Skip to main content
sharethis

สน.ลุมพินีออกหมายเรียกรามิล - ศิวะ วิธญ นักศึกษา มช. ผู้เคยกรีดอกประท้วง ม.112 หลังเจ้าตัวไปร่วมชุมนุม “ม็อบ 12.12 ยกเลิก 112” ที่ กทม. เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ โดยครั้งนี้นับเป็นหมายเรียกคดีที่ 7 ของเจ้าตัวแล้ว

26 ธ.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา สน.ลุมพินี ออกหมายเรียก รามิล - ศิวะ วิธญ นักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลังเจ้าตัวไปร่วมชุมนุม “ม็อบ 12.12 ยกเลิก 112” ที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ

โดย สน.ลุมพินี แจ้งให้รามิลไปรายงานตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีอาญาเลขที่ 645/2564 ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ.2477 มาตรา 52 ด้วยเหตุที่ต้องหาว่า ร่วมกันจัดกิจกรรมของการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยไม่ได้รับอนุญาต และให้เข้ารายงานตัวที่ สน.ลุมพินี ในวันที่ 29 ธ.ค. นี้ เวลา 10.00 น.

รามิล - ศิวะ วิธญ เสื้อสีน้ำเงิน กางเกงสีแดง

รามิล ผู้เคยกรีดอกประท้วง ม.112  ระบุว่า วันนั้นตนเองได้ไปยืนอ่านบทกวี 2 บท ในม็อบ 12.12 ยกเลิก 112 ประกอบการ Performance art ของเพื่อน

บทกวีที่ 1

มาจะกล่าวบทไป

ถึงแก้วใสประดับหัว

บ้าอำนาจบังอาจประพฤติชั่ว

ให้เกรงกลัวมัวเมาหลงระเริง

 

ไอ้ปีศาจสวมชื่อว่าซื่อสัตย์

มันรวบมัดประโยชน์ผลจนหลงเหลิง

ใครจะตายวายสิ้นมันหมางเมิน

จึงสาบทรามนามจำเริญคาวโลกีย์

 

แก้วใสประดับหัวไอ้ชั่วชาติ

การอุบาทว์ปลอมเติมเสริมภาษี

มันอวดอ้างแสดงแกล้งเป็นฅนดี

เหยียบศักดิ์ศรีเหยียบฅนจนจมตีน

 

ไอ้ปีศาจอำนาจมันเกลื่อนกลาด

มันองอาจแต่ขลาดเขลาไม่มีศีล

ยศฐาคลั่งมันสั่งฅนให้เลียตีน

ถึงความหีนนะเหลือจะพรรณนา

 

แก้วใสประดับหัวตัวจัญไร

ต้องไล่ไปให้ไกลตัวปัญหา

หรือสมยอมพร้อมเพียงเป็นขี้ข้า

จึ่งไตร่ตรองเถิดหนาอย่าหลงลืม

 

ไอ้ปีศาจริอาจกินเลือดฅน

มันเปรอปรนตนตัวกระหายหืน

โอ! ไอ้ห่า!! กร่นด่าทุกวันคืน

โอ! ไอ้หื่น!! หวังยืนอยู่เหนือฅน

 

แก้วใสประดับหัวกลัวมันเหรอ

หรือว่าเผลอเสแสร้งแกล้งไม่สน

ยอมจำนนเป็นฅนไม่เป็นฅน

หรือสู้จนล้างล้มสิ่งโสมม, ให้สิ้นไป

 

บทกวีที่ 2

(1) เอาก็เอาสิวะ, ปฏิวัติ!

หรือจะอยู่อย่างวิบัติอุบาทว์อุบาย

ฅนไม่เป็นฅน, เป็นแค่งัวแค่ควาย

อยู่ๆ ก็ไม่วายก้มกราบเลียตีนมัน

 

(2) กูก็ฅน มึงก็ฅน เหมือนกันละว้าาา

ใครจะบ้าบอดใบ้, หน้าใสและสุขสันต์

หลบๆ ซ่อนๆ หวาดกลัวทุกวี่ทุกวัน

เสรีภาพห่าอะไรกัน....ในเมื่อมึงปิดปากประชาชน

 

(3) โอ๊ย, อย่าว่า อย่าหาทำ

หรือจะพูดพร่ำอวดอ้าง, สูงส่งอยู่เหนือฅน

เงินของมึงก็ภาษีประชาชน

ก็คือเงินที่มึงปล้นเพื่อเสพย์สุขระรื่นใจ

 

