Skip to main content
sharethis

“ครบรอบ 76 ปี พรรคประชาธิปัตย์” 'จุรินทร์' ย้ำความเป็นสถาบันการเมืองของคนทุกรุ่น มีอดีต ปัจจุบัน และมีอนาคต นี่คือ “ความเป็นประชาธิปัตย์” ขณะที่ 'เทพไท' ถามทำไมคนไม่นึกถึงพรรรคในการต่อสู้กับเผด็จการอีกแล้ว ย้ำคน ปชป.ต้องทบทวนอุดมการณ์

 

6 เม.ย.2565 เนื่องในโอกาส ครบรอบ 76 ปี พรรคประชาธิปัตย์ เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'Democrat Party, Thailand พรรคประชาธิปัตย์' วันนี้ (6 เม.ย. 65) ที่พรรคประชาธิปัตย์ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนาในงานทำบุญครบรอบ 76 ปี พรรคประชาธิปัตย์ ว่า วันนี้เป็นวันครบรอบ 76 ปี ของการก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนับจากวันนี้เป็นต้นไปก็จะเป็นการก้าวเข้าสู่ปีที่ 77 ประชาธิปัตย์ไม่ใช่เป็นแค่พรรคการเมืองที่มีอายุยืนยาวที่สุดของประเทศเท่านั้น แต่ยังถือเป็นสถาบันการเมืองที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศที่อยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาต่อเนื่องยาวนานและยังจะอยู่ต่อไป ซึ่งตนมั่นใจว่าตราบชั่วฟ้าดินสลาย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะประชาธิปัตย์ประกอบด้วยคนทุกรุ่น ไม่ใช่พรรคการเมืองของคนรุ่นใดรุ่นหนึ่งเท่านั้น ผู้อาวุโสของพรรคก็จะทำหน้าที่เป็นหางเสือ สำหรับคนรุ่นปัจจุบันก็จะทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนพรรคไปสู่ทิศทางเป้าหมาย และคนรุ่นใหม่ก็จะผู้ที่มาสืบทอดอุดมการณ์ของพรรคต่อไปในวันข้างหน้า ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงเป็นพรรคการเมืองของคนทุกรุ่น และเรามีทั้งอดีต ปัจจุบัน และมีอนาคต นี่คือ “ความเป็นประชาธิปัตย์”

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวอีกว่า ตนภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการเมืองที่ทรงเกียรติแห่งนี้ ซึ่งตนมั่นใจว่าก็เป็นเช่นเดียวกับสมาชิกพรรคทุกคนที่อยู่ร่วมอุดมการณ์กันมาจนถึงวันนี้ และจะอยู่ร่วมกันต่อไปในวันข้างหน้า ในฐานะหัวหน้าพรรคขอถือโอกาสนี้ขอบคุณบรรพบุรุษของพรรคประชาธิปัตย์ ขอบคุณเพื่อนร่วมงาน ขอบคุณกรรมการบริหารพรรค ขอบคุณสมาชิกพรรคทุกคนที่จับมือร่วมกันในการทำให้พรรคประชาธิปัตย์สามารถก้าวเดินมาจนกระทั่งถึงวันนี้ และจะเดินต่อไปในวันข้างหน้า

“จะทำงานร่วมกับกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคทุกคนที่จะนำพรรคประชาธิปัตย์ไปสู่ความสำเร็จต่อๆ ไป และนำอุดมการณ์ของพรรคไปสู่การทำหน้าที่เพื่อประชาชนให้ประสบความสำเร็จยิ่ง ๆ ขึ้นต่อไป” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว พร้อมระบุว่า ทางเดินในวันข้างหน้าก็คิดว่ามีความชัดเจนอยู่แล้วประชาธิปัตย์อยู่ได้มาสืบเนื่องยาวนาน เพราะเรามีอุดมการณ์ที่มีความชัดเจนและไม่เคยเปลี่ยน อุดมการณ์ที่ว่าก็คืออุดมการณ์ที่เรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และอุดมการณ์ในการทำหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนเป็นหลัก รวมทั้งอุดมการณ์ในความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเป็นสิ่งที่เรายึดมั่นไม่เคยเปลี่ยนแปลง นี่คือสิ่งที่ทำให้เรายืนหยัดอยู่ได้มาจนถึงวันนี้และจะอยู่ต่อไปในวันข้างหน้า

ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้น เป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวบุคคล เรื่องของนโยบาย เรื่องทิศทางดำเนินการในทางการเมืองที่จะต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติเพราะพรรคการเมืองก็จะต้องมีพลวัตเพื่อให้เหมาะสมกับกาลเวลา กาลสมัย เพราะฉะนั้นสโลแกนที่กำหนดไว้สำหรับประชาธิปัตย์ยุคนี้จึงเป็นสโลแกนที่มีความชัดเจนในตัวเอง ซึ่งประกอบด้วย คำสองคำที่อยู่ด้วยกัน คือคำว่า “อุดมการณ์” ที่เราไม่มีวันเปลี่ยน และคำว่า “ทันสมัย” เพื่อให้สอดคล้องกับโลก สถานการณ์และความเป็นไปของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้ประชาธิปัตย์สามารถสนองตอบได้อย่างตรงประเด็น และเป็นที่พอใจของพี่น้องประชาชนต่อไป

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวอีกว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ตนมาเป็นหัวหน้าพรรค ยืนยันว่าเราได้ทำหน้าที่ของเราครบถ้วนและทำได้เป็นอย่างดี อย่างน้อยเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล 3 ข้อ เราก็ปฏิบัติได้ครบถ้วนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนโยบายประกันรายได้ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งสามารถ “ทำได้ไว ทำได้จริง” เพราะร่วมรัฐบาลได้เพียง 4-5 เดือนเราก็เริ่มโอนเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรได้แล้ว เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญก็เป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งที่เราชัดเจนว่าประชาธิปัตย์เป็นพรรคหนึ่งที่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น และเราก็ทำสำเร็จแม้จะไม่ทั้งหมดเพราะเรามีข้อจำกัดเรื่องจำนวนเสียง ประชาธิปัตย์มีแค่ 50 แต่การแก้รัฐธรรมนูญต้องเสนอด้วยเสียง 100 เสียง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องร่วมมือกับพรรคการเมืองอื่นในการดำเนินการ และเราก็ไม่ได้ดั่งใจทุกเรื่อง แต่อย่างน้อยรัฐธรรมนูญที่บอกว่าแก้ยาก บัดนี้ก็ก็สามารถแก้ได้ 1 เรื่อง และร่างแก้รัฐธรรมนูญที่ผ่านความเห็นชอบก็เป็นร่างของประชาธิปัตย์ อย่างน้อยที่สุดก็ถือเป็นการนับหนึ่งในการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น วันข้างหน้าถ้าเราได้เสียงมากกว่านี้ เราก็จะทำอะไรได้มากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนโยบายประกันรายได้ เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น หรือในนโยบายอื่นๆ ส่วนเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตนั้นเราก็ได้ทำหน้าที่ของเราให้เป็นที่ประจักษ์

ต่อคำถามที่ว่าว่า ได้ตั้งความหวังจำนวน ส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปไว้หรือไม่อย่างไรนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เรื่องจำนวนนั้นไม่ได้ไปตั้งเป้า แต่เรามั่นใจว่า 2-3 ปี ที่กรรมการบริหารชุดนี้เข้ามา เราพาพรรคเดินหน้าไปสู่การยอมรับของพี่น้องประชาชนยิ่งขึ้น ตนมีความมั่นใจอย่างนั้น เหมือนกับที่เราได้ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ต้น เป็นเป้าที่ได้รับการยอมรับจากพี่น้องประชาชน และเราก็รู้ว่าประชาธิปัตย์จะได้รับการยอมรับจากพี่น้องประชาชนยิ่งขึ้นหรือไปนั่งในหัวใจประชาชนได้อีกครั้งหนึ่งนั้น เราต้องทำอะไรบ้าง

ซึ่งประชาธิปัตย์มีความชัดเจนอย่างน้อย 2 เรื่อง ประกอบด้วย

1. การทำหน้าที่ เพราะถ้านับหนึ่ง หากสถาบันการเมืองไม่รู้หน้าที่ ก็จะพาถอยหลัง แต่เรารู้หน้าที่ เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เราควรทำอะไร เราต้องทำอะไรอย่างไรบ้าง

“ผมคิดว่าประชาธิปัตย์เป็นพรรคหลักพรรคหนึ่งในการร่วมรัฐบาลที่ยืนหยัดมั่นคง ว่าคิดทางการเมืองจะต้องไปทางไหนต้องพารัฐบาลไปทางไหน แม้เรามีแค่ 50 เสียง แต่วันเวลามันพิสูจน์”

2. เรื่องผลงาน ซึ่งก็มีความชัดเจน ไม่อย่างนั้นคำว่า “ทำได้ไว ทำได้จริง” มันไม่เกิด

ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ว่าพรรคใดจะขึ้นเป็นรัฐบาล ประชาธิปัตย์จะตั้งเงื่อนไขในการไปร่วมอีกหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบล่วงหน้า เพราะการเลือกตั้งยังมาไม่ถึง และตนชัดเจนว่าประชาชนต้องเป็นคนแรกที่ให้คำตอบ ไม่ใช่พรรคการเมืองให้คำตอบก่อนประชาชน ถ้าเป็นอย่างนั้น การนับหนึ่งก็ไม่ใช่แล้ว เพราะประชาธิปไตยนั้น ประชาชนต้องเป็นผู้ให้คำตอบเสียก่อน แล้วที่เหลือก็เป็นไปตามระบบคือระบบรัฐสภา ใครรวมเสียงข้างมากได้ คนนั้นก็เป็นรัฐบาล ซึ่งสิ่งนี้เป็นกติกาประชาธิปไตยรัฐสภาสากล ประเทศเราก็ปฏิบัติกันอย่างนี้ และรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้อย่างนี้

ทั้งนี้งานทำบุญครบรอบ 76 ปี พรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้ ยังมีบรรดานักการเมืองที่มีชื่อเสียงของพรรคเข้าร่วมงานด้วย โดยงานครบรอบ 76 ปี พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการประกอบพิธีทางศาสนาอย่างเช่นทุกปี โดยในช่วงเช้าเริ่มประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม ตามมาด้วยพิธีพราหมณ์ และพิธีพุทธ

'เทพไท' ถามทำไมคนไม่นึกถึงพรรรคในการต่อสู้กับเผด็จการอีกแล้ว ย้ำคน ปชป.ต้องทบทวนอุดมการณ์

ขณะที่ เทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'เทพไท เสนพงศ์' ในหัวข้อ "ทำไมคนไม่นึกถึงพรรรคประชาธิปัตย์ ในการต่อสู้กับเผด็จการอีกแล้ว คนประชาธิปัตย์ ต้องทบทวนอุดมการณ์"

โดยมีรายละเอียดดังนี้

วันครบรอบ 76 ปี ของการก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2489 นับว่าเป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่ได้ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านปัญหาอุปสรรคทางการเมืองมามากมาย ตลอดระยะเวลา 76 ปี ได้เป็นทั้งพรรคฝ่ายค้าน พรรคฝ่ายรัฐบาล และถูกปฏิวัติรัฐประหารสลับกันไป

แต่สิ่งที่ยังมั่นคงทางการเมือง และยืนหยัดอยู่ได้จนถึงปัจจุบันนี้ นั่นก็คืออุดมการณ์ของพรรค 10 ข้อ ที่ได้ประกาศมาตั้งแต่วันเริ่มก่อตั้ง จนถึงปัจจุบัน ยังเป็นอุดมการณ์ที่ทันสมัย และสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของประเทศไทยมากที่สุด อุดมการณ์ของพรรคทั้ง 10 ข้อ ยังยึดเป็นแนวทางในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง เพื่อประชาชนและประเทศชาติได้จนถึงยุคสมัยนี้ แม้ว่าสถานการณ์บ้านเมือง หรือสถานการณ์โลก จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม อุดมการณ์ของพรรค ยังคงทันสมัย และมั่นคงอยู่เสมอทั้ง 10 ข้อ คือ

1.พรรคจะดำเนินการเมืองโดยวิถีอันบริสุทธิ์

2.พรรคจะดำเนินการเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริตต่อประชาชน

3.พรรคจะดำเนินการเมืองโดยอาศัยหลักกฏหมาย และเหตุผลเพื่อความศักดิ์สิทธิ์แห่งรัฐธรรมนูญ และเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างแก่อนุชน รุ่นหลังให้มีความนับถือ และนิยมในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

4.พรรคจะไม่สนับสนุนระบบและวิธีแห่งเผด็จการ ไม่ว่าจะเป็นระบบและวิธีการของรัฐบาลใดๆ

5.พรรคจะกระจายอำนาจการดำเนินการในท้องถิ่นให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้เนื่องจากความใกล้ชิด ขององค์กรในท้องถิ่นมีมากกว่าส่วนกลาง

6.พรรคมีจุดประสงค์ที่จะให้คนไทยมี ที่ทำกิน-ที่อยู่และอาชีพ และจะเคารพกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินส่วนบุคคล แต่มิได้ละเลยที่จะคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม

7,พรรคเชื่อว่า การแทรกแซงของรัฐเป็นสิ่งที่จำเป็น ในกิจการที่เห็นว่าการแทรกแซงจะเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม เช่น กิจการสาธารณูปโภค

8.พรรคจะดำเนินการเมืองโดยอาศัยหลักกฏหมาย และเหตุผลเพื่อความศักดิ์สิทธิ์แห่งรัฐธรรมนูญ และเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างแก่อนุชน รุ่นหลังให้มีความนับถือ และนิยมในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

9.พรรคเชื่อว่า การป้องกันประเทศนั้น ต้องอาศัยการก่อให้เกิดความร่วมมือพร้อมเพรียง ของประชาชนผู้เป็นเจ้าของ ประเทศ และจะต้องให้มีการบำรุง กำลังหลัก คือ กองทัพให้ทันสมัยทั้งคุณภาพ และปริมาณเท่าที่จะเหมาะสมแก่แผนการ ทางยุทธศาสตร์ และนโยบายทางการเมือง

10.พรรคจะส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างประเทศ

ส่วนตัวยังยึดมั่นอุดมการณ์ของพรรคทั้ง 10 ข้ออย่างมั่นคง แม้ว่าจะมีสมาชิกพรรคหลายคน ได้ละเมิดต่ออุดมการณ์ของพรรคในบางข้อก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุดมการณ์ของพรรค ข้อ 1 และข้อ 4 ที่หมิ่นแหม่ และสุ่มเสี่ยงต่อการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ของพรรคประชาธิปัตย์ ในตอนนี้มากที่สุด

ในอดีตที่ผ่านมา ถ้าจะให้ประชาชนนึกถึงพรรคการเมืองที่ต่อสู้กับเผด็จการอย่างเข้มแข็ง ทุกคนจะนึกถึงพรรคประชาธิปัตย์ แต่มาถึงวันนี้ทำไมประชาชนไม่ได้นึกถึงพรรคประชาธิปัตย์ในการต่อสู้กับเผด็จการอีกแล้ว เป็นเรื่องที่พวกเราชาวประชาธิปัตย์ ต้องมาขบคิด และทบทวนอุดมการณ์ในการต่อสู้กับเผด็จการทุกรูปแบบ รักษาสัจจะวาจา เหมือนคำขวัญของพรรค สัจจฺเว อมต วาจา

ในโอกาสวันครบรอบ 76 ปีของพรรคประชาธิปัตย์ จึงอยากจะเรียกร้องให้สมาชิกพรรค และผู้บริหารพรรคทุกคน ได้ให้ความสำคัญ ยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคทั้ง 10 ข้ออย่างเคร่งครัด อย่าละเว้นข้อใดข้อหนึ่ง เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง โดยการอ้างถึงผลประโยชน์ของพรรคหรือประเทศ มาอธิบายสร้างความชอบธรรมทางการเมือต่อสังคม

สำหรับวันเกิดของพรรคในวันนี้ จึงอยากจะบอกกับพรรคว่า “ฉันรักเธอนะประชาธิปัตย์ จะมั่นคง และซื่อสัตย์ต่อเธอเสมอ ตราบจนสิ้นชีวิตทางการเมือง”

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net