COVID-19: 16 ม.ค. 65 ไทยติดเชื้อเพิ่ม 8,077 ราย เสียชีวิต 9 ราย

ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในไทย ผู้ป่วยใหม่ 8,077 ราย สะสม 2,324,485 ราย รักษาหาย 4,887 ราย สะสม 2,222,011 ราย เสียชีวิต 9 ราย สะสม 21,925 ราย ฉีดวัคซีน (15 ม.ค. 2565) สะสม 109,369,708 โดส

16 ม.ค. 2565 ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในไทย ผู้ป่วยใหม่ 8,077 ราย สะสม 2,324,485 ราย รักษาหาย 4,887 ราย สะสม 2,222,011 ราย เสียชีวิต 9 ราย สะสม 21,925 ราย ฉีดวัคซีน (15 ม.ค. 2565) สะสม 109,369,708 โดส

คปภ.ยันประกันโควิด "เจอ จ่าย จบ" ยังเคลมได้

Thai PBS รายงานว่านายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า กรณีที่ศาลปกครองกลางนัดไต่สวนคดีที่บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กับพวกยื่นฟ้องตน เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เรื่อง ให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัทในกรมธรรม์ประกันภัย โควิด-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2565

ทั้งนี้ เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เรื่อง ให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย ไว้เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษาคดี หรือจนกว่าศาลจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น โดยได้นัดทั้ง 2 ฝ่ายมาไต่สวนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาว่าจะรับคำฟ้องไว้พิจารณาหรือไม่

ในระหว่างที่ศาลฯ ยังไม่ได้รับฟ้องและมีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราวฯ ตามที่บริษัทประกันภัยผู้ฟ้องคดียื่นคำขอ กรมธรรม์ประกันภัยโควิดแบบ เจอ จ่าย จบ ยังคงมีผลใช้บังคับและให้ความคุ้มครองตามปกติ กรณีผู้เอาประกันภัยติดเชื้อและมีหลักฐานยืนยัน ก็สามารถเคลมประกันภัยกับบริษัทประกันภัยที่ฟ้องคดีได้ต่อไป

หากต่อมาศาลฯ รับฟ้องและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว บริษัทฯ จะนำคำสั่งศาลมาเป็นเครื่องมือและอ้างในการนำมายกเลิกสัญญากับผู้เอาประกันภัย และจะทำให้ผู้เอาประกันภัยโควิดทั้งหมดกว่า 10 ล้านคนถูกลอยแพแน่นอน แต่ไม่ว่าศาลจะมีคำสั่งออกมาเป็นประการใด สำนักงาน คปภ. พร้อมยืนหยัดเคียงข้างประชาชน โดยจะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด

ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองและปกป้องสิทธิประโยชน์ของประชาชนและผู้เอาประกันภัย เพื่อไม่ให้เกิดบรรทัดฐานใหม่ที่ให้บริษัทประกันภัยจะใช้เป็นเหตุในการบิดเบือนนำเหตุที่เกิดจากการบริหารความเสี่ยงที่ผิดพลาดของตนเอง และผลักภาระกลับไปให้กับประชาชนและผู้เอาประกันภัย เพราะจะเป็นการทำลายความเชื่อมั่นและความเชื่อถือที่ประชาชนมอบให้บริษัทประกันภัยในการบริหารจัดการความเสี่ยง

นายสุทธิพล กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะเชิญบริษัทประกันภัยทั้ง 14 บริษัท ที่ขายประกันภัยโควิดแบบ เจอ จ่าย จบ มาประชุมเพื่อทำความเข้าใจ และขอให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและมั่นใจว่าระหว่างที่ศาลปกครองกลาง ยังไม่มีคำวินิจฉัยอะไรในเรื่องนี้ออกมา โดยบริษัทประกันภัยทุกบริษัทจะต้องดูแลประชาชนผู้เอาประกันภัยโควิด แบบเจอ จ่าย จบ ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย เพราะถือว่าคำสั่งนายทะเบียนยังมีผลตามกฎหมายอยู่ อีกทั้งยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและเพื่อไม่ให้กระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบประกันภัย นอกจากนี้​ ยังตั้งทีมช่วยเหลือบริษัทประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากประกันภัยโควิดแบบ เจอ จ่าย จบ ด้วย จนลุกลามกระทบต่อความเชื่อถือของประชาชน​

สธ. ชี้ยังประมาทไม่ได้ ยกอุทาหรณ์หญิงชราอัลไซเมอร์ติดโอไมครอน ฉีดไฟเซอร์ครบ 2 เข็ม แต่ยังเสียชีวิต

สำนักข่าวไทย รายงานว่านพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีตัวเลขผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 10 คนว่า เรื่องดังกล่าวก็เป็นไปตามข้อมูลที่สะท้อนออกมาต่อเนื่องและเป็นไปตามคาดการณ์ ที่ว่า เมื่อหลังเทศกาลปีใหม่ จำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มมากขึ้น ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตอาจไม่มาก โดยวันนี้ 16 ม.ค. 2565 พบผู้ป่วยติดเชื้อ 8,077 คน ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 509 คน ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 108 คน และเสียชีวิต 9 คน จะเห็นว่าจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการหนักเริ่มคงที่ ไม่มากเหมือนในอดีต ทั้งนี้เป็นผลมาจากการรับวัคซีน ที่ค่อยเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งอาการของโรคก็ไม่ได้มีความรุนแรง แต่จะก่อโรค หรืออาการรุนแรงในผู้ป่วยกลุ่ม 608 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่พบผู้เสียชีวิตมากขึ้น แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ ต้องระวัดระวังตนเอง แม้ว่าประชาชนจะให้ความร่วมมือดี สวมหน้ากากอนามัย ระยะห่าง ลดกิจกรรมเสี่ยง และมีการ WFH แต่ยังต้องเข้มมาตรการต่อไป จนกว่าสถานการณ์หรือมีแนวโน้มที่น่าไว้วางใจ ค่อยมีการผ่อนคลายมาตรการ

นพ.โอภาส กล่าวว่า ส่วนวันนี้ที่มีรายงานพบผู้เสียชีวิต ติดเชื้อโอไมครอน ได้รับรายงานว่า เกิดขึ้นที่ จ.สงขลา เป็นหญิง อายุ 86 ปี ป่วยอัลไซเมอร์ อยู่ในกลุ่มผู้ป่วย 608 แม้จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ ครบ 2 เข็มแล้วแต่ก็ยังป่วยติดเชื้อ จากลูกหลานที่ไปเยี่ยมในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงยังคงต้องย้ำเตือนให้ระวังในกลุ่มคนที่ต้องใกล้ชิดผู้ป่วยเปราะบาง ต้องเคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคล สวมหน้ากากอนามัย เคร่งครัด ระยะห่าง ล้างมือ และควรนำกลุ่มเปราะบางเหล่านี้ ที่เป็นผู้สูงอายุ และป่วยเรื้องรัง ที่รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว มารับวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือเข็ม 3 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน โดยขอย้ำอีกครั้งว่า คนที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 เมื่อเดือน ต.ค. 2564 ควรจะได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือเข็มที่ 3 ได้แล้วในเดือน ม.ค. 2565 เพราะการรับวัคซีนแม้ไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อ 100% แต่ช่วยลดความรุนแรงของโรคและป่วยหนักได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท