ตามที่รักษาการแทน ผอ.สำนักพุทธศาสนา ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เหตุที่ถอดสมณศักดิ์ พระราชพัฒนาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง และเจ้าอาวาสวัดไชโยฯ มาจากคลิปเมื่อปี 2562 ปรากฏคลิปสีกากับพระรูปดังกล่าวอยู่กันสองต่อสองในกุฏิ 

แต่ต่อมา มีหญิงสาวที่ปรากฏในคลิปที่สำนักพุทธฯ อ้างนั้น แสดงตัวชี้แจงว่า เธอเป็นญาติของพระราชพัฒนาภรณ์ พร้อมระบุว่าในคลิปดังกล่าว เป็นวันทำบุญครบรอบ 100 วันให้แก่สมาชิกครอบครัวผู้ล่วงลับ ซึ่งเธอและพระรูปดังกล่าวเดินเข้าไปในกุฏิ เพื่อเอาของมาแจกแขกเหรื่อที่มาร่วมพิธีโดยใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที รวมถึงมีการแต่งกายมิดชิด และไม่มีการล่วงเกินแต่อย่างใดอย่างที่ถูกกล่าวหา 

จากกรณีเมื่อ 3 ม.ค. 2565 ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ถอดถอนสมณศักดิ์ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้รับสนอง เนื่องจากที่ประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2564 มีมติเห็นชอบให้ พระราชพัฒนาภรณ์ ออกจากตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง และเจ้าอาวาสวัดไชโยวรวิหาร พระอารามหลวง ‘ฐานหย่อนความสามารถ’

ก่อนที่ต่อมา เมื่อ 4 ม.ค. 2565 นายสิปบวร แก้วงาม รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการ (ผอ.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ระบุว่า เหตุที่ทำให้พระราชพัฒนาภรณ์ ถูกถอดถอนสมณศักดิ์ รองเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง มาจาก ปี 2562 ปรากฏคลิปสีกากับพระรูปดังกล่าวอยู่กันสองต่อสองในกุฏิ แล้วมีผู้ร้องเรียนมาให้คณะสงฆ์ จ.อ่างทอง ดำเนินการตรวจสอบ 

เมื่อพิจารณาจากคลิปแล้ว คณะสงฆ์ จ.อ่างทอง ลงมติว่าเป็นกริยาที่ดูไม่เหมาะสม เพราะเป็นพระเถระผู้ใหญ่ ทั้งยังมีตำแหน่งในการปกครองสงฆ์ระดับสูงถึงรองเจ้าคณะ จ.อ่างทอง และเจ้าอาวาสวัดไชโย จึงเสนอให้พ้นจากตำแหน่งดังกล่าว โดยมหาเถระสมาคม (มส.) มีมติเห็นชอบ ก่อนทำเรื่องกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทาน พระบรมราชานุญาตถอดถอนสมณศักดิ์

อย่างไรก็ตาม เมื่อ 5 ม.ค. 65 อรรวี แตงมีแสง แอดมินเพจเฟซบุ๊ก ‘Natty in Myanmar’ และเป็นเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์นามว่า ‘Natty Tangmeesang’ แสดงตัวว่าเป็นผู้หญิงที่ปรากฏตัวในคลิปที่สำนักพุทธฯ กล่าวอ้าง พร้อมระบุว่า "เรียนพี่ๆสื่อมวลชนค่ะ หลวงอาไม่ได้โดนถอดถอน เพราะเรื่องคลิปค่ะ หนูผู้ที่อยู่ในคลิปเป็นหลาน ย้ำอีกทีว่าเป็นหลาน ท่านไม่ได้มั่วสีกา อย่างที่พาดหัว หรือที่เขียนในข่าว เรื่องที่โดนถอดเพราะอะไรที่แท้จริงกันแน่คงต้องขอให้พี่ๆไปสอบถามทางผู้ที่ตัดสินนะคะ"

เรียนพี่ๆสื่อมวลชนค่ะ
หลวงอาไม่ได้โดนถอดถอน เพราะเรื่องคลิปค่ะ หนูผู้ที่อยู่ในคลิปเป็นหลาน ย้ำอีกทีว่าเป็นหลาน ท่านไม่ได้มั่วสีกา อย่างที่พาดหัว หรือที่เขียนในข่าว ~ เรื่องที่โดนถอดเพราะอะไรที่แท้จริงกันแน่คงต้องขอให้พี่ๆไปสอบถามทางผู้ที่ตัดสินนะคะ pic.twitter.com/EE2GdQkAH6

— Natty Tangmeesang (@natty_onravee) January 5, 2022

เหตุการณ์ในคลิป

ล่าสุด ผูุ้สื่อข่าวสัมภาษณ์ อรรวี แตงมีแสง เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โดยเธอชี้แจงว่า เจ้าอาวาสวัดไชโยมีศักดิ์เป็น ‘หลวงอา’ ของตนเอง แม้ไม่ได้ญาติสายตรงตามสายเลือด แต่นับถือเป็นคนในครอบครัวของเธอ นอกจากนี้ เธอยังรู้จักหลวงอาตั้งแต่สมัยเด็ก เนื่องจากลุงกับป้าของเธอเป็นโยมอุปัฏฐากตั้งแต่สมัยหลวงอายังเป็นพระหนุ่ม-เณรน้อย 

