Skip to main content
sharethis

นักกิจกรรมร่วมกันชูป้ายรณรงค์ยกเลิกมาตรา 112 ถึง ร.10 แต่ยังไม่ทันได้ชูกลับถูกฉุดลากตัวออกไปก่อนจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนถูกนำตัวไป สน.บุปผาราม แจ้งข้อหาสร้างเสียงดังและขัดคำสั่งเจ้าหน้าที่ ส่วนหญิงเสื้อขาวที่วิ่งเข้าหารถพระที่นั่งถูกส่งโรงพยาบาลแล้วและไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มรณรงค์เลิกมาตรา 112

ช่วงหัวค่ำของวันที่ 28 ธ.ค.2564 ที่พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พร้อมด้วย เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ เสด็จพระราชดำเนินมาทำพิธีถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ กลุ่มนักกิจกรรม 3 คน พยายามชูป้ายรณรงค์ยกเลิกมาตรา 112 แต่ถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเข้าควบคุมตัวก่อนจะได้ทำกิจกรรมตามที่ปรากฏในวิดีโอเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา

ตะวัน (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ว่า เธอไปที่วงเวียนใหญ่ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการจัดพิธีกับเพื่อนอีก 2 คนคือ สายน้ำ อายุ 17 ปี และใบปอ อายุ 20 ปี ตั้งแต่ 16.00 น. รอชูป้ายรณรงค์ยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 ตอนที่ขบวนเสด็จมาถึงเพื่อที่จะต้องการสื่อถึงกษัตริย์โดยตรง แม้จะกังวลว่าอาจจะเกิดอันตรายจากการทำร้ายร่างกายอยู่บ้างจากกลุ่มที่รักสถาบันฯ เพราะเห็นจากข่าวที่ผ่านๆ มา อย่างไรก็ตามพวกเธอเห็นว่าก็ยังเป็นสิทธิในการที่จะแสดงออกความคิดเห็นว่ากฎหมายดังกล่าวมีความไม่เท่าเทียมกันอย่างไร

ใบปอระบุว่าเบื้องต้นพวกเธอเพียงต้องการชูป้ายข้อความบนทางเท้าด้านตรงข้ามกับพระบรมราชานุสาวรีย์ที่ทำพิธีเท่านั้น แต่ว่าระหว่างที่ยืนรอทำกิจกรรมอยู่ที่ทางเท้าด้านตรงข้ามราว 1 ชั่วโมงผ่านไป มีเจ้าหน้าที่เข้ามาแสดงตัวหนึ่งนายว่าเป็น “สืบ น.8” คาดว่าเป็นเพราะทางเจ้าหน้าที่จำสายน้ำได้เข้ามาเจรจาและพวกเธอยืนยันว่าแค่จะชูป้ายเท่านั้นถ้าไม่เกิดความรุนแรง แล้วก็ให้กลุ่มบุคคลที่สวมเสื้อเหลืองมาล้อมพวกเธอไว้โดยที่บุคคลเหล่านี้ไม่ได้มีการแสดงตัวว่าเป็นใคร แต่จากในคลิปที่มีการเผยแพร่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบชุดรับเสด็จร่วมอยู่ด้วยในระหว่างควบคุมตัวพวกเธอ

ตะวันเล่าต่อว่า พวกเธอถูกกลุ่มคนสวมเสื้อเหลืองล้อมไว้อยู่บริเวณดังกล่าวจนกระทั่งเวลาประมาณ 1 ทุ่ม และเมื่อเห็นว่าพระราชินีออกมาแล้วก็เลยชูป้ายยกเลิก 112 แต่พวกเธอก็ถูกกระชากป้ายลงทันที ซึ่งตอนแรกพวกเธอไม่ได้คิดว่าจะมีการตะโกนด้วยแต่ว่าก็มีการคุยกันว่าถ้าถูกใช้ความรุนแรงด้วยก็จะมีการตะโกนยกเลิก 112 กลุ่มคนดังกล่าวจึงพยายามจะปิดปาก บีบคอและฉุดกระชากพวกเธอออกไป

