จำนวนผู้อพยพหนีภัยสงครามในยูเครนคาดว่าจะถึง 1.5 ล้านคนในวันนี้ (6 มี.ค.) ขณะที่รัสเซียยังคงเดินหน้าโจมตียูเครนเป็นวันที่ 11 ด้านรัฐบาลยูเครนกดดันให้ชาติตะวันตกลงมือดำเนินการซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียและส่งความช่วยเหลือด้านอาวุธ

6 มี.ค. 2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าทั้งรัฐบาลมอสโกและรัฐบาลเคียฟ ต่างกล่าวโทษกันไปมาที่ทำให้แผนการหยุดยิงล้มเหลว แผนหยุดยิงนี้มีเป้าหมายเพื่อให้พลเรือนอพยพหนีออกจากเมืองมารียูปอลและเมืองวอลโนวากา เมืองทางใต้ทั้งสองเมืองที่ถูกกองทัพรัสเซียยึดไว้ การเจรจารอบต่อไปกำหนดจะมีขึ้นในวันจันทร์ โดยชาวยูเครนที่สามารถอพยพได้พากันเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านของยูเครน ได้แก่ โปแลนด์ โรมาเนีย สโลวะเกียและประเทศอื่น ๆ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวปราศรัยทางโทรทัศน์เมื่อคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ขอให้ประชาชนในพื้นที่ที่ถูกทหารรัสเซียยึดครองให้เดินหน้าต่อต้านต่อไปและขอให้สู้เพื่อขับไล่ทหารรัสเซียออกไป ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวย้ำอีกครั้งก่อนหน้านี้ว่า เขาต้องการจะปลดอาวุธและกำจัดระบบนาซีของยูเครนและกล่าวถึงมาตรการลงโทษของชาติตะวันตกว่าเป็นเสมือนการประกาศสงครามกับรัสเซีย

รัสเซียโบ้ยยูเครนทำข้อตกลงหยุดยิงคว่ำ

อีกอร์ โคนาเชนโก โฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย แถลงเมื่อวานนี้ (5 มี.ค.) ว่าข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเพื่อมนุษยธรรมในเมืองมาริอูโปล และ โวลโนวาคา ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนได้สิ้นสุดลงก่อนจะมีพลเรือนอพยพตามเส้นทางที่ปลอดภัยที่กำหนดกันไว้ เป็นเพราะกลุ่มชาตินิยมในยูเครน ทำให้ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวยุติลง การโจมตีของรัสเซีย เริ่มเปิดฉากถล่มเป้าหมายในยูเครนอีกครั้งในเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับเวลา 22.00 น. วันเดียวกัน ตามเวลาในไทย เนื่องจากฝ่ายยูเครนไม่จริงใจในการกดดันกลุ่มชาตินิยม หรือ ขยายข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว

ด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมต.กระทรวงต่างประเทศรัสเซีย กล่าวหาเจ้าหน้าที่ยูเครนว่าไม่ยอมให้พลเรือน หรือ การส่งสิ่งของความช่วยเหลือ ผ่านเส้นทางระเบียงมนุษยธรรมที่ตั้งขึ้นร่วมกันในข้อตกลงหยุดยิง ทั้งในเมืองมาริอูโปล และที่เมืองเคอร์ซัน ที่มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ยูเครนไม่ยอมรับสิ่งของช่วยเหลือ และยังกล่าวโจมตีนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ว่าหวังพึ่งแต่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ แก้ปัญหามากกว่าใช้การเจรจา อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยูเครน ระบุก่อนหน้านี้ว่า ข้อตกลงหยุดยิงได้สิ้นสุดลง เพราะฝ่ายรัสเซียเปิดฉากยิงปืนใหญ่โจมตียูเครน

รมว.ต่างประเทศสหรัฐ มั่นใจยูเครนชนะรัสเซียแน่นอน

เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2565 นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) หลังจากพบหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) ที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการตระเวนเยือนยุโรป 6 วัน เขาชื่นชมชาวยูเครนที่มีความสามารถในการปรับตัวได้อย่างดีเยี่ยม หากรัสเซียต้องการโค่นล้มรัฐบาลยูเครนชุดปัจจุบันเพื่อตั้งรัฐบาลหุ่นเชิด รัสเซียจะถูกชาวยูเครนทั้ง 45 ล้านคนต่อต้านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง สงครามนี้ไม่เป็นไปตามที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียคิดไว้ ประชาคมโลกจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยยูเครน และจะกดดันรัสเซียอย่างแสนสาหัสเพื่อยุติสงครามนี้ที่ปูตินเป็นผู้เลือกก่อขึ้น

ต่อข้อถามเรื่องเขาเชื่อว่ายูเครนจะชนะสงครามหรือไม่นั้น นายบลิงเคนตอบว่า ยูเครนจะชนะอย่างแน่นอน แต่ไม่สามารถบอกได้ว่า สงครามจะกินเวลายาวนานเพียงใด ขณะนี้เขาเป็นห่วงเรื่องสงครามจะลุกลามออกนอกยูเครน และเรื่องกองกำลังรัสเซียใช้วิธีการที่โหดร้ายมากขึ้นกับพลเรือนในยูเครน ด้วยการทำลายสาธารณูปโภคจำเป็นที่ทำให้ชาวยูเครนขาดแคลนน้ำและไฟฟ้าให้ความร้อน และเมื่อถูกถามว่า สหรัฐจะหาทางเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำรัสเซียเพื่อยุติการรุกรานยูเครนหรือไม่นั้น รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐตอบว่า สหรัฐจะไม่ทำเช่นนั้นและเรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสหรัฐ แต่ต้องเป็นการตัดสินใจของชาวรัสเซียเอง

ที่มาเรียบเรียงจากสำนักข่าวไทย [1] [2] [3]