(4) เอาล่ะเว้ย, กูก็หมดศรัทธาแล้ววันนี้

กูก็อยากมีอนาคตประเทศไทย

กูก็อยากจะอยู่อย่างประเทศประชาธิปไตย

ใครจะอยากอยู่ในสังคมที่มันไม่เท่าเทียม

 

(5) ถุย! อย่ามาพูด อย่ามาอ้าง

หรือจะทำตัวเป็นกลางในความโหดเหี้ยม

หรือจะเกณฑ์กำลังพล หรือยัดข้อหาที่มึงเตรียม

ทุกฅนในวันนี้มีความกล้าอันล้นเปี่ยม

....มาประท้วง, มาเพื่อสู้เผด็จการ

 

(6) ว่ายังไงกันบ้างพ่อแม่พี่น้อง

นี่คือความน่าสยดสยองของการรัฐประหาร

มันสูบเลือดสูบเนื้อพวกเรา, ใครวะที่บงการ?

สร้างแต่ความทรมาน ....มีชีวิตอยู่ก็เหมือนตาย

 

(7) เอาก็เอาสิวะ! ปฏิวัติ....

หรือจะอยู่อย่างวิบัติอุบาทว์อุบาย

มึงก็ฅน กูก็ฅน, ไม่ใช่งัวไม่ใช่ควาย

ประชาธิปไตยมีความหมาย คือ อำนาจเป็นของประชาชน

 

ก่อนหน้านี้รามิล - ศิวะ วิธญ ถูกออกหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้วอย่างน้อย 7 คดี

  • คดีที่ 1 ถูกแจ้งข้อหาตาม ม.116 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และพ.ร.บ.โรคติดต่อฯ จากการชุมนุม #เชียงใหม่จะไม่ทน ที่ประตูท่าแพ เมื่อวันที่ 29 ก.ค.63 ซึ่งในคดีนี้มี 37 นักศึกษา นักกิจกรรม และคนเสื้อแดง ที่ถูกแจ้งข้อหา
  • คดีที่ 2 ถูกแจ้งข้อหาตาม ม.116 จากการชุมนุม “เชียงใหม่จะไม่ทน” ที่ประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2563 เป็นการร่วมแฟลชม็อบที่มีทนายอานนท์ นำภา ขึ้นปราศรัยเน้นย้ำ 3 ข้อเรียกร้องของประชาชนปลดแอก 1. ให้หยุดคุกคามประชาชน 2. ให้มีการยุบสภา และ 3. ให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
  • คดีที่ 3 ได้รับหมายเรียกฐานฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความสะอาดฯ จากการนำกระดาษทิชชู่สกรีนลาย “หมายเรียกมาตรา 112” ไปติดตามจุดต่างๆ ในเมืองเชียงใหม่
  • คดีที่ 4 ถูกนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย แจ้งข้อหา ม.112 พ.ร.บ.ธง จากการแสดงผลงานศิลปะที่ม็อบวันที่ 14 มี.ค. 64 ภายในสนามรักบี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยศรีสุวรรณกล่าวหาว่าผลงานศิลปะดังกล่าวคล้ายธงชาติและมีข้อความสื่อถึงกษัตริย์ เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112
  • คดีที่ 5 ถูกแจ้งข้อหาจากการร่วมจัด “คาร์ม็อบนราธิวาส” เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2564 ทั้งหมด 5 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ร่วมกันยุยงให้เกิดความไม่สงบ ร่วมกันจัดกิจกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด ฝ่าฝืนคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ส่งเสียงดังทำให้ประชาชนตกใจ และใช้เครื่องเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • คดีที่ 6 ถูกพ.ต.ท. อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง แจ้งข้อหา ม.112 เป็นคดีที่ 2 จากการกระทำ Performance Art เรียกร้องให้คืนสิทธิประกันตัวให้ประชาชน หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 64 หลังจากที่ สุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของเพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ โกนผมเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้ลูกชาย ได้มีนักศึกษา มช. จำนวนหนึ่งรวมตัวกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เรียกร้องให้ศาลคืนสิทธิประกันตัวให้แก่ประชาชนบริเวณหน้ามหาวิทยาลัย
  • และล่าสุดหมายเรียกคดีที่ 7 สน.ลุมพินี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net