Skip to main content
sharethis

โฆษก กมธ.ปปช. สภาผู้แทนราษฎร เผยผลสอบข้อเท็จจริงกรณีเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตรวจโควิด-19 ให้ผู้ต้องขังคดีการเมืองในยามวิกาล ชี้เป็นการละเมิดสิทธิและไม่สมควรแก่เหตุ พร้อมตั้ง 4 ข้อสังเกตถึงกรมราชทัณฑ์

เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2564 เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานว่านายธีรัจชัย พันธุมาศ โฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ปปช.) แถลงถึงผลการประชุมของ กมธ.ป.ป.ช. เพื่อพิจารณากรณีได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นางสาวรัชนก ศรีนอก กับคณะ ในนามกลุ่มคลับเฮ้าส์เพื่อประชาธิปไตย ขอให้สอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความปลอดภัยในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ของผู้ต้องขังในคดีการเมือง 

โดย กมธ.ป.ป.ช. ได้เชิญผู้แทนจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้กับผู้ต้องขังทางการเมืองในยามวิกาล เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2564 อย่างละเอียด ซึ่งภายหลังรับฟังข้อมูลแล้ว กมธ.ป.ป.ช. ได้มีความคิดเห็นว่าการที่นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายปฏิบัติการในฐานะผู้ควบคุมดูแลการปฏิบัติหน้าที่ในวันที่เกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง ที่บังคับให้ตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และบังคับให้แยกห้องพักในวันเกิดเหตุหลังเวลาปกติ เป็นการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิ เป็นการกระทำที่เป็นการเลือกปฏิบัติและเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินกว่ากรณีจำเป็น ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 28 และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 มาตรา 30 อันเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดทางวินัยของข้าราชการ ซึ่งทาง กมธ.ปปช. จะได้ส่งเรื่องให้กรมราชทัณฑ์ พิจารณาดำเนินการลงโทษผู้กระทำความผิด ตามอำนาจหน้าที่และขั้นตอนของกฎหมาย ต่อไป 

นอกจากนี้ กมธ.ปปช. ได้มีข้อเสนอถึงกรมราชทัณฑ์ จำนวน 4 ข้อ ดังนี้ 1. ขอให้กรมราชทัณฑ์ พิจารณาแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการตรวจผู้ต้องขังในยามวิกาล โดยให้สอดคล้องกับเหตุผลของคำสั่งของศาลอาญา 2. ขอให้กรมราชทัณฑ์ พิจารณาสอบสวนข้อเท็จจริงในการปฏิบัติหน้าที่ของนายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ฝ่ายปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้องและได้ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุหลังเวลาปกติตามคำสั่งของศาลอาญาว่ามีการกระทำความผิดทางวินัยหรือไม่ 3. ขอให้แจ้งประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อทราบ และ 4. ให้แจ้งผลการพิจารณาไปยังผู้ร้องเพื่อทราบ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net