นศ.ธรรมศาสตร์ ฟ้องกลับ สตช. กรณีออกหมายจับ ม.112 ผิดพลาด ทั้งที่ตัวเองไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุ ด้าน สตช.รับว่าออกหมายจับจริง ศาลนัดสืบพยายานปลายปีนี้
24 ม.ค.2565 สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน รายงานผ่านเฟซบุ๊ก 'Human Rights Lawyers Association' ว่า วันนี้ (24 ม.ค.65) เวลา 9.00 น. ศาลแพ่งกรุงเทพใต้กำหนดนัดชี้สองสถานและกำหนดแนวทางการดำเนินคดี หรือสืบพยานโจทก์ คดี ชยพล ดโนทัย นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฟ้องกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กรณีถูกออกหมายจับคดี ม.112 ผิดพลาด โดยขณะเกิดเหตุชยพลอยู่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไม่ได้อยู่บริเวณรอบมหาลัยวิทยาลัยธรรมศาสตร์ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุดังที่ถูกกล่าวหา
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ระบุว่า คดีนี้ชยพลได้ยื่นฟ้องไปเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2564 เป็นคดีหมายเลข พ.1389/2564 ศาลได้มีคำสั่งนัดไต่สวนยกเว้นค่าธรรมเนียมในวันที่ 9 ส.ค.2564 แต่ได้เลื่อนการไต่สวนมาเป็น 22 ก.ย.2564 ซึ่งศาลได้มีคำสั่งยกเว้นค่าธรรมเนียม (ค่าขึ้นศาล) แล้วในวันดังกล่าว
ในวันนี้ ณ ห้องพิจารณาที่ 909 ทนายจำเลยแถลงรับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นในเรื่องหมายจับว่า เจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง หน่วยงานในสังกัดของจำเลย ได้ดำเนินการขอออกหมายจับโจทก์จริง ต่อศาลจังหวัดธัญบุรี และศาลได้ออกหมายจับโจทก์ แต่ต่อมาได้มีการยื่นคำร้องขอยกเลิกหมายจับโจทก์ ซึ่งศาลจังหวัดธัญบุรีไต่สวนแล้วมีคำสั่งเพิกถอนหมายจับโจทก์
ศาลตรวจคำฟ้องและคำให้การแล้ว คดีมีประเด็นข้อพิพาทดังนี้
1. เจ้าหน้าที่ในสังกัดของจำเลยกระทำละเมิดตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ต่อโจทก์หรือไม่
2. โจทก์ได้รับความเสียหายและจำเลยต้องรับผิดชำระค่าเสียหายแก่โจทก์หรือไม่ เพียงใด
3. โจทก์ขอให้บังคับจำเลยลงประกาศขอโทษในสื่อสิ่งพิมพ์สาธารณะและผ่านเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ของจำเลยตามคำขอท้ายฟ้องข้อหนึ่งได้หรือไม่
4. โจทก์มีอำนาจฟ้องบังคับให้จำเลยลบข้อมูลประวัติอาชญากรที่มีการลงข้อมูลหมายจับโจทก์ในระบบฐานข้อมูลทั้งหมดในหน่วยงานของจำเลย หรือให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยตามคำขอท้ายฟ้องข้อสองได้หรือไม่
ศาลกำหนดวันนัดสืบพยานในคดีจำนวน 2 นัด โดยนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 8 ธันวาคม 2565 เวลา 09.00 น. และนัดสืบพยานจำเลยวันที่ 9 ธันวาคม 2565 เวลา 09.00 น. ณ ศาลแพ่งกรุงเทพใต้