สถานการณ์โควิด-19 วันที่ 3 ม.ค. ศบค. เผยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2,927 ราย อาการหนัก 556 ราย ยอดติดเชื้อสูงสุดกลับมาอยู่ที่ กทม. ตามด้วยชลบุรี ยันผลวิจัยจากอังกฤษระบุวัคซีนเข็มกระตุ้นต้านโควิดรวมถึงเชื้อโอไมครอนได้ 88%

3 ม.ค.2565 เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลและสำนักข่าวไทย รายงานว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศวันนี้ (3 ม.ค.) ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,927 ราย ประกอบด้วยผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 2,684 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 54 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 21 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 168 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,203,622 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ขณะที่หายป่วยกลับบ้าน 2,903 ราย หายป่วยสะสม 2,150,207 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 33,114 ราย ในจำนวนนี้อาการหนัก 556 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 148 ราย และวันนี้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคนใกล้ชิด คนรู้จัก และคนในครอบครัว

สำหรับจังหวัดที่ติดเชื้อสูงสุด 10 อันดับวันนี้ 1.กรงุเทพมหานคร 358 ราย ยอดรวมอยู่ที่ 441,328 ราย กรุงเทพฯ 2.ชลบุรี 351 ราย ยอดรวม 114,105 ราย 3.อุบลราชธานี 206 ราย ยอดรวม 23,299 ราย 4.ขอนแก่น 143 ราย ยอดรวม 24,665 ราย 5.เชียงใหม่ 97 ราย ยอดรวม 29,305 ราย 6.นครศรีธรรมราช 96 ราย ยอดรวม 48,212 ราย 7.สมุทรปราการ 90 ราย ยอดรวม 132,557 ราย 8.ภูเก็ต 64 ราย ยอดรวม 18,935 ราย 9.นนทบุรี 63 ราย ยอดรวม 61,030 ราย 10.บุรีรัมย์ 54 ราย ยอดรวม 17,851 ราย

ทั้งนี้ ศบค.ยังนำผลรายงานของหน่วยงานความมั่นคงด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักร ระบุว่า การฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มกระตุ้น มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเข้าโรงพยาบาลจากการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งรวมถึงเชื้อโอไมครอนได้ 88% ข้อมูลดังกล่าว เป็นการยืนยันว่าวัคซีนต้านโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา ไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา สามารถป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนได้เล็กน้อย แต่การป้องกันการป่วยหนักยังทำได้ดี ทางหน่วยงานยูเคเอชเอสเอได้วิเคราะห์ข้อมูลผู้ติดเชื้อและผู้ต้อง สงสัยติดเชื้อโอไมครอนมากกว่า 600,000 ราย ในอังกฤษที่ติดเชื้อก่อนวันที่ 29 ธันวาคม และพบว่า วัคซีน 1 เข็ม สามารถป้องกันการป่วยเข้าโรงพยาบาลได้ 52% ถ้าฉีด 2 เข็ม จะป้องกันเพิ่มขึ้นเป็น 72% แต่หลังจากผ่านไป 25 สัปดาห์ การป้องกันจะลดลงเหลือ 52% และหลังจากฉีดวัคซีนเข็ม 3 ไป 2 สัปดาห์ การป้องกันการเข้าโรงพยาบาลจะอยู่ที่ 88%

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะสรุปได้ว่าการป้องกันระดับนี้จะคงอยู่นานเท่าไร แต่คาดว่าจะป้องกันในระดับนี้ไปจนถึงช่วงที่เริ่มมีอาการป่วย โดยในกลุ่มผู้ที่เริ่มมีอาการ การป้องกันจะลดลงเหลือ 68% หลังจากฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน