Skip to main content
sharethis

'พล.อ.รังษี' ผอ.ช่อง 5 ลั่น ยื่นใบลาออกเอง ปัดตอบปมขัดแย้งการตัดสัญญาณรายการข่าว 'ท็อปนิวส์' กรณีนำเสนอข่าวรัสเซีย-ยูเครน ด้าน 'ปอง อัญชะลี' โพสต์เฟซบุ๊กถาม "ถ้าคุณถูกสั่งห้ามเสนอข่าวยูเครนกับรัสเซีย คุณจะทำงานกับคนเหล่านี้ต่อไปไหม?" ขณะที่ผู้ประกาศท็อปนิวส์กล่าวกลางรายการเช้านี้ (29 มี.ค. 65) กรณีข่าวลือปมขัดแย้ง ชี้ "มีมูลความจริง"

29 มี.ค. 2565 สำนักข่าวหลายแห่ง อาทิ มติชนออนไลน์ ประชาชาติธุรกิจ ข่าวสด และเดอะสแตนดาร์ด รายงานตรงกันว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะประธานบอร์ดสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.5) มีคำสั่งให้ พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ พ้นจากหน้าที่ในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5 โดยให้ พล.ท.วิสันติ สระศรีดา เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำหน้าที่แทน ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. เป็นต้นไป

พล.อ.รังษีให้สัมภาษณ์กับมติชนออนไลน์ว่าคำสั่ง "พ้นหน้าที่" หรือให้ออกจากการปฏิบัติหน้าที่ตามที่มีกระแสข่าวนั้น ตนเป็นผู้ยื่นเรื่องขอ "พ้นหน้าที่" เองด้วยเหตุผลส่วนตัว พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่การปลดจากตำแหน่ง แต่เป็นการออกจากตำแหน่งด้วยความสมัครใจ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าการขอพ้นจากหน้าที่ของ พล.อ.รังษี เกี่ยวข้องกับการตัดสัญญาณรายการข่าวเที่ยง ททบ.5 ซึ่งดำเนินการผลิตโดยท็ปนิวส์นั้น พล.อ.รังษี ตอบว่าตนไม่อยู่ในฐานะที่จะพูดอะไร อยากให้สื่อมวลชนไปวิเคราะห์กันเอง ตนไม่อยากจะ 'กวนน้ำให้ขุ่น' และไม่เป็นธรรมกับบุคคลที่ถูกพาดพิง

ด้านข่าวสดออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ ในฐานะประธานบอร์ด ททบ.5 มีคำสั่งให้ พล.อ.รังษี พ้นจากหน้าที่ เนื่องจากกรณีเข้าพบทูตรัสเซีย-ยูเครน ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่พอใจที่ช่อง 5 นำเสนอข่าวเท็จเกี่ยวกับการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จนได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนจำนวนมาก เพราะขัดกับนโยบายความเป็นกลางที่รัฐบาลไทยประกาศต่อองค์การสหประชาชาติ (UN) ว่าจะเป็นกลางในเรื่องนี้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2565 พล.อ.รังษี ในฐานะ ผอ.ช่อง 5 เข้าหารือกับเยฟกินี โทมิคิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย เพื่อสร้างความร่วมมือด้านข้อมูลข่าวสารกับสำนักข่าวรัสเซีย ให้การนำเสนอข่าวเป็นไปอย่างรอบด้าน ซึ่งสถานทูตรัสเซียกล่าวย้ำว่าเคารพจุดยืนไทยในเวทีโลก พร้อมสนับสนุนด้านข้อมูลที่ถูกต้อง มีแหล่งข่าว และหลักฐานชัดเจนให้การรับรองก่อนเผยแพร่สู่สาธารณะ ต่อมา ช่อง 5 แจ้งว่าสถานทูตยูเครนประจำประเทศไทยติดต่อขอเข้าพบเพื่อหารือด้านข้อมูลข่าวสาร และช่อง 5 จะจัดงานแถลงข่าวในวันที่ 24 มี.ค. แต่สุดท้ายได้ประกาศยกเลิกการแถลงข่าวกะทันหันในคืนวันก่อนหน้า (23 มี.ค. 2565) ก่อนที่ พล.อ.รังษี จะให้สัมภาษณ์ในรายการ 'เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand' ในวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.รังษีชี้แจงกรณีการเข้าพบสถานทูตรัสเซีย ยูเครน จีน และอิหร่าน โดยระบุว่าทางสถานทูตรัสเซีย และอิหร่าน ติดต่อผ่านทาง 'ไพศาล พืชมงคล' อดีตที่ปรึกษา พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ และปัจจุบันเป็นเลขาธิการสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ให้มาประสานการเจรจากับ ททบ.5 และยืนยันด้วยว่าตนไม่ทราบว่าสถานทูตรัสเซียและอิหร่านรู้จักกับทางไพศาลอย่างไร 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

นอกจากนี้ เมื่อวานนี้ (28 มี.ค. 2565) ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่ารายการข่าว "เที่ยง ททบ.5" ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5) ถูกตัดสัญญาณเข้าโฆษณาโปรโมตรายการของสถานีแบบกะทันหันเมื่อเวลา 12.51 น. ขณะที่ผู้ดำเนินรายการกำลังนำเสนอข่าวเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ก่อนจะตัดเข้ามายังรายการปกติอีกครั้งในเวลา 12.59 น. รวมเวลาโฆษณาประมาณ 8 นาที

สำหรับรายการดังกล่าวผลิตโดยบริษัท กาแลคซี่ มัลติมีเดีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ GMC กลุ่มที่มาจากสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมท็อปนิวส์ (TOP NEWS) ของสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อดีตแกนนำ กปปส. โดยใช้วิธีจัดรายการสดที่สตูดิโอท็อปนิวส์ โครงการธนาซิตี้ ถนนบางนา-ตราด กม.14 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ แล้วส่งสัญญาณผ่านอินเทอร์เน็ตระบบ Live U ไปยัง ททบ.5 สนามเป้า โดยขณะนั้นทีมงานท็อปนิวส์เห็นว่าสัญญาณขัดข้องจึงได้เกี่ยวสัญญาณใหม่อีกครั้ง แต่เมื่อนำเสนอข่าวเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทาง ททบ.5 ได้ตัดภาพไปที่โฆษณารายการ ท็อปนิวส์จึงรู้ว่าถูกตัดสัญญาณ

จากนั้นเวลาประมาณ 16.00 น. มีกระแสข่าวว่า บริษัท กาแลคซี่ มัลติมีเดีย คอร์ปอเรชั่นฯ แจ้งมาทางผู้อำนวยการฝ่ายข่าว ททบ.5 ว่า ขอถอนตัวจากการร่วมผลิตข่าวทั้งหมด โดยมีผลสิ้นเดือนนี้ (31 มี.ค. 2565) จากที่ก่อนหน้านี้เคยเซ็นสัญญาร่วมผลิตรายการข่าวกับ ททบ.5 เป็นเวลา 7 ชั่วโมงต่อวัน โดยเบื้องต้นมีอายุสัญญา 1 ปี ผอ.ฝ่ายข่าวจึงได้เรียกผู้บริหาร ททบ.5 มาประชุมเพื่อหารือว่าจะนำเนื้อหารายการใดมาออกอากาศแทน เพราะเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 4 วันเท่านั้นจะถึงสิ้นเดือน ทั้งนี้ ผู้จัดการออนไลน์วิเคราะห์ว่ากรณีนี้อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ พล.อ.รังษีต้องยื่นใบลาออกเพื่อขอพ้นจากหน้านี้

นอกจากนี้ ผู้จัดการออนไลน์ยังรายงานเพิ่มเติมว่า พล.อ.รังษี ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ลับลวงพรางแชนแนล โดยปฏิเสธข่าวการลาออกจากตำแหน่ง หรือมีการเปลี่ยนแปลงทีมข่าว ส่วนการตัดสัญญาณรายการ "เที่ยง ททบ.5" กลางอากาศนั้นเนื่องจากยังคุยกันไม่ลงตัว เพราะยังมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทั้งที่มีคำสั่งให้งดการนำเสนอข่าวไว้ก่อน โดยมองว่าตอนนี้ข่าวสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ในแง่ปฏิบัติการทางทหารไม่น่าสนใจแล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจคือผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ จึงได้มีการหารือกันว่าจะนำเสนอข่าวในแง่ของผลกระทบจากสงครามเท่านั้น อย่างไรก็ตาม พล.อ.รังษีเลี่ยงที่จะตอบคำถามเรื่องคำสั่งห้ามนำเสนอข่าวสงครามรัสเซีย-ยูเครนว่ามาจาก พล.อ.ประยุทธ์ใช่หรือไม่ โดยระบุว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงได้งดนำเสนอข่าวออกไปก่อน

ต่อมา ช่วงเช้าวันนี้ (29 มี.ค. 2565) สันติสุข มะโรงศรี ผู้ดำเนินรายการของสำนักข่าวท็อปนิวส์ กล่าวในรายการ "ข่าวมีคม" เกี่ยวกับกรณีข่าวที่ผู้จัดการออนไลน์รายงานเรื่องการถอนตัวของท็อปนิวส์จากการร่วมผวิตรายการกับช่อง 5 ว่า "มีมูลความจริง" และข่าวดังกล่าวมาจาก "แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ" แต่ตนในฐานะผู้ดำเนินรายการสามารถตอบได้แค่ว่าต้องรอให้ทางผู้บริหารของบริษัท กาแลคซี่ มัลติมีเดีย ออกมาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เพราะตนไม่ได้รับมอบหมายให้ชี้แจงอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อมีข่าวพาดพิงองค์กรที่ปรากฎต่อสาธารณะก็ต้องพูดถึงเพราะมีคนสนใจและไถ่ถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ไทยโพสต์ยังรายงานเพิ่มเติมว่าอัญชะลี ซึ่งเป็นผู้ดำเนินรายการของท็อปนิวส์ที่ถูกช่อง 5 ตัดสัญญาณระหว่างการนำเสนอข่าวรัสเซีย-ยูเครน ได้ออกมาโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กวันนี้ว่า "ถ้าคุณถูกสั่งห้ามเสนอข่าวยูเครนกับรัสเซีย คุณจะทำงานกับคนเหล่านี้ต่อไปไหม?" แต่ยังไม่มีรายงานอื่นๆ เพิ่มเติม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net