ศปปส.-ศชอ. และ อานนท์ นิด้า แถลงข่าวแจ้งเบาะแสได้ดำเนินคดีและจับกุมกบฏล้มล้างการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ หน้า สน.ปทุมวัน
14 ก.พ.2565 เมื่อเวลา 18.02 น. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน' ของ ศูนย์รวมประชาชาชนปกป้องสถาบัน(ศปปส.) โพสต์รายงานว่า วันนี้ (14 ก.พ.) เวลา15.30น. ศปปส.นำโดย อานนท์ กลิ่นแก้ว ร่วมกับ อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ และศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) ร่วมกันแถลงข่าวแจ้งเบาะแสได้ดำเนินคดีและจับกุมกบฏล้มล้างการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ หน้า สน.ปทุมวัน
สำหรับ อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ เป็นอาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า โดย วอยซ์ออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่า การแถลงข่าว แจ้งเบาะแสให้จับกุมและดำเนินคดีกบฏล้มล้างการเมืองการปกครองฯ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยไว้ เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2564 เวลาล่วงเลยมากว่า 3 เดือนแล้วนับแต่วันที่มีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แต่กลับไม่มีการดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 และมาตรา 116 ซึ่งเป็นคดีใหญ่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ต้องดำเนินการโดยด่วนเพื่อปกป้องรักษาชาติบ้านเมืองและหลักนิติรัฐ ทั้งนี้ ดร.อานนท์ และเครือข่ายฯ
เรียกร้องให้ดำเนินการจับกุมตัวผู้บงการ และต้องให้กันเยาวชนที่ตกเป็นเหยื่อ หรือเครื่องมือทางการเมือง โดยอาจจะถูกหลอกใช้ ได้รับอามิสสินจ้าง หรือขู่เข็ญบังคับ ออกมาเป็นพยานและให้การซัดทอดเพื่อสามารถดำเนินคดีกับตัวผู้บงการได้อย่างมีหลักฐานแน่นหนา และหลังจากนี้ 1 เดือน ทางเครือข่ายจะมาติดตามผล
"เด็กอยากเป็นฮีโร่กันทุกคน อยากเป็นวีรบุรุษ เป็นคนสำคัญ การที่เด็กที่อาจจะไม่เคยมีความสำคัญอะไร แล้ววันหนึ่งได้ขึ้นมาแสดงบทบาทเป็นผู้นำ ส่วนหนึ่งเราก็ต้องโทษสังคมเหมือนกันว่า เราไม่มีที่ให้เขาแสดงออกในความเป็นฮีโร่ คนที่เขาเข้าใจจิตวิทยาเด็ก เขาก็ใช้งานเด็กได้" อานนท์ กล่าว
นอกจากนี้ อานนท์ยังฝากบอกไปยังพ่อแม่ ผู้ปกครอง และผู้ใหญ่ในสังคมว่า อย่ารังเกียจเด็กเหล่านี้ถ้าเขาจะกลับใจ แต่ต้องโอบรับเขา เด็กอาจจะรู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นผิด ดังนั้น ท่าทีของสังคมที่ถูกคือต้องเปิดใจและมีเมตตากับเด็ก ตนจึงอยากขอร้องวิงวอนกับสังคมในเรื่องนี้ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีบทบาทสำคัญในการนำลูกให้กลับมาร่วมมือกับทางราชการ พร้อมทั้งให้การสนับสนุน ยอมรับลูกอย่างไม่มีเงื่อนไข ต้องเริ่มจากความเข้าใจในบ้าน ก่อนจะขยับไปสู่ความเข้าใจในระดับสังคม