ที่ประชุมครม. เคาะ 34,800 ล้านบาท เดินหน้าโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 และอนุมัติโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 กรอบวงเงิน 8,070.724 ล้านบาท เริ่มต้น 1 ก.พ. นี้
24 ม.ค.2565 เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลรายงานมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 โดย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.มีมติ อนุมัติโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 กรอบวงเงิน 34,800 ล้านบาท โดยใช้จ่ายเงินกู้ตาม พ.ร.ก. กู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 64 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจนถึงระดับฐานรากอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยทุกระดับมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ และเป็นการลดภาระ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้กับประชาชน ระยะเวลาดำเนินโครงการ ตั้งแต่ เดือน ก.พ. – เม.ย. 65 โดยรูปแบบการดำเนินโครงการ ฯ ยังเหมือนเดิม คือ ภาครัฐร่วมชำระค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าและบริการทั่วไปในอัตรา ร้อยละ 50 ไม่เกิน 150 บาทต่อคน ต่อวัน และไม่เกิน 1,200 บาทต่อคนทั้งโครงการ ฯ
ธนกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมฯ มีความเห็น พิจารณาปรับช่วงเวลาเริ่มต้นของโครงการให้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 1 ก.พ. 65 จากเดิมที่กำหนดไว้ ในวันที่ 21 ก.พ. 65 โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ไม่เกิน 29 ล้านคน และร้านค้ารายย่อยที่เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมโครงการฯ แล้ว ประมาณ 28 ล้านคน สามารถยืนยันตัวตนและเริ่มใช้สิทธิตั้งแต่ 1 ก.พ. ขณะเดียวก็เปิดสิทธิเพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิให้สำหรับผู้สนใจและยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการ ฯ โดยเปิดลงทะเบียนในวันที่ 10 ก.พ. นี้ จนกว่าจะครบ 1 ล้านสิทธิ โดยจะสามารถใช้สิทธิโครงการฯ ได้ตั้งแต่ 17 ก.พ. นี้
ธนกรกล่าวว่า โครงการ คนสะครึ่ง เฟส 4 มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไข รวมทั้งมีการขยับช่วงเวลา เริ่มต้นของโครงการฯ ด้วย ให้เร็วขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์บรรเทาค่าครองชีพในภาวะปัจจุบันที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยคำนึงถึงการใช้งบประมาณ อย่างคุ้มค่าและเหมาสมด้วย
ส่วน โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 นั้น ธนกร ระบุว่าที่ประชุม ครม. อนุมัติโครงการภายใต้กรอบวงเงิน 8,070.724 ล้านบาท และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 กรอบวงเงิน 1,351.981 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้ที่ต้องการ ความช่วยเหลือเป็นพิเศษในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่เดือน ก.พ. – เม.ย. 65
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมฯ ยังได้มีความเห็นให้พิจารณาปรับช่วงเวลาเริ่มต้นของโครงการให้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 1 ก.พ. 65 จากเดิม ที่กำหนดไว้ในวันที่ 21 ก.พ. 65 เพื่อให้ภาครัฐสามารถให้ความช่วยเหลือ แก่ประชาชนผู้ถือบัตรในโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4จำนวนไม่เกิน 13.45 ล้านคน (ณ วันที่ 25 มกราคม 2565) และ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 จำนวน 2.25 ล้านคน ให้สามารถซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้า ร้านค้า หรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ รวมทั้งสิ้น 600 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
“ทั้งนี้ ได้มี พิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขของโครงการ ให้สอดคล้องกับ การปรับช่วงเวลาเริ่มต้นของโครงการ เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ในสถานการณ์ในปัจจุบันที่ค่าครองชีพ ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงยังได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการกำกับและติดตาม การดำเนินโครงการ เพื่อป้องกันการแสวงหา ประโยชน์จากการดำเนินโครงการโดยมิชอบได้ อาทิ ร้านค้าที่รับสแกนสิทธิ์แลกเปลี่ยนเป็นเงินสด อีกด้วย” ธนกรกล่าว