Skip to main content
sharethis

สปสช. ห่วงใยประชาชน กทม. เว้นระยะห่าง ลดความเสี่ยงจากการเดินทางในสถานการณ์โควิด-19 ระบาด แนะติดต่อ สปสช. ทั้ง ลงทะเบียนบัตรทอง ยื่นร้องเรียน ร้องทุกข์ ขอรับเงินเยียวยาแพ้วัคซีนโควิด เป็นต้น ใช้ช่องทางสอบถามผ่าน สายด่วน สปสช. 1330, Line สปสช. @nhso และ เฟสบุ๊คสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรณีส่งคำร้องเอกสารใช้การจัดส่งทางไปรษณีย์แทน ไม่ต้องเดินทางด้วยตนเอง  

9 ม.ค. 2565 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. เปิดเผยว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญ ทั้งการเว้นระยะห่าง ลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขได้เน้นย้ำ โดย สปสช.ตระต่อสถานการณ์ดังกล่าว  

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่เดินทางมาติดต่อดำเนินการในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แก่ การยื่นเรื่องร้องเรียน/ร้องทุกข์, การลงทะเบียนบัตรทอง, การยื่นเอกสารเพื่อขอรับเงินเยียวยากรณีแพ้วัคซีนโควิด-19 และการยื่นอุทธรณ์ขอรับเงินเยียวยา การยื่นคำร้องเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือกรณีได้รับความเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข รวมถึงการยื่นเอกสารคำร้องต่างๆ โดย สปสช. เขต 13 กทม. ได้เปิดพื้นที่บริการรับเรื่องต่างๆ เหล่านี้ตรงบริเวณด้านหน้าของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ชั้น 2 อาคารรวมหน่วยงานราชการ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร  

อย่างไรก็ตาม ด้วยที่ผ่านมาได้มีประชาชนจำนวนมากเข้ามาติดต่อและรับบริการ ทำให้เกิดความล่าช้าและไม่สะดวก ประกอบกับขณะนี้อยู่ในช่วงที่ต้องมีการเว้นระยะห่างอย่างเข้มข้น จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงขึ้น ดังนั้นด้วยความห่วงใยที่ สปสช. มีต่อประชาชนจึงขอแนะนำท่านในช่วงระหว่างนี้ให้ใช้ช่องทางติดต่ออื่นแทน โดยในกรณีที่ต้องการติดต่อสอบถามข้อมูลต่างๆ ขอให้ใช้บริการผ่านสายด่วน สปสช. 1330 หรือผ่านระบบออนไลน์ 2 ช่องทาง คือ Line สปสช. @nhso และ Facebook สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (www.facebook.com/NHSO.Thailand/) รวมถึงดาวน์โหลดแบบคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือกรณีแพ้วัคซีนโควิดได้ที่เว็บไซต์ สปสช. https://www.nhso.go.th/downloads/175  โดยในกรณีที่ต้องนำส่งคำร้องหรือเอกสารต่างๆ ขอให้เป็นการจัดส่งทางไปรษณีย์แทน  

“คำร้องและเอกสารต่างๆ ของประชาชนที่ สปสช. ได้รับนั้น ไม่ว่าท่านจะมายื่นด้วนตนเองหรือส่งมาทางโดยการส่งพัสดุและไปรษณีย์ ทุกๆ คำร้อง ทุกๆ เอกสาร สปสช. ให้ความสำคัญเท่ากันในการเร่งดำเนินการและติดตาม เพื่อดูแลประชาชนให้เข้าถึงบริการและเร่งบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอไมครอนที่มีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้ช่องทางการเลือกในการติดต่อแทนการเดินทางมาที่ สปสช. ด้วยตนเอง เพื่อลดความเสี่ยงให้กับตัวท่านและครอบครัว” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว 

ทั้งนี้ กรณีส่งเอกสารคำร้องทางไปรษณีย์นั้น สามารถส่งได้ทั้งในระบบออนไลน์ผ่าน ไลน์ สปสช. @nhso หรือช่องทาง inbox Facebook สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (www.facebook.com/NHSO.Thailand/) 

แต่หากไม่สะดวกส่งออนไลน์ สามารถส่งไปรษณีย์ตามที่อยู่นี้  

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เลขที่ 120 หมู่ 3 ชั้น 4 อาคาร B ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso 

สปสช. ม.มหิดล ธพส. เปิดตรวจโควิด-19 ด้วย ATK ที่ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ 11-21 ม.ค.นี้

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่เริ่มกลับมาระบาดหนักจนมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในพื้นที่ กทม.ขณะเดียวกันก็มีประชาชนที่ต้องการเข้ารับการตรวจหาเชื้อเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล ได้มอบให้ สปสช.ประสานงานคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพิ่มจุดตรวจโควิด-19 เชิงรุก เพื่อสนับสนุนกรุงเทพมหานครและเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน โดยจะเริ่มตรวจตั้งแต่วันที่ 11-21 ม.ค. 2565 (หยุดวันเสาร์-อาทิตย์) เป็นต้นไป โดยตั้งเป้าตรวจวันละ 1,000 คน จุดตรวจเป็นจุดเดิมที่เคยเปิดตรวจโควิดด้วย ATK เมื่อเดือน ก.ค.2564 คือ ลานจอดรถชั้น 1 อาคารบี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ โดย คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล จะเป็นผู้ตรวจ เป็นความร่วมมือระหว่าง สปสช. คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.)  

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า การตรวจหาเชื้อโควิดดังกล่าว จะใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit หรือ ATK ที่ขึ้นทะเบียนแบบใช้โดยผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ (Professional Use) ซึ่งจะทราบผลตรวจภายใน 30 นาที โดยหากปรากฎว่าผลตรวจเป็นบวกหรือติดเชื้อก็จะเข้าสู่กระบวนการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) หรือในระบบชุมชน (Community Isolation)  

"ขอย้ำว่าเราไม่ได้ทอดทิ้งให้ท่านกลับไปอยู่บ้านเฉยๆ เราได้ออกแบบระบบรองรับไว้แล้ว โดยให้สถานพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นคลินิกชุมชนอบอุ่นหรือศูนย์บริการสาธารณสุข ในพื้นที่ที่ท่านพักอาศัยคอยติดตามดูแลสุขภาพของท่าน หากไม่สามารถดูแลที่บ้านได้เนื่องจากสภาพที่อยู่อาศัยไม่พร้อมก็จะเป็นการดูแลโดยชุมชนในสถานที่ที่ชุมชนจัดไว้ เช่น ศาลาวัด หอประชุมโรงเรียน ซึ่งขณะนี้กรุงเทพมหานคร รวมถึงภาคประชาสังคมได้ดำเนินการแล้ว โดยเมื่อทราบผลว่าติดเชื้อซึ่งส่วนใหญ่การพบการติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มการตรวจเชิงรุกคือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการหรือกลุ่มสีเขียว ก็จะมีการรายงานผลเข้าระบบฐานข้อมูลของ สปสช. ส่วนท่านกลับไปกักตัวที่บ้านก่อน อย่าออกไปไหน สปสช.จะจับคู่สถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อการดูแลให้ ซึ่งก็จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อไปหาท่านภายใน 6 ชั่วโมงตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดไว้" ทพ.อรรถพร กล่าว 

ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้านจะได้รับการดูแลติดตามอาการ บริการส่งยา ส่งอาหาร ส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ ที่วัดไข้แบบดิจิทัล เครื่องวัดค่าออกซิเจนปลายนิ้ว เป็นต้น ในกรณีที่จำเป็นอาจได้รับการเอกซเรย์ปอด การตรวจ RT-PCR จนหายป่วย หรือส่งต่อไปรักษาต่อในโรงพยาบาลกรณีอาการเปลี่ยนแปลง 

สำหรับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบการรักษา ให้ดำเนินการตามนี้เพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) 

1.โทร. สายด่วน สปสช. 1330 กด 14 หรือ 2.กรอกข้อมูลที่ https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI หรือ 3. เข้าทางไลน์ สปสช.โดยเพิ่มเพื่อน @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 (เลือกเมนูบริการเกี่ยวกับโควิด-19 หลังจากนั้นเลือกลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการดูแลที่บ้าน (Home Isolation) 

ต่างจังหวัดสามารถติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือ รพ.สต.ใกล้บ้านได้ แต่หากไม่สะดวก ติดต่อ 3 ช่องทางข้างต้น (ช่องทางใดช่องทางหนึ่ง) ได้เช่นกัน  

ภายใน 6 ชั่วโมงจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับเพื่อประเมินอาการเบื้องต้น (หากยังไม่ได้รับการติดต่อกลับภายใน 6 ชั่วโมงขอให้โทร.แจ้งที่สายด่วน สปสช. 1330 อีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่จะติดตามให้) 

โดยเจ้าหน้าที่จะประสานและจับคู่กับสถานพยาบาลเพื่อรักษาตามระบบการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้านต่อไป กรณี โทร.สายด่วน 1330 ไม่ติด เนื่องจากมีประชาชน โทร.เข้ามามาก ไม่ต้องกังวล สปสช.จัดเจ้าหน้าที่โทรกลับสายที่โทรไม่ติดเพื่อรับข้อมูลเข้าระบบ 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1330 ตลอด 24 ชม. หรือไลน์ สปสช. คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso หรือไลน์ สปสช-ตรวจโควิด พิมพ์เพิ่มเพื่อน @218qffqr  

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net