Skip to main content
sharethis

พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ 'ก้าวข้ามฝันร้ายและคราบน้ำตา 2564 สู่ความหวังและชีวิตใหม่ 2565' ตำหนิ 'ประยุทธ์' ใช้งบประมาณมหาศาล นำเงินในอนาคตประชาชนมาใช้ ปักหมุด 2565 ทวงคืนอำนาจประชาชน เปลี่ยนนายก มุ่งสู่เศรษฐกิจที่ดีกว่า

25 ธ.ค. 2564 พรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง ก้าวข้ามฝันร้ายและคราบน้ำตา 2564 สู่ความหวังและชีวิตใหม่ 2565 ความล้มเหลวผิดพลาดบกพร่องซ้ำซากของรัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตลอดปี 2564 ทำให้ชีวิตและลมหายใจของประชาชนตกอยู่ภายใต้วิกฤตที่หนักหนาสาหัสที่สุดในประวัติศาสตร์ หยาดน้ำตาและเสียงสะอื้นของพี่น้องประชาชนดังระงมไปทั่วทั้งแผ่นดิน

รัฐบาลไร้ศักยภาพ ประมาท และหละหลวม ขาดความรู้ความเข้าใจและไม่รับฟังเสียงประชาชน ประเมินสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผิดพลาด นำมาซึ่งการบริหารจัดการที่ล้มเหลว จนโรคแพร่ระบาดขยายวงกว้าง ระบบสาธารณสุขประเทศล่มสลาย ทำลายชีวิตผู้คน

คนไทยต้องตายคาบ้าน ตายกลางถนน ตายข้างถนน ไม่มีแม้โอกาสได้เข้าสู่ระบบการรักษาตามสิทธิที่พึงมี อีกทั้งยังยกระดับวิกฤตสุขภาพสู่วิกฤตเศรษฐกิจ มาตรการรุนแรงแบบหว่านแห สร้างภาระให้ประชาชน เศรษฐกิจหยุดชะงัก ประชาชนต้องตกงาน ขาดรายได้ สิ้นเนื้อประดาตัวอดอยาก จนประเทศต้องตกอยู่ในห้วงของฝันร้ายกลียุค

การระบาดใหม่ของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่เกิดขึ้นทั่วโลกขณะนี้ รัฐบาลยังคงมีวิธีคิดราว ‘ชีวิตและลมหายใจประชาชนเป็นของเล่น’ สบประมาท ‘โควิดกระจอก’ ย่ามใจไม่เตรียมพร้อม กำลังจะพาพี่น้องประชาชนต้องไปเผชิญชะตากรรม และจมอยู่กับวิกฤตเศรษฐกิจไม่รู้จบ

ที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ ที่ผ่านมารัฐบาลผลาญงบประมาณแผ่นดินมหาศาลไปกับการเยียวยาฟื้นฟูที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ อีกทั้งยังนำเงินในอนาคตของประชาชน ไปสร้างมหกรรม ‘แจกเทกระจาด’ แฝงการเอื้อประโยชน์พวกพ้องและส่อว่าอาจจะหาประโยชน์ทางการเมือง เงินกู้มหาศาลถูกใช้จ่ายไปอย่างไร้ค่า ทิ้งไว้เพียงภาระหนี้สินประเทศชาติและประชาชน ขโมยเงินอนาคตและโอกาสของประชาชนไปจนหมดสิ้น

ความรุนแรงจากวิกฤตโรคระบาดร้ายแรงไม่น้อยกว่าความรุนแรงจากรัฐคลั่งอำนาจ ตลอดปี 2564 มีการใช้อำนาจและกฎหมายที่บิดเบือน กลั่นแกล้ง คุกคามประชาชนอย่างรุนแรง ประชาชน นิสิต นักศึกษา ทั้งที่ออกมาเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ มุ่งหวังการคืนประชาธิปไตย

หรือแม้แต่ประชาชนที่ออกมาสะท้อนความเดือดร้อนจากนโยบายรัฐ เช่น พี่น้องจะนะรักษ์ถิ่น กลับถูกใช้กำลังความรุนแรงเข้ากดปราบและดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม มองประชาชนเป็นปฏิปักษ์และภัยต่อความมั่นคงที่รัฐจะต้องกำจัด