“เกิดมา โตมา ก็ไปอยู่ที่ จ.อ่างทอง จนอนุบาล 3 ถึงได้เข้ามาเรียนกรุงเทพฯ พอปิดเทอม ก็กลับอ่างทองตลอด ดังนั้น ก็จะโตมากับวัดมหานาม และวัดไชโย วิ่งเล่นในวัดไชโยมาตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่ท่านเจ้าอาวาสองค์เก่าๆ ก่อนท่านสิ้นไป จนหลวงอาขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ก็ไปวัดไชโยมาโดยตลอด ไปแทบทุกปีอยู่แล้ว หรืองานสำคัญ เธอจะกลับไปนมัสการหลวงอาที่วัดไชโยเป็นประจำอยู่แล้ว หลวงอาก็เปรียบเสมือนคนในครอบครัว” เธอกล่าวเพิ่ม

สำหรับเหตุการณ์ในคลิปเมื่อปี 2562 เธอชี้แจงว่า คลิปวิดีโอดังกล่าว ความยาว 45 วินาทีเท่านั้น ปรากฏภาพว่าเธอ และพระราชพัฒนาภรณ์ ขณะกำลังเดินออกจากกุฏิ 

เธอกล่าวต่อว่า วันนั้นเป็นวันทำบุญครบ 100 วันให้แก่สมาชิกครอบครัวผู้ล่วงลับ เมื่อเดือน พ.ค. 62 ซึ่งวันนั้นเธอกับพระราชพัฒนาภรณ์เดินเข้าไปหยิบของในกุฏิ เพื่อนำมาให้แขกเหรื่อและญาติที่มาร่วมพิธี โดยใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที อีกทั้ง การแต่งกายยังมิดชิด และไม่มีการล่วงเกินแต่อย่างใด 

อย่างไรก็ตาม หลังจากวันนั้น เพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่งโพสต์คลิปดังกล่าวออกมา และเขียนแคปชันไปในทางที่ไม่ดี ซึ่งเธอยืนยันว่าวันนั้นไม่มีการมั่วสีกา หรือล่วงเกินเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

เปลี่ยนคำตัดสิน?

นอกจากนี้ เธอตั้งคำถามด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าวแล้วครั้งหนึ่งเมื่อต้นปี 2563 โดยมี พระธรรมรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต จ.ปทุมธานี เป็นประธาน ซึ่งเธอได้ไปชี้แจงรายละเอียดที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว พร้อมกับแสดงหลักฐาน และหลังการสอบสวนครั้งนั้น เธอทราบความว่ามีมติว่ารองเจ้าคณะอ่างทองไม่มีความผิด 

แต่อย่างไรก็ตาม ภายหลังมีการปลดสมณศักดิ์ 'เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี' เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต และเปลี่ยนคำตัดสินเป็นตามที่เผยแพร่ในเว็บพระราชกิจจานุเบกษา

“คือคลิปที่คนนำไปตีความว่ามั่วสุมสีกาไม่เป็นความจริง มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราเป็นหลาน นี่คือจุดยืนที่อยากจะสื่อสาร เพราะว่าหลายๆ สื่อพาดหัวประมาณถอดสมณศักดิ์ เซ่นผิดอื้อฉาว ถอดสมณศักดิ์เพราะมั่วสุมสีกาเยอะมากเลย มันไม่ใช่ เขาไม่ได้โดนถอดสมณศักดิ์ เพราะคลิป การถอดสมณศักดิ์มีเงื่อนงำอะไรอยู่” เธอทิ้งท้าย 

ทั้งนี้ เว็บไซต์ไทยรัฐ เคยรายงานเมื่อ 6 ต.ค. 64 ระบุว่า พระธรรมรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต จ.ปทุมธานี ให้สัมภาษณ์สื่อต่อกรณีที่ตนเองถูกปลดสมณศักดิ์เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีว่า ไม่ทราบว่าทำผิดอะไรเช่นกัน 

“แต่เรื่องถอดถอนกับปลดเนี่ย มันอันตรายมากสำหรับพระ เหมือนถูกตัดคอ เหมือนถูกตัดหัว ประหารชีวิต เพราะฉะนั้นอาตมาอยากร้องขอความเป็นธรรม ญาติโยมมาให้กำลังใจ ถามอาตมาว่าเรื่องอะไร อาตมาก็ไม่รู้ตอบไม่ได้ พระมาให้กำลังใจ ถามว่าหลวงพ่อผิดอะไร อาตมาก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าผิดอะไร นี่คือสิ่งที่อาตมาได้รับ” พระธรรมรัตนาภรณ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อ 6 ต.ค. 64