Skip to main content
sharethis

รอมากว่า 10 ปี ศาลมณฑลทหารบกที่ 46 นัดตรวจพยานหลักฐาน หลังจำเลยขออนุญาติเลื่อนนัดมาแล้ว 1 ครั้ง คดีพลทหารวิเชียร เผือกสม ถูกเจ้าหน้าที่ทหารซ้อมทรมานจนถึงแก่ความตาย พร้อมอนุญาติให้ตัวแทนมูลนิธิผสานวัฒนธรรมเข้าสังเกตการณ์คดีในชั้นศาลได้ นัดสืบครั้งถัดไป วันที่ 23-24 มิ.ย.นี้

26 มี.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (25 ม.ค. 65) เวลา 13.00 น. ที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 46 มีนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีหมายเลขดำที่ 4 ก./2563 กรณี พลทหารวิเชียร เผือกสม ถูกเจ้าหน้าที่ทหารในค่ายรุมซ้อมทรมานจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2554 โดยอัยการศาลมณฑลทหารบกที่ 46 ยื่นฟ้องคดี ร.ท.ภูริ เพิกโสภณ กับพวกรวม 9 คน ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นทหารไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา และฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา ต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 46 เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2563

นุรอาซีกีน ยูโซ๊ะ ตัวแทนมูลนิธิผสนาวัฒนธรรมหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ ระบุถึงการไต่สวนคดีและบรรยกาศภายในศาลว่า สามารถเข้าสังเกตการณ์ได้ปกติ สามารถจดบันทึกได้ปกติ มีการตรวจประวัติการรับวัคซีนป้องกันโควิด จำเลยมาศาลทุกคน ยกเว้นจำเลยที่ 4 ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีอาญาที่กรุงเทพฯ ศาลจึงไม่อนุญาติให้ปล่อยตัวออกมาโดยใช้การวิดีโอคอลแทน อย่างไรก็ตามจำเลยที่ 4 ไม่ได้วิดีโอคอลด้วยในวันนี้ ซึ่งทางเรือนจำแจ้งว่าระบบขัดข้อง  

ผู้สังเกตการณ์ กล่าวเสริมว่า โดยประจักษ์พยานประกอบด้วย พยานบุคคล 40 คน, เอกสาร 147 ลำดับ, แผ่นซีดี 1 แผ่น พยานฝั่งจำเลย อ้างซ้ำกับพยานฝั่งโจทก์หลายราย จึงมีการสืบพร้อมกัน โดยอัยการบอกว่า เกือบทั้งหมดเป็นประจักษ์พยาน ซึ่งถือว่าเป็นคดีความที่มีจำนวนประจักษ์พยานที่มาก มีประจักษ์พยานที่เป็นแพทย์อยู่ด้วยซึ่งตนคิดว่าน่าจะเป็นแพทย์ที่ทำการชันสูตรศพพลทหารวิเชียร 

อนึ่งคดีนี้สืบเนื่องจาก พลทหารวิเชียร สมัครเข้ารับการราชการทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/2554 สังกัด ร.151 พัน.3 และเข้าฝึกยังหน่วยฝึกทหารใหม่ในค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ก่อนพบข้อเท็จจริงว่า พลทหารวิเชียร เผือกสม ถูก ร.ท.ภูริ กับพวกเจ้าหน้าที่ทหารรวม 9 คน รุมทำร้ายซ้อมทรมาน เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2554 โดยอ้างว่า พลทหารวิเชียรหลบหนีการฝึก เป็นเหตุให้พลทหารวิเชียรได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตลงในวันที่ 5 มิ.ย. 2554 จากอาการไตวายเฉียบพลัน และกล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง โดยที่ผ่านมา นริศราวัลย์ แก้วนพรัตน์ หลานสาวของพลทหารวิเชียร ได้เดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมในทางคดีมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว โดยศาลมนฑลทหารบกที่ 46 จะมีการนัดสืบครั้งถัดไป วันที่ 23-24 มิ.ย 2565

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ระบุด้วยว่า ที่ผ่านมา คดีนี้ญาติของพลทหารวิเชียร และองค์กรสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ รวมทั้งมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้ร่วมกันต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมตลอดมา นับจากกระบวนการในชั้นไต่สวน โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) จนถึงการสั่งฟ้องคดีที่กินเวลายาวนานกว่า 9 ปี รวมถึงการเลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานในครั้งที่ผ่านมา นอกจากนี้ ในนัดครั้งล่าสุด ศาลมณฑลทหารบกที่ 46 ยังได้กำชับให้มูลนิธิฯ และฝ่ายญาติของผู้ตายระมัดระวังเรื่องการเผยแพร่ข้อความและข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวผ่านทางสื่อและโซเชียลมีเดียอีกด้วย

ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ได้ส่งหนังสือถึงศาลมณฑลทหารบกที่ 46 เพื่อขอให้ตัวแทนจากมูลนิธิฯ จำนวน 2 คน เข้าสังเกตการณ์คดีในนัดตรวจพยานหลักฐานอย่างใกล้ชิด โดยศาลมณฑลทหารบกที่ 46 ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ตัวแทนจากมูลนิธิเข้าร่วมฟังการพิจารณาคดีในครั้งนี้ได้ 

อนึ่งการดำเนินคดีในศาลทหารนั้นแตกต่างจากการดำเนินคดีโดยศาลยุติธรรม เนื่องจากในศาลทหารผู้เสียหายหรือญาติของผู้ตายที่เกิดจากการกระทำผิดอาญาของจำเลยที่เป็นทหาร ไม่สามารถแต่งทนายความเข้าเป็นโจทก์ร่วมเพื่อสืบพยาน เสนอพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อความเที่ยงธรรมของคดีได้ นอกจากนี้ แม้ว่าโดยหลักการแล้ว การพิจารณาคดีอาญาจะต้องเป็นการพิจารณาคดีที่เปิดเผยต่อประชาชน แต่การพิจารณาคดีในศาลทหารนั้น ยากที่ประชาชนจะเข้าไปฟังการพิจารณาคดีได้ ส่วนหนึ่งก็เนื่องจากศาลทหารส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเขตทหารซึ่งเป็นพื้นที่หวงห้าม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net