จึงโสโครก
สาบทรามท่ามราตรี
จึงกล่าวสบถถึงผีในจิตใจ
ว่าผวาภวังค์
แห่งความโหยไห้
ว่าฉันกลายเป็นใครในคืนนี้
.
จึงสาปส่ง
ดวงวิญญาญอันโสมม
จึงสวดมนต์บนปะรำพิธี
ว่าร่างเนื้อเหม็นเน่าความอัปรีย์
.
ว่าคืนนี้
จะฆาตฆ่าให้ตัวตาย
จึงร้องเรียกกรีดก้องกู่ตะโกน
สำนึกพลางห้อยโหน
ทุรนทุราย
จึงแสร้งแสยะเยาะต่อความตาย
ว่าจะท้าทาย
จนสิ้นซากทุกเศษเถ้าดวงวิญญาณ
.
ว่าคืนนี้
ยาวนานเหลือกว่าจะนึกถึง
ในคืนหนึ่งน่ากลัวสยดสยอง
เศษเดนศพซากตัวเองพะเนินกอง
นั่งบนเตียงแล้วนั่งมองกองอาเจียน
.
ว่าคืนนี้
น่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก
สะท้านสะเทือนถึงกระดูกจนสั่นผวา
วนวกวนเวียน
หลอนหลอกกล่อมตัวเองในมายา
เช้าตื่นขึ้นจึงรู้ว่า
ในคืนเศร้าไร้ร่องรอยของน้ำตา
แต่เสียงเพรียกหายังคงเรียกให้กลับคืน
.
ถึงเสียงเรียกอันบ้าคลั่ง
ที่ก้องดังฝังจิตในคืนเงียบ
ท่ามสายฝนคืนหนึ่งอันเย็นเยียบ
ประหนึ่งเปรียบน้ำตาซึ่งไหลริน
.
ถึงเสียงเรียกอันบ้าคลั่ง
ทุกสิ่งยังย้ำเตือนในคืนฝัน
ทุกสิ่งอย่างอุบัติขึ้นอย่างฉับพลัน
และปิดฉากในคืนนั้นด้วยความตาย,