Skip to main content
sharethis

อุตตม สนธิรัตน์ อดีตหัวหน้า-เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ประกาศตั้งพรรค “สร้างอนาคตไทย” นัดเปิดตัวฟอร์มใหญ่วันพุธ 19 ม.ค.นี้

“สองปีหายไปไหน ตั้งพรรคใหม่ชื่ออะไร ใครร่วมบ้าง อยู่ขั้วไหน เป็นอะไหล่หรือนอมินีให้ใคร แคนดิเดตนายกฯ ชื่อสมคิดหรือเป็นใคร เศรษฐกิจแย่แก้อย่างไร นโยบายทำได้จริงไหม”

“สองกุมาร” ตั้งประเด็นดักทาง รู้ว่าสื่อจะถามอะไร แหม ตอบให้ก็ได้ เราไม่อยู่ขั้วไหน เราไม่เป็นนอมินีใคร เฮียกวงสมคิดหรือ น่าจะยังไม่เปิดตัว อมพะนำไว้ก่อน

นโยบายก็นี่ไง ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บาท ปริญญาตรีเงินเดือน 20,000 อาชีวะ 18,000 เด็กจบใหม่เว้นภาษี 5 ปี พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เว้นภาษี 2 ปี บุคคลธรรมดาลดภาษี 10% ภายในปี 2565 รถเมล์ร้อนต้องสูญพันธุ์ ฯลฯ นโยบายพลังประชารัฐที่ไม่ได้ทำสักอย่าง โปรดอย่าโทษสองกุมาร โดนนักการเมือง (ชั่ว) อัปเปหิ

ในแง่การเมืองการตลาด การเกิดพรรคใหม่แบบสร้างอนาคตไทย อ่านไต๋ง่ายมาก เรือแป๊ะเทกระจาด ข้าวยากหมากแพง โควิดตายเกลื่อน แม้ประยุทธ์ยังอยู่ได้ แต่อาจไม่ครบวาระ ไปเมื่อไหร่ก็ไปลับ ยากจะหวนกลับมา แม้แต่พรรคพลังประชารัฐก็อาจไม่เสนอชื่อประยุทธ์เป็นแคนดิเดตแต่ผู้เดียวเหมือนปี 62 เพราะใช้หาเสียงลำบาก

ตลาดจึงเปิดกว้าง ให้กับพรรคการเมืองใหม่ ที่วางจุดขายเป็นเทคโนแครต มีความสามารถทางเศรษฐกิจ ในทางการเมืองก็ “พ้นไปจากประยุทธ์” (แต่ไม่เป็นศัตรูประยุทธ์นะ) และไม่น่ากลัวเหมือนไอ้พวกเสื้อแดงเพื่อไทยก้าวไกลสามกีบ เราอยู่ตรงกลาง ๆ ประนีประนอม แถมเป็นคนดี ไม่ใช่นักการเมืองยี้แบบที่เคยกวาดต้อนมาหนุนตู่

“…เรามีปัญหามากมาย หลายปัญหาฝังรากลึกทำร้ายประเทศมานานเกินควรแล้ว …ดังนั้นเราจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากมาร่วมกันจัดการกับปัญหาที่มีอยู่ เราไม่มีเวลาที่จะไปบอกว่า ใครถูก ใครผิด แต่เราจะต้องไม่ซ้ำเติมปัญหาและสถานการณ์ที่เป็นอยู่”

อุตตมโพสต์อย่างหล่อ คงโดนใจทัศนคติแบบไท้ยไทย ธุรกิจลงทุนแบบไท้ยไทย ทะเลาะกันทำไม มองไปข้างหน้าดีกว่า ใครกดขี่บีฑาเหยียบหัวกระทืบทุบตีแทงฆ่า ก็เลิกแล้วต่อกันเสีย ไม่มีใครผิดใครถูกหรอก ทำมาหากินดีกว่า

สังคมไทยแก้ปัญหาแบบซุกขยะใต้พรม ละเลยความเป็นธรรมความชอบธรรมเสมอมา แต่ครั้งนี้ไม่ง่ายนะ ถ้าคิดแต่จะประนีประนอมโดยไม่คำนึงถึงหลักการ เอาง่าย ๆ จะทำอย่างไรกับรัฐธรรมนูญ 2560 ที่มี 250 ส.ว.โหวตนายกฯ หรือรออีก 2 ปีก็หมดวาระเอง แล้วจะทำอย่างไรกับกลไกอำนาจศาล องค์กรอิสระ รัฐราชการเป็นใหญ่ อำนาจกองทัพ อำนาจชนชั้นนำที่กดทับเสรีภาพประชาธิปไตย

โครงสร้างอำนาจที่เป็นอยู่มันไม่ใช่แค่ตัวประยุทธ์ อย่าหลอกกันว่าหาคนที่เก่งกว่าประยุทธ์แล้วจะแก้ปัญหาประเทศได้

พรรคการเมืองเกิดใหม่ในแนวเดียวกัน ไม่ได้มีแค่สร้างอนาคตไทย จะมีอีกหลายพรรคฉวยโอกาสจากความเสื่อมของประยุทธ์ ทั้งอ้างตัวเป็นกลาง ไม่อยู่ขั้วไหน ทั้งเป็นฝ่ายประชาธิปไตยนะ แต่จับมือกับทุกคนได้ ทั้งเป็นฝ่ายอนุรักษนิยมเป่านกหวีด แต่เก่งกว่าตู่ (พรรคกล้านั่นไง)

ในความเป็นจริง ประยุทธ์อยู่บนฐานอำนาจสองด้าน ด้านหนึ่งคือกลไกรัฐประหาร เครือข่ายอำนาจอนุรักษนิยม รัฐราชการ ทหาร ตุลาการ 250 ส.ว. อีกด้านคือฐานการเมืองย้อนยุค ระบบอุปถัมภ์ หาเสียงว่าใครมีตังค์มากกว่า สมัยหน้า “บ้านใหญ่” ทุกพรรคจะยิ่งทุ่มหนัก

เพียงแต่ตัวประยุทธ์นับวันคนยิ่งเห็นว่าไร้ความสามารถ ไปต่อไม่ไหว จึงเกิดการแข่งขันสร้างภาพเสนอตัวเป็นคนใหม่มารับใช้ระบอบเดิม

ไม่ได้ปรามาสนะ เชื่อว่าพรรคอุตตม-สนธิรัตน์ น่าจะประสบความสำเร็จ เพราะคนจำนวนไม่น้อยยังชอบซื้อหุ้นพรรคหล่อ ๆ กลวง ๆ กลาง ๆ อย่างนี้ ยังหวังว่าปัญหาประเทศจะจบแบบโลกสวย

 

ที่มา: ข่าวหุ้นธุรกิจ https://www.kaohoon.com/column/508316

ที่มาภาพ: Flickr iLaw TH

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net