บ.ก.รางวัลโนเบลชาวรัสเซีย ประกาศปิดสำนักข่าวชั่วคราวหลังถูกทางการกดดันหนัก

รัฐบาลรัสเซียใช้กฎหมายเผยแพร่ข่าวเท็จคุกคามสื่ออิสระ จนทำให้ 'โนวายากาเซตา' (Novaya Gazeta) หนังสือพิมพ์อิสระแนวหน้าของรัสเซียต้องประกาศปิดทำการชั่วคราวในทุกรูปแบบ โดย 'ดิมิทรี มูราตอฟ' บรรณาธิการได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2564 คู่กับ 'มาเรีย เรสซา' จากสำนักข่าว Rappler ของฟิลิปปินส์

30 มี.ค. 2565 สำนักข่าว CNN ของสหรัฐฯ และ CBC ของแคนาดา รายงานเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมาว่าหนังสือพิมพ์อิสระระดับแนวหน้าในรัสเซีย 'โนวายากาเซตา' (Novaya Gazeta) ประกาศหยุดดำเนินการทั้งทางออนไลน์และฉบับพิมพ์เป็นการชั่วคราวจนกว่า "ปฏิบัติการพิเศษ" ของกองทัพรัสเซียในยูเครนจะจบลง หลังจากที่พวกเขาถูกแจ้งเตือนจากทางการรัสเซียเป็นครั้งที่ 2 ในข้อหาไม่ยอมระบุองค์กรของตัวเองว่าเป็น "สายลับต่างชาติ" ตามที่รัฐบาลรัสเซียกล่าวหา

หนังสือพิมพ์โนวายากาเซตาเป็นสื่อเชิงสืบสวนสอบสวนในรัสเซีย มีบรรณาธิการ คือ ดิมิทรี มูราตอฟ ที่เพิ่งจะได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2564 ร่วมกับมาเรีย เรสซา จากสำนักข่าว Rappler ของฟิลิปปินส์ ที่ถูกคุกคามจากรัฐบาลฟิลิปปินส์เช่นกัน

โนวายากาเซตา ระบุว่า พวกเขาได้นำเนื้อหาเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนออกจากเว็บไซต์ของพวกเขาเพื่อทำตามกฎหมายใหม่ของรัสเซีย หลังจากที่ได้รับแจ้งเตือนจาก "รอสคอมแนดซอร์" (Roskomnadzor) ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมการสื่อสารของรัสเซีย (สถานะเหมือน กสทช. ของไทย) อีกข้อความหนึ่งที่มูราตอฟและนักข่าวของโนวายากาเซตาเขียนถึงผู้อ่าน ระบุว่า การตัดสินใจหยุดดำเนินการนั้นเป็นเรื่องที่ยากสำหรับพวกเขา แต่ก็จำเป็นต้องทำเพราะพวกเขา "ไม่มีทางเลือกอื่น"

ดิมิทรี มูราตอฟ (Dmitry Muratov)
 

หลังจากรัสเซียเปิดฉากทำสงครามกับยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา สื่อสายเสรีของรัสเซียก็ถูกกดดันอย่างหนักให้ใช้ภาษาในแบบที่รัฐบาลรัสเซียต้องการเมื่อพูดถึงความขัดแย้งกับยูเครน เช่น ระบุห้ามเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่า "สงคราม" แต่ให้เรียกว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษ" ทางทหารของรัสเซีย โดยสื่อกระแสหลักส่วนมากและองค์กรที่มีรัฐบาลควบคุมอยู่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลรัสเซีย

การหยุดดำเนินการชั่วคราวของโนวายากาเซตา เกิดขึ้นหลังจากสถานีวิทยุเอคโคมอสกวา (Ekho Moskvy) หนึ่งในสื่อสายเสรีนิยมของรัสเซีย ปิดตัวลงในเดือน มี.ค. นี้ สื่ออีกแห่งหนึ่งที่ต้องปิดตัวลงเมื่อต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมาคือ "ทีวีเรน" ที่ประกาศปิดตัวหลังจากที่รัฐบาลรัสเซียบังคับใช้กฎหมายต่อต้าน "ข่าวเท็จ" ที่ซีเอ็นเอ็นระบุว่านำมาอ้างใช้เอาผิดกับสื่อที่รายงานความจริงเกี่ยวกับสงครามในยูเครน

อย่างไรก็ตาม เยคาเทรีนา โคตรีคัดเซ ผู้ประกาศข่าวของ TV Rain และทิคฮอน ดิซยาดโก บรรณาธิการใหญ่ของ TV Rain ซึ่งทั้งสองคนเป็นคู่สามี-ภรรยาที่อยู่เบื้องหลังสื่อเสรีนี้ยังคงพยายามทำสื่อต่อไปหลังจากที่หนีออกจากรัสเซียไปที่ตุรกี และเดินทางลี้ภัยต่อไปที่จอร์เจีย ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย

โคตรีคัดเซกล่าวว่าถ้าหากพวกเขา "เรียกสงครามว่าสงคราม" และนำเสนอโดยอ้างคำพูดของโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน พวกเขาอาจจะต้องเจอโทษจำคุก 15 ปีตามกฎหมายปราบปรามข่าวเท็จของรัฐบาลรัสเซีย

แม้ทีวีเรนจะต้องปิดห้องข่าวและห้องส่งของตัวเองลง ในตอนนี้พวกเขาก็นำเสนอผ่านทางยูทูบ ซึ่งดิซยาดโกบอกว่าถึงแม้รัฐบาลรัสเซียจะพยายามควบคุมข้อมูลข่าวสารแต่ก็มีผู้ชมชาวรัสเซียจำนวนมากดูช่องของพวกเขา ด้านโคตรีคัดเซบอกว่าผู้คนเรียกร้องต้องการข้อมูลจากแหล่งทางเลือกที่ไม่ขึ้นอยู่กับเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อของทางการรัสเซีย

โคตรีคัดเซบอกว่าข้อสงสัยที่ว่าชาวรัสเซียส่วนใหญ่ไม่ต้องการรับรู้สื่อทางเลือกนั้นไม่เป็นความจริง และการที่รัฐบาลอำนาจนิยมรัสเซียอ้างว่าชาวรัสเซียสนับสนุนสิ่งที่ทางการอ้างว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษ" นั้นก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน ผู้ประกาศข่าวของทีวีเรนบอกว่าเธอรู้สึกทึ่งถึงจำนวนของคนที่ส่งข้อความให้สื่อของพวกเขาทางโซเชียลมีเดียและแสดงความคิดเห็นในบัญชีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียอื่นๆ ของพวกเขา

ทีวีเรนในยูทูบตอนนี้ยังคงมีเนื้อหาที่เป็นวิดีโอเพียงชิ้นเดียว โดยเผยแพร่เมื่อสามสัปดาห์ก่อนหน้านี้ แต่ก็มีผู้ชมวิดีโอแล้วอย่างน้อย 1.8 ล้านวิวและมีผู้กดไลก์อย่างน้อย 108,000 ครั้ง มีจำนวนผู้สมัครรับชมอย่างน้อย 3.26 ล้านราย ในกรณีของหนังสือพิมพ์โนวาจากาเซตานั้นมีผู้อ่านและนักกิจกรรมต่อต้านรัฐบาลรัสเซียหลายคนที่แสดงความเสียดายต่อการหยุดดำเนินการชั่วคราวของพวกเขา

นอกจากสื่อรัสเซียเองแล้ว ทางการรัสเซียยังประกาศบล็อกเว็บไซต์ของสื่อต่างประเทศหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นบีบีซีของอังกฤษ วอยซ์ออฟอเมริกา เรดิโอฟรียุโรป อีกทั้งรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของรัสเซียยังได้ขึ้นบัญชี 'ดอยช์เวเลย์' สื่อสัญชาติเยอรมันไว้ในฐานะ "สายลับต่างชาติ" อีกด้วย

แปลและเรียบเรียงจาก:

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท