Skip to main content
sharethis

‘เพื่อไทย’ เดินหน้า ‘ตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ’ เผย ส.ส. เตรียมเข้าชื่อเสนอร่างแก้รัฐธรรมนูญ เข้าสภา พร้อมร่างของภาคประชาชน ‘ชลน่าน’ ยืนยันเจตนารมณ์พรรค มุ่งคืนประชาธิปไตย ขณะที่  ‘คณะรณรงค์แก้ไข มาตรา 272’ ยื่นหนังสือเพื่อไทยขอร่วมสนับสนุน หวังผลักดันให้สำเร็จก่อนเลือกตั้งใหญ่ เพื่อให้ได้รัฐบาลของประชาชนอย่างแท้จริง 

14 ม.ค. 2565 คณะรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 272 นำโดยสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมด้วยณัฏฐา มหัทธนา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และกัณตพัฒน์ เตชะกมลสุข เดินทางเข้ายื่นหนังสือที่พรรคเพื่อไทย เพื่อขอให้พรรคสนับสนุนการแก้ไขมาตรา 272 ลดอำนาจของสมาชิกวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยมีนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค ชัยเกษม นิติศิริ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคและกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พร้อมด้วยธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันรับหนังสือ 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีอุดมการณ์และเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย และได้มีการประกาศไว้ตั้งแต่ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งแล้วว่าจะมีการผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในมาตรา 272 นั้น พรรคพื่อไทยไม่เห็นด้วยตั้งแรกที่จะมีบทเฉพาะกาลมาตรานี้ แต่ฝ่ายที่ต้องการให้มีบทเฉพาะกาลมาตรานี้อ้างคำถามพ่วงที่ไปขอความเห็นประชาชนในการทำประชามติ แล้วไปอ้างการปฏิรูปประเทศให้เกิดความต่อเนื่องเพื่อให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาพิจารณาเห็นชอบบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี เอา ส.ว. มาเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งข้ออ้างนี้ฟังไม่ขึ้นตั้งแต่แรก ดังนั้นเมื่อมีการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ก็เห็นผลอย่างชัดเจนว่า เป็นเพียงช่องทางการสืบทอดอำนาจ แต่การปฏิรูปประเทศนั้นไม่มีความก้าวหน้าใดๆ ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่จะต้องพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของมาตรานี้

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว (ซ้าย) และสมชัย ศรีสุทธิยากร (ขวา)
 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยินดีอย่างยิ่งที่จะร่วมรณรงค์การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เพื่อคืนประชาธิปไตยให้ประชาชน ตัดอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยพรรคจะสนับสนุนในทุกมิติ โดยเฉพาะการพิจารณาในวาระ 1 วาระ 2 และวาระ 3 และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้งหมด 132 ที่นั่งจะเข้าชื่อกันเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรานี้ไปพร้อมกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของภาคประชาชน

“ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย มีโอกาสเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาแล้ว 2 ครั้ง โดยในปี 2563 พรรคได้เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรวม 5 ร่าง ซึ่งในนั้นมีร่างยกเลิกอำนาจวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี จากนั้นในปี 2564 พรรคเพื่อไทยเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้งรวม 5 ร่าง แต่สภาบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม 4 ร่าง ซึ่งได้เสนอให้แก้ไขที่มานายกรัฐมนตรี และยกเลิกอำนาจ ส.ว. ด้วย ซึ่งเราไม่ย่อท้อ ดังนั้นเจตนารมณ์ของพรรคเพื่อไทยซึ่งสอดคล้องกับข้อเสนอของภาคประชาชน จึงจะมีการผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป และพร้อมที่จะนำข้อเสนอนี้หารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อร่วมกันสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าว  

ด้าน ชัยเกษม กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นผลพวงของการรัฐประหาร ซึ่งหลังรัฐประหารผู้มีอำนาจก็ยัดเยียดให้ประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญ แต่หากเปรียบรัฐธรรมนูญเป็นอาหารก็เป็นอาหารที่ประชาชนไม่ปรารถนา เมื่อใช้ไปก็เกิดปัญหาตลอดเวลา ดังนั้นการเสนอให้มีการแก้ไขมาตรา 272 ครั้งนี้จึงถือเป็นการจุดประกาย นำไปสู่การแก้ไขในอีกหลายๆ เรื่องในอนาคต ดังนั้นจึงเห็นว่าควรได้รับการสนับสนุนและน่าจะสามารถทำได้หากได้รับความร่วมมือจากประชาชนและ ส.ส. ในสภา

 