ความย่อยยับตลอดปี 2564 มีเหตุแห่งปัญหามาจากรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน ดำเนินนโยบายและบังคับใช้กฎหมายโดยไม่คำนึงถึงความยากลำบากของประชาชน ไม่รับฟังเสียงสะท้อนและผลกระทบ อันเป็นผลโดยตรงจากรัฐธรรมนูญ 2560 ที่บิดเบือนกลไกประชาธิปไตย ช่วงชิงอำนาจรัฐบาลห่างไกลจากประชาชน

นายกรัฐมนตรีไม่ต้องได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนแต่ถูกแต่งตั้งขึ้นโดยการสนับสนุนของ ส.ว. ที่ไม่ได้มาจากประชาชน รัฐบาลได้รับการสนับสนุนจาก ส.ส.ปัดเศษและงูเห่า ถูกจัดตั้งขึ้นได้โดยไม่คำนึงถึงประชาชนว่าได้ลงมติไว้วางใจให้เข้ามาบริหารประเทศหรือไม่

พรรคเพื่อไทยซึ่งมีตัวแทนอยู่ทั่วประเทศรับฟังเสียงสะท้อนและปัญหาของพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สำนึกต่อความสำคัญของพี่น้องประชาชน ‘รู้คิด รอบคอบ รับผิดชอบต่อสังคมและประชาชน’

คืนเกียรติและศักดิ์ศรีให้ประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียม รับฟังและดำเนินนโยบายโดยคำนึงถึงประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง เฉพาะอย่างยิ่งวิกฤตโรคระบาดที่เผชิญอยู่ในขณะนี้ ควรศึกษาบทเรียนความผิดพลาดที่ผ่านมาเพื่อปรับปรุงมาตรการ ระมัดระวัง ป้องกันและเตรียมพร้อมด้านสาธารณสุขเพื่อรองรับปัญหาบรรเทาสถานการณ์ไม่ให้เกิดความสูญเสียและวิกฤตซ้ำรอยเดิมอีก

พรรคเพื่อไทย ตระหนักเสมอว่าเราและพี่น้องประชาชนคือสมาชิกครอบครัวเดียวกัน ในวิกฤตที่เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของเรา เราจึงเข้าใจ เห็นใจและช่วยเหลือกันให้รอดพ้นจากวังวนของปัญหาไปสู่ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้

ดังนั้นในปี 2565 เราจะเดินหน้าคืนความหวังความฝันของคนทุกวัย ทุกฐานะ ทุกวิถีชีวิตที่ฝันถึงความเป็นอยู่ที่ดีและสานฝันเหล่านั้นให้เป็นจริง เราจะมุ่งไปสู่หนทางของเศรษฐกิจที่เฟื่องฟู พี่น้องคนไทยจะกลับมามีความหวังถึงการทำงานที่ดีและการมีรายได้ที่ดี

เราจะหลอมรวมผู้คนเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและมีอนาคตที่ดี เราจะทำทุกวิถีทางที่จะสนับสนุนผู้แทนของประชาชนอย่างแท้จริง ทวงคืนอำนาจของประชาชนเพื่อเปลี่ยนอนาคตให้ประชาชน และจะรวมพลังประชาชนเพื่อมุ่งไปสู่ความหวังที่จะเปลี่ยนรัฐบาล คืนรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย เพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ ของพรรคเพื่อไทยเพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน

ห่วง 'ประยุทธ์' ปิดรับนักท่องเที่ยวทำเศรษฐกิจไทยยิ่งทรุดหนัก ชี้ทำลายความหวังธุรกิจท่องเที่ยวที่ทนมา 2 ปี แนะ ต้องเยียวยาธุรกิจที่ได้ผลกระทบ และตามสถานการณ์การระบาดของโลก เพื่อเร่งเปิดรับนักท่องเที่ยวโดยเร็ว 

ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยแจ้งข่าวต่อสื่อมวลชนว่านายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่ รองเลขาธิการและ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สั่งปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมานี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน นั้นนับเป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างมาก เพราะหากจำกันได้เพียงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังเพิ่งจะบอกว่าไวรัสโอมิครอนเป็นไวรัสกระจอกไม่สามารถทำอันตรายคนไทยได้ แต่ไม่กี่วันให้หลังกลับต้องปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ และอาจจะถึงกับต้องล็อกดาวน์ ซึ่งสร้างความสับสนให้กับคนทั้งประเทศ โดยเฉพาะคนในภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่เพิ่งเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวได้ไม่นานมานี้ และเตรียมตัวรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่จะเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยเพื่อฉลองในช่วงปีใหม่ ต้องถึงกับฝันสลาย และเหมือนกับเป็นคำสั่งประหารสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ เพราะต้องทนลำบากกันมากว่า 2 ปีแล้ว แต่พอจะเปิดรับนักท่องเที่ยวก็มาถูกปิดอย่างฉับพลัน 

การที่พลเอกประยุทธ์ เติบโตมาจากการเป็นทหาร อาจจะไม่ทราบเรื่องธุรกิจและไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน จึงไม่ทราบว่าการเตรียมการต้อนรับนักท่องเที่ยวต้องใช้เวลาการเตรียมพร้อมหลายด้านทั้งการเตรียมบุคลากรและฝึกฝนบุคลากร การเตรียมวัตถุดิบ อาหาร ทำการรีโนเวทใหม่ และทำการตลาดเพื่อรับจองล่วงหน้า เป็นต้น ที่มีต้นทุนที่สูงมาก ซึ่งเมื่อเจอการปิดห้ามนักท่องเที่ยวเข้า จึงเป็นความเสียหายอย่างมาก อีกทั้งธุรกิจภาคท่องเที่ยวต่างคาดหวังว่าจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้มาเยียวยาธุรกิจ 

การปิดรับนักท่องเที่ยวจะทำให้เศรษฐกิจไทยที่ย่ำแย่อยู่แล้ว และคาดหวังว่าจะฟื้นต้องได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะภาคท่องเที่ยวต้องรับผลกระทบจากการปิดประเทศมานานเกือบ 2 ปีแล้ว และที่คาดกันว่าจะปิดถึงวันที่ 4 ม.ค. ปีหน้า อาจจะต้องลากนานกว่านั้น ซึ่งทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวต้องเสียหายหนักกันอีกยาว หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จากภาคท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอีกมาก 

ดังนั้นจึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ ได้ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนอย่างไกล้ชิด จากข้อมูลล่าสุดพบว่าการแพร่ระบาดในทวีปอัฟริกาที่เป็นแหล่งกำเนิดกลับลดลงอย่างรวดเร็ว และไวรัสนี้แม้แพร่กระจายเร็วแต่ความรุนแรงของอาการมีไม่มาก โอกาสที่จะเสียชีวิตมีน้อย อีกทั้งบริษัทผลิตวัคซีนและบริษัทผลิตยาหลักของโลก ต่างได้คิดค้นวัคซีนและยารักษาไวรัสนี้กันได้แล้ว ซึ่งหากมีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว พลเอกประยุทธ์ ควรจะเร่งสั่งยา และหาทางเปิดรับนักท่องเที่ยวโดยเร็ว เพื่อฟื้นเศรษฐกิจไทย โดยหากจำกันได้คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยได้เคยเตือนพลเอกประยุทธ์ แล้วว่าการเปิดๆ ปิดๆ หรือที่เรียกว่า โรคลักปิดลักเปิด จนเลือดซึมออกจะหมดร่างนี้จะสร้างความเสียหายอย่างมากต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยว และจะทำลายความมั่นใจของคนในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างประเทศด้วย

อย่างไรก็ตามในภาวะที่พลเอกประยุทธ์ ได้ตัดสินใจปิดรับนักท่องเที่ยว พลเอกประยุทธ์ ควรจะต้องคิดหาวิธีที่จะเยียวยาธุรกิจภาคท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากเรื่องนี้ ซึ่งภาคธุรกิจท่องเที่ยวแทบจะไม่ได้รับการช่วยเหลือและดูแลจากรัฐบาลเลยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหนักหนาสาหัสมาก ดังนั้น รัฐบาลควรพิจารณา การช่วยเหลือด้านซอฟท์โลน การลดหนี้ การลดดอกเบี้ย เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินการต่อได้ ซึ่งเมื่อการระบาดของไวรัสผ่านพ้นไป ภาคธุรกิจท่องเที่ยวจะสามารถดำเนินกิจการต่อ และนำรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้นในอนาคต

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net