราได้โทรศัพท์ติดต่อเพื่อขอเลื่อนแล้ว เจ้าพนักงานตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ระบุในหมายปฎิเสธการเลื่อนนัดหมายทางโทรศัพท์และขอให้แจ้งเป็นหนังสือ ซึ่งการปฎิเสธนี้เราเห็นว่าเป็นการสร้างภาระให้ประชาชนเกินสมควร เพราะไม่ว่าจะเป็นทนายความ นักเคลื่อนไหว หรือชาวบ้านไร่บ้านนาก็ควรที่จะได้รับการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงความยุติธรรมโดยสะดวก ไม่สร้างเงื่อนไขหรือภาระให้ประชาชนเกินสมควรอย่างเสมอภาค เบื้องต้นเราจะขอเลื่อนเป็นวันที่ 13 ม.ค. 2565 เวลา 10.00 น. จึงแจ้งมาให้มิตรสหายโปรดทราบโดยทั่วกัน 24 ธ.ค. 2564"

ทั้งนี้ บนเวทีการชุมนุม “ราษฎรยกเลิก 112” ที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีเสวนาหัวข้อ “ราษฎรพิพากษา มาตรา 112” ที่วิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยว่าการชุมนุมที่มีข้อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริยืเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 เป็นการล้มล้างการปกครอง และปัญหาของการใช้มาตรา 112 จนทำให้มีผู้ที่ถูกดำเนินคดีเป็นจำนวนมากและการขยายขอบเขตการใช้กฎหมายมาตรานี้เพื่อใช้ปิดกั้นการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์

ผู้เข้าร่วมเสวนาในครั้งนี้ ได้แก่ คอรีเยาะ มานุแช ทนายความจากภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน อุเชนทร์ เชียงเสน นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ และอนุลักษณ์ กุลสิงห์ครับ ตัวแทนจากเครือข่ายนักศึกษา โดยคอรีเยาะกล่าวถึงปัญหาของมาตรา 112 ว่าอาจจะถือได้ว่าเป็นกฎหมายตบปากประชาชน เขาไมได้แค่ปิดปากแต่เอาคนที่พูดเข้าคุกแล้วไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว เป็นการดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อไม่ให้ประชาชนแสดงออกิสทิธิเสรีภาพในเรื่องที่เป็นประโยชน์สาธารณะ ในหลายประเทศการใช้กฎหมายแบบนี้เป็นเรื่องผิดกฎหมายเพราะเป็นเครื่องมือของทุนของรัฐที่มาคุกคามสิทธิเสรีภ่าพของประชาชน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net