ขณะที่ สมชัย กล่าวว่า ขอบคุณพรรคเพื่อไทย ที่ให้เกียรติรับหนังสือรณรงค์การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยมีจุดประสงค์สำคัญ 2 ประการคือ 1.ขอให้พรรคเพื่อไทย ที่มี ส.ส. มากที่สุดในสภา 132 คน มีฐานคะแนนเสียงของประชาชนนับ 10 ล้านคะแนน ให้ช่วยใช้กลไกของพรรคในการส่งข่าวสารถึงสมาชิกพรรคประชาชนว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันเข้าชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มากที่สุด ซึ่งจะมีการรณรงค์ในช่วงวันที่ 17 ม.ค.-16 เม.ย. นี้  และ 2. หากกฎหมายฉบับนี้มีโอกาสเสนอเข้าที่ประชุมสภาก็หวังว่า ส.ส. พรรคเพื่อไทยจะอภิปรายและลงมติสนับสนุน ทั้งในวาระ 1 วาระ 2 และวาระ 3 เพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นประชาธิปไตยและได้รัฐบาลที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง

สมชัย กล่าวว่า การรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 นี้ เป็นการผลักดันให้มีการแก้ไขเพียงประเด็นลดอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรีเพียงประเด็นเดียว แต่ถือเป็นเรื่องหลักการสำคัญในระบอบประชาธิปไตย เมื่อประชาชนเลือก ส.ส. ก็ควรให้ ส.ส. เป็นผู้เลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งนานาประเทศก็ใช้หลักการนี้ เพียงแต่ประเทศไทยได้บัญญัติไว้ในบทเฉพาะกาลให้ ส.ว. มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีในช่วง 5 ปีแรกโดยอ้างความจำเป็นต่อการปฏิรูปประเทศ แต่วันนี้บริบทต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว การที่ ส.ว. ได้รับเลือกมาจากผู้มีอำนาจบริหารแต่นายกรัฐมนตรี คือ ผู้แข่งขันในการเลือกตั้งจึงอาจทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขในประเด็นนี้ และหากทำสำเร็จได้ทันการเลือกตั้งครั้งต่อไปประชาชนก็มีโอกาสที่จะได้นายกรัฐมนตรีและผู้บริหารประเทศที่มาจากการเลือกตั้ง ทั้งนี้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยมี ส.ส. มากที่สุดในสภาถึง 132 คน มีประชาชนเลือกมากกว่า 10 ล้านคน เมื่อประชาชนเลือก ส.ส.มา  ส.ส.ก็ควรต้องมีอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย  จึงมีความตั้งใจที่จะนำเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 272 โดยจะเปิดตัวการรณรงค์นี้ในวันจันทร์ที่ 17 ม.ค. 2565 แม้ยังไม่ได้เปิดตัวแคมเปญอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันมีผู้ร่วมลงชื่อแล้ว 30,000 รายชื่อในเว็บไซต์ https://www.nosenatevote.net/ เมื่อครบ 70,000 รายชื่อจะนำเสนอต่อสำนักงานเสขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้บรรจุลงในวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขทันที

ในช่วง 3 เดือนของการรณรงค์แคมเปญนี้ ตนพร้อมคณะจะเดินสายพบทุกพรรคการเมืองให้ได้มากที่สุด รวมถึงพรรคที่ยังไม่มี ส.ส. ในสภา หรือพรรคการเมืองที่เพิ่งเปิดตัวด้วย เพราะเห็นว่าการแก้ไขมาตรา 272 ไม่ใช่ภารกิจของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เป็นภารกิจของทุกพรรคการเมือง นอกจากนี้จะเดินหน้าพูดคุยกับสมาชิกวุฒิสภา ทั้ง ศ.พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา รวมทั้งสมาชิกวุฒิสภา 56 คนที่เคยยกมือสนับสนุนร่างแก้ไขมาตรา 272 ยกเลิกให้ ส.ว. เลือกนายกรัฐมนตรี หากเป็นไปได้จะเดินทางไปขอแรงสนับสนุนด้วย

ด้านธีรรัตน์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยินดีที่คณะรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 272 เข้ามาพูดคุยกับพรรค ซึ่งถือว่ามีความสอดคล้องการทำงานของพรรคที่มีความพยายามทุกด้านที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราต่างๆ รวมทั้ง มาตรา 272 โดยข้อเรียกร้องสองข้อของคณะรณรงค์ฯ คือ ขอให้ประชาชนร่วมกันลงชื่อสนับสนุน และขอเสียง ส.ส.ทุกพรรคการเมืองร่วมยกมือสนับสนุน ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยทั้งผู้บริหาร ส.ส. และสมาชิกพรรค ยินดีที่จะสนับสนุนข้อเสนอนี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net