Skip to main content
sharethis

รัสเซีย “บุก” ยูเครน ด้วยวิธีการแบบปูติน รับรองเอกราชของโดเนตสค์-ลูฮานสค์ แล้วส่งทหารเข้าไป “รักษาสันติภาพ” ในดินแดนทั้งสองแห่ง ที่เป็นกบฏแบ่งแยกดินแดนจากยูเครน

เป็นที่รู้กันว่า ปูตินไม่พอใจไม่ต้องการให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต อ้างว่าโลกตะวันตกจะใช้ยูเครนเป็นฐานทัพ เหมือนเอาปืนมาจ่อหลังบ้านตัวเอง

ในแง่ยุทธศาสตร์ ปูตินคงไม่บุกยึดยูเครน จนเป็นชนวนลุกลามให้เกิดสงครามใหญ่กับชาติตะวันตก แต่ใช้วิธียึดรัฐกบฏทั้งสองแห่งมาเป็นบริวาร หากจะเกิดการรบกับยูเครน ก็คงเป็นเฉพาะจุด ในดินแดนทั้งสองแห่งนั้น ซึ่งแน่ละ ยูเครนสู้ไม่ได้หรอก และชาติตะวันตกก็จะไม่สามารถเข้าไปช่วยเต็มตัว

ท้ายที่สุด ก็คงจะมีการเจรจาไกล่เกลี่ยแบบยูเครนจำต้องเสียดินแดน เหมือนที่เคยเสียไครเมีย ซึ่งรัสเซียใช้กำลังยึดไปแล้วให้ทำประชามติ ผลออกมาว่าประชาชนยินดีอยู่กับรัสเซีย (แหงสิ ลองนึกถึงการทำประชามติรัฐธรรมนูญ 2560 ก็คล้ายกัน)

โลกก็คงถอนหายใจโล่งอก หุ้น-คริปโต กลับมาขึ้น ราคาทอง-น้ำมันลด ยุโรปก็ซื้อขายน้ำมัน แก๊สธรรมชาติ กับรัสเซียต่อไป แต่ปูตินคงไม่หยุดแค่นั้น คงคุกคามสร้างความหวาดกลัวเพื่อทำให้ยูเครนกลับไปเป็นดินแดนในอิทธิพล เหมือนที่เคยทำกับจอร์เจีย

เพราะในกลุ่มประเทศที่เคยเป็นบริวารสหภาพโซเวียต ก็มีความขัดแย้งกันเองระหว่างฝ่ายนิยมรัสเซียกับฝ่ายที่ต้องการเป็นอิสระเป็นตัวของตัวเอง แต่ถูกเรียกว่านิยมตะวันตก เพราะต้องหันไปพึ่งโลกตะวันตกอย่างเลี่ยงไม่ได้

ยูเครนก็ขัดแย้งกันสองฝ่ายมาตั้งแต่แยกประเทศ โดยมีลักษณะภูมิภาคนิยม คือฟากตะวันออกที่อยู่ติดรัสเซียและเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ยังนิยมรัสเซีย แต่ฟากตะวันตกซึ่งเจริญกว่า เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม ต้องการเป็นแบบยุโรป

ความขัดแย้งปะทุเป็น “ปฏิวัติสีส้ม” ในปี 2004 ประชาชนลุกฮือประท้วงโกงเลือกตั้ง ที่แข่งกันระหว่าง วิคตอร์ ยานูโควิช ตัวแทนฝั่งรัฐบาล และวิคตอร์ ยุชเชนโก ตัวแทนฝ่ายค้าน ซึ่งเลือกตั้งใหม่ ยุชเชนโกชนะถล่ม แต่หลังจากบริหารประเทศไม่ได้ตามคำสัญญา ยานูโควิชกลับมาชนะในปี 2010 กระทั่งถูกไล่จากการชุมนุมประท้วงในกรุงเคียฟ เมื่อปี 2014 เพราะไม่ยอมเข้าร่วมสหภาพยุโรป และนิยมรัสเซีย

หลังการประท้วงใหญ่ครั้งนั้นซึ่งเรียกว่า Revolution of Dignity ยานูโควิชก็ลี้ภัยไปอยู่รัสเซีย โดยตามข่าวล่าสุด เป็นหนึ่งในนักการเมืองที่มีบัญชีลับฝากเงินเครดิตสวิส

เมื่อย้อนดูความเป็นมา ก็อ่านเกมได้ว่า รัสเซียต้องการกดดันข่มขู่ให้ประชาชนยูเครนหวาดกลัว ยอมจำนน ยอมกลับมาอยู่ใต้อิทธิพล พร้อมกับให้ฝ่ายนิยมรัสเซียฮึกเหิม แล้วใช้ทุกวิธีการหนุนหลังให้พวกพ้องของยานูโควิชชนะเลือกตั้งอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ จะไม่สามารถประท้วงขับไล่ได้อีก เพราะจะเป็นอย่างเบลารุส ประชาชนล้นหลามประท้วงโกงเลือกตั้ง รัสเซียก็หนุนหลังเผด็จการผูกขาด ลูคาเชนโก ให้ปราบปรามประชาชน ไม่ต่างจากส่งทหารเข้าไปช่วยรัฐบาลคาซัคสถานปราบผู้ประท้วง

ปูตินก็เป็นผู้นำผูกขาดของรัสเซีย ปราบฝ่ายค้าน จำกัดเสรีภาพสื่อ ปลุกชาตินิยม กระตุ้นปมด้อยคนรัสเซียที่อยากกลับไปเป็นมหาอำนาจแบบยุคสตาลิน จนสนับสนุนปูตินแผ่อิทธิพล เอาประเทศรอบข้างกลับมาเป็นบริวาร

ทั้งที่ประชาชนยูเครนเสียงข้างมากต่อต้าน ต้องการมีเอกราชอธิปไตยตัดสินอนาคตของตัวเอง

ปัญหาของโลกปัจจุบันคือแต่ละประเทศก็คำนึงถึงผลประโยชน์ทางการค้าการลงทุน ถ้าไม่ขัดแย้งลุกลามจนเกิดสงครามใหญ่ แม้ประณามบอยคอต ก็ไม่กล้าตัดความสัมพันธ์ เช่นยุโรปต้องพึ่งแก๊สรัสเซียสร้างความอบอุ่นในบ้านเรือน หรือโลกต้องพึ่งจีนผลิตสินค้า พอรัสเซียกับจีนหนุนทหารพม่าฆ่าประชาชน ก็ทำอะไรไม่ได้

เหตุการณ์ทำนองนี้จะเกิดต่อไป โดยคนจำนวนหนึ่งยังหัวปักหัวปำด่าอเมริกันอันธพาล เชียร์รัสเซียเชียร์จีนคุกคามยูเครนไต้หวัน โดยไม่เห็นหัวประชาชนในประเทศเหล่านั้นว่าเขาต้องการมีอำนาจอธิปไตยของตัวเอง

 

ที่มา: ข่าวหุ้นธุรกิจ https://www.kaohoon.com/column/515386

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net