ตะวันเล่าว่าจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้คุมตัวพวกเธอเข้าไปในซอยบริเวณนั้นแล้วให้นั่งอยู่โดยไม่ได้ถูกพาตัวไปที่ สน. ทันทีเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ระบุว่าต้องรอเสด็จออกไปก่อน แต่พวกเธอรู้สึกทนไม่ไหวที่ถูกใช้ความรุนแรงด้วยจึงมีการโต้เถียงกับทางเจ้าหน้าที่ว่าพวกเธอทำผิดกฎหมายมาตราใดและยังถูกกระชากป้ายก่อน แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็สั่งให้นั่งแต่เมื่อพวกเธอไม่ยอมนั่งก็ถูกผลักกดให้นั่งลง แล้วก็อ้างว่าพวกเธอทำผิดมาตรา 370 ข้อหาตะโกนอื้ออึง จากนั้นราว 2 ทุ่มพวกเธอจึงถูกนำตัวไปสน.บุปผาราม

ตะวันบอกว่าทั้ง 3 คนได้รับบาดเจ็บหมด เธอไม่ได้มีร่องรอยบาดแผลอะไรแต่ตอนที่กลุ่มคนดังกล่าวพยายามปิดปากแรงมากทำให้คอนแทคต์เลนส์หลุดลึกเข้าไปด้านในเปลือกตาแต่ภายหลังสามารถเอาออกได้ ส่วนใบปอกับสายน้ำมีบาดแผล โดยใบปอระบุว่าเธอถูกปิดปากแล้วมือของคนที่เข้ามาปิดปากเข้ามาแรงทำให้ปากเป็นแผล

เมื่อถามถึงบุคคลที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีผู้หญิงเสื้อขาวคนหนึ่งวิ่งเข้าไปถึงตัวในหลวงรัชกาลที่ 10 ตะวันตอบยืนยันว่ากิจกรรมครั้งนี้เพียงแค่ต้องการชูป้ายข้อความเท่านั้น พวกเธอไม่ได้มีเจตนาจะเข้าไปถึงตัวกษัตริย์และพระราชินีแต่อย่างใดและพวกเธอก็ถูกกลุ่มคนเสื้อเหลืองล้อมไว้ตั้งแต่ช่วงเย็นแล้วและบุคคลดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเธอ

“เขาไม่ใช่พวกเราเลย น่าจะเป็นฝ่ายที่เขารักมากกว่า แต่เท่าที่ทราบคนนั้นถูกพาตัวไปโรงพยาบาลแล้ว” แต่พวกเธอไม่รู้ว่าผู้หญิงคนดังกล่าวถูกพาตัวมาที่สน.บุปผารามด้วยหรือไม่

ทั้งนี้ทางประชาไทได้สอบถามกับ พ.ต.ท. เสกสรรค์ ปะเทสังข์ สารวัตรปราบปราม สน. บุปผาราม ทราบว่า หญิงที่วิ่งเข้าหาในหลวงขณะเสด็จฯ ลงจากรถพระที่นั่ง ถูกนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา

ต่อมาเวลา 00.24 น. นักกิจกรรมทั้ง 3 คน เปิดเผยต่อสื่อมวลชนบริเวณหน้า สน.บุปผารามว่า ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อทั้ง 3 คนด้วย 2 ข้อหา คือ ข้อหาสร้างเสียงดังอื้ออึงทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ และข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน โดยเปรียบเทียบปรับคนละ 1,000 บาท

ทั้งนี้ทางกลุ่มเปิดเผยต่อว่า จะเดินทางเข้าตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลจากกรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงในการควบคุมตัว และดำเนินการฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับในข้อหาทำร้ายร่างกายต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net