ใบตองแห้ง: กติกาบ้าจี้

เปิดรับสมัครผู้ว่าฯ กทม.คึกคัก สมกับที่รอมา 9 ปี แต่ละคนมีกองเชียร์คับคั่ง แต่ห้ามรื่นเริงฟ้อนรำแห่กลองยาว กกต.ถือเป็นมหรสพ เดี๋ยวโดนตัดสิทธิจบเห่

ก่อนสมัครก็ต้องตรวจสอบคุณสมบัติตัวเอง ถ้าตรวจพบภายหลังจะถูกดำเนินคดี “รู้ว่าไม่มีสิทธิแล้วยังสมัคร” อ้าว กกต.มีไว้ทำไม กกต.ต้องตรวจสอบประวัติ กกต.อนุญาตให้สมัคร แต่ผิดพลาดขึ้นมาต้องรับผิดชอบเอง

ผู้สมัครบางคนลงอิสระ บางคนสังกัดพรรคการเมือง ก็ติดป้ายหาเสียงคู่ผู้นำพรรค เช่นไทยสร้างไทยใช้ภาพคุณหญิงสุดารัตน์ แต่ประชาธิปัตย์ใช้ภาพจุรินทร์ไม่ได้นะ ก้าวไกลห้ามใช้ภาพพิธา แม้นำมาอันดับหนึ่งในโพลนิด้า

เพราะ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นย้อนแย้ง พรรคการเมืองส่งสมัครได้ แต่ห้ามรัฐมนตรี ส.ส.ช่วยหาเสียง นายก อบจ.บางรายก็เมียรัฐมนตรี ประชุมหัวคะแนนที่บ้าน อ้างว่าผัวอยู่ชั้นบนไม่ได้ลงมา

ส.ส.เพื่อไทย ก้าวไกล พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ จึงช่วยผู้สมัครผู้ว่า-ส.ก.หาเสียงไม่ได้ ทั้งที่ ส.ส.ไม่มีอำนาจให้คุณให้โทษเจ้าหน้าที่ ทั้งที่ตอนเลือกตั้ง ส.ส.ให้รัฐมนตรีช่วยหาเสียงได้นอกเวลาราชการ

ส.ก.เพื่อไทยก็ใช้ภาพหมอชลน่านไม่ได้ แต่อยากถาม กกต.ใช้ภาพพี่โทนี่ได้ไหม หรือใช้ภาพอุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัว

เรื่องตลกของความเป็นกลางอย่างเคร่งครัด คือปลัด กทม. เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำท้องถิ่น ทั้งที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาอดีตผู้ว่าฯ อัศวิน ซึ่งวันประกาศตัวลงสมัคร อดีตข้าราชการ กทม.ไปร่วมงานคึกคัก จนถูกมองเป็นตัวแทนพรรคข้าราชการ

ไม่ใช่เฉพาะ กทม. ปลัด อบจ. อบต. เทศบาล ล้วนเป็น ผอ.เลือกตั้งตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น
เอาเข้าจริง ใช้ข้าราชการท้องถิ่นจัดเลือกตั้ง ทำไมต้องอ้างว่ารอ กกต.จัดเลือกตั้ง อบจ. เทศบาล อบต. ให้เสร็จก่อน ค่อยเลือกผู้ว่าฯ กกต.มีพนักงานสองพันกว่าคน งบปีละสามพันกว่าล้าน หนึ่งปีทำงานได้หนึ่งอย่าง?

นี่ยังเสียดายอยู่เลย หลังเลือกตั้งนายก อบจ. 20 ธ.ค.63 หลังเลือกตั้งนายกเทศมนตรี 27 มี.ค.64 ถ้าย้ายทะเบียนบ้านเข้ากรุงเทพทันที ก็มีสิทธิเลือกผู้ว่าฯ 22 พ.ค.65 เพราะล่าช้าจนห่างกันเกินหนึ่งปี
การเลือกตั้งทุกวันนี้ที่น่ายิ่งกว่าคู่แข่ง คือ กกต.จ้องจับผิดนี่เอง อย่าบอกว่า “ไม่ได้ทำผิดแล้วกลัวอะไร” เพราะยกตัวอย่างเลือกนายก อบจ. ที่ กกต.ส่งศาลให้ออก “ใบเหลือง” จัดเลือกตั้งใหม่ เห็นแล้วช่างไร้สาระ เหมือนครูไล่จับเสื้อผ้าหน้าผมนักเรียน

เช่นที่กาฬสินธุ์ ก่อนเลือกตั้ง 1 วัน ผู้ช่วยหาเสียงนายก อบจ.โพสต์ว่า ใครอยากได้ป้ายหาเสียงรื้อไปเลย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ชาวบ้านรื้อป้ายไปใช้ ผู้สมัครก็ไม่ต้องเสียค่ารถค่าน้ำมันไปเก็บ กกต.กลับตีความว่า “ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ ทั้งที่เขาไม่ได้ระบุว่าให้ใคร เลือกคู่แข่งแล้วก็มารื้อได้

นายก อบจ.สมุทรสาคร ก็โดนร้องศาลแจกใบเหลือง เพราะมีผู้สมัคร ส.จ.คนหนึ่ง ซึ่งลงอิสระ ไปโพสต์ว่าได้ช่วยฝากหลานผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนหนึ่งเข้าโรงเรียน ขอให้เลือกนายก อบจ.คนนี้ด้วย

ใบเหลือง! ทั้งที่ผู้มีสิทธิรายนั้นไม่ได้ไปเลือกตั้งเพราะกลัวโควิด กกต.มองว่าทุจริต ทั้งที่ได้รับเลือกมาจากประชาชน 131,537 คน

เห็นคดีอย่างนี้ ผู้สมัครอิสระที่ไม่มีทีม ส.ก. อย่างชัชชาติ, สกลธี, รสนา ก็แอบโล่งใจ ไม่ต้องรับผิดชอบผู้สมัครอีก 50 คน ซึ่งอาจทำอะไรพลาดพลั้ง เช่นโดนหาว่าโจมตีใส่ร้ายฝ่ายตรงข้าม “ใบแดง” แล้วอาจซวยไปด้วยกัน

ข้อพึงสังเกต 3 ปี กกต.ชุดปัจจุบัน 25 ปีตั้งแต่มี กกต.ชุดแรก ภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้งที่ให้อำนาจศักดิ์สิทธิ์ ยาแรง แจกใบเหลืองใบแดงเพราะ “เชื่อได้ว่า” แล้วเพิ่มอำนาจโดยรัฐธรรมนูญรัฐประหาร 2 ครั้ง

กกต.ชุดนี้แทบไม่มีผลงาน นอกจากสูตรคำนวณ ส.ส.ที่ทำให้เศษเป็นคน ทำให้คนเป็นเศษ กับ “นิติสงคราม” ยื่นยุบพรรคอนาคตใหม่ตัดสิทธิธนาธร ก็จับทุจริตไม่ได้เลย

เลือกตั้ง 62 แจกใบส้มคนเดียว สุรพล เกียรติไชยากร ถวายเงินพระสองพันบาท แต่ศาลฎีกายกคำร้อง กลายเป็นใบส้มอัปยศ ริบเก้าอี้ ส.ส.ทั้งที่ไม่มีความผิด แล้ว กกต.ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร

แจกใบเหลือง ส.ส.ลำปาง ก็มาจากคลิปของพรรคเสรีรวมไทย นายก อบจ.กาฬสินธุ์ สมุทรสาคร ที่ยกตัวอย่าง ก็ไล่จับในเฟซบุ๊ก

ที่จริงมันเป็นปัญหาตั้งแต่แรก รัฐธรรมนูญ 2540 เอา กกต.มาจากอินเดีย แล้วเพิ่มอำนาจจนอยู่เหนืออำนาจเลือกตั้งของประชาชน อะไรนิดอะไรหน่อยก็ผิดไปหมด ผู้สมัคร ส.ว.ทางใต้สมัยนั้นไปหาเสียง แล้วโรงเรียนจัดรำต้อนรับ-ใบแดง! พอรัฐประหาร 49,57 อำนาจอนุรักษ์เข้ามาคุมเบ็ดเสร็จ กลายเป็นกลไกนิติสงคราม ประสิทธิภาพการทำงานก็ตกต่ำพร้อมกติกา

กฎหมายเลือกตั้งก็ย่ำเท้า เช่นอุตส่าห์แก้รัฐธรรมนูญใช้บัตรสองใบ แทนที่จะยอมให้ใช้เบอร์เดียวกัน ทั้งพรรคทั้งบุคคล ก็ไพล่ไปอ้างว่าจะทำให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์ ทำให้ ส.ส.เขตไม่ทำงาน คอยแต่พึ่งพรรค

ทั้งที่บัตรสองใบเบอร์เดียวกันไม่ได้ทำให้ใครได้เปรียบ พรรคเล็กได้ประโยชน์ด้วยซ้ำ ประหยัดค่าทำป้ายแจกใบปลิว ระบบบัตรสองใบ 400-100 ที่แยกการคำนวณปาร์ตี้ลิสต์จาก ส.ส.เขตแบบ 2540 ต่างหาก ที่ทำให้พรรคใหญ่ได้เปรียบ

พลังประชารัฐแก้รัฐธรรมนูญเพราะคิดว่าได้เปรียบ แต่ตอนนี้ดิ้นพล่าน

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_6975048

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท