'ภูมิใจไทย' ทำบุญครบปีที่ 14 ชูสโลแกน “พูดแล้วทำ” - 'ไทยสร้างไทย' ยกเสาเอกสร้างที่ทำการพรรค

พรรค 'ภูมิใจไทย' ทำบุญครบรอบก่อตั้งปีที่ 14 ชูสโลแกน “พูดแล้วทำ” ขณะที่ 'ไทยสร้างไทย' ยกเสาเอกสร้างที่ทำการพรรคหวังปักฐานเป็นสถาบันการเมือง

 

6 เม.ย.2565 เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'คนภูมิใจไทย' ของพรรคภูมิใจไทย รายงานว่า วันนี้ (6 เม.ย.65) ที่พรรคภูมิใจไทย จัดงานทำบุญพรรคภูมิใจไทย ก้าวสู่ปีที่ 14 โดยมีแกนนำพรรค รัฐมนตรีของพรรค ส.ส. และสมาชิกพรรคมาร่วมงาน โดยมีการจัดพิธีทางศาสนาทั้งพิธีสงฆ์ และพิธีทางศาสนาอิสลาม เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ทั้งนี้ผู้ที่มาร่วมงานทุกคนต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย ATK ก่อนเข้ามาร่วมงาน นอกจากนี้ ผู้ร่วมงานยังใส่เสื้อสีน้ำเงินที่สกรีนข้อความด้านหลังว่า “พูดแล้วทำ”

หลังจากจากเสร็จพิธีทางศาสนา อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นประธานคิกออฟการเปิดรับสมัครผู้สนใจเสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ผ่านทางเว็บไซต์ระบบออนไลน์ของพรรค

เฟซบุ๊ก อนุทิน ชาญวีรกูล โพสต์ข้อความด้วยว่า อนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยก่อตั้งพรรคมาแล้วเป็นระยะเวลาถึง 13 ปีและกำลังก้าวย่างสู่ปีที่ 14 เราทำงาน มุ่งเน้นประโยชน์สุข ต้องตกอยู่กับประชาชน ปี พ.ศ. 2562 เรามีแคมเปญคือ การทำงาน เพื่อปากท้องประชาชน ลดอำนาจรัฐเพิ่มอำนาจประชาชน จากนั้น เราได้รับความเชื่อมั่นให้เข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติ ดูแลใน 3 กระทรวงคือกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นอกจากนั้น เรายังมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปจนถึง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีรอง ประธานสภาอีก 1 ท่านและมี ส.ส.ในสภาเป็นจำนวนมาก เราใช้กลไกทั้งหมดขับเคลื่อนงานให้เกิดความเป็นรูปธรรม สภาชุดนี้ จะครบวาระในวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา เราทำงานมาตลอด จะไม่วิพากษ์ วิจารณ์ แต่มีหน้าที่เดียวคือทำงาน ทำในสิ่งที่พูด พูดแล้วต้องทำ ทำต้องทำให้ได้ ทำให้สำเร็จ นี่คือหลักการของเรา

คำว่า “พูดแล้วทำ” คือ หัวใจในการทำงานของพรรคภูมิใจไทย ที่เราทำสำเร็จ คือ 1. ปลดล็อกกัญชา สนับสนุนให้ประชาชนนำกัญชาไปใช้ทางการแพทย์ เพื่อสุขภาพ และ ส่งเสริมให้ประชาชนปลูกกัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ตนเอง อย่างถูกต้องตามกฎหมาย 1 ปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ และ โรงพยาบาลเอกชนบางแห่ง ได้นำ ยากัญชามาใช้กับประชาชน และมีผู้ผลิตสินค้า ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ออกวางจำหน่ายอย่างถูกต้องตามกฎหมายจำนวนมาก ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยารักษาโรค อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง สมุนไพร มีความตื่นตัวอย่างมาก มีการคาดการณ์ของศูนย์วิจัยของธนาคารพาณิชย์หลายแห่งว่า อุตสาหกรรมกัญชา กัญชง จะสร้างเม็ดเงินใหม่ มากกว่า 1 หมื่นล้านบาท การปลดล็อกกัญชา กัญชง ให้พ้นจากยาเสพติด จะสนับสนุนให้อุตสาหกรรม กัญชา กัญชง ขยายตัวเพิ่มขึ้น และสร้างรายได้มากขึ้น

“ตั้งแต่ วันที่ 9 มิถุนายน นี้เป็นต้นไป กัญชาจะเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ที่สร้างรายได้ให้คนไทย อย่างไรก็ตาม เราไม่เห็นด้วยกับการใช้โอกาสนี้ นำ กัญชา ไปใช้ในทางที่ผิด ที่เป็นโทษต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิตของมนุษย์” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว

2. การให้บริการรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน ถูกกฎหมาย ที่เราเคย ประกาศ นโยบายว่า จะทําให้ประชาชนมีอาชีพหลัก อาชีพเสริม มีรายได้เพิ่ม ด้วยการขับรถรับจ้างผ่านระบบแอปพลิเคชัน ถูกกฎหมาย ไม่ต้องหลบซ่อน ไม่ต้องถูกจับ ปรับ อีก ต่อไป โดยเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 กระทรวงคมนาคม โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ประกาศกฎกระทรวง ให้การบริการรถรับจ้างผ่านระบบแอปพลิเคชัน เป็นอาชีพที่ถูกกฎหมายแล้ว ต่อไปนี้ ประชาชนผู้ขับรถรับจ้างผ่านระบบแอปพลิเคชัน จะไม่มีใครมารังแก กลั่นแกล้ง จับ ปรับ ได้อีกแล้ว การขับรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน เป็นอาชีพหลัก อาชีพเสริม สร้างรายได้ได้อีกทางหนึ่ง

3. การ กู้ กยศ. โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ที่พรรคภูมิใจไทย นําเสนอ และ ผลักดันมาตลอด วันนี้ก็ทําได้แล้ว กยศ. ประกาศหลักเกณฑ์ใหม่การกู้เงิน กยศ. ประจําปี 2565 ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน แล้ว

4. เพิ่มรายได้ อสม. ในช่วงที่เราต้องรับมือกับโรคระบาดโควิด-19 ผมเสนอและ ผลักดันให้รัฐบาล จ่ายค่าเสี่ยงภัยให้ อสม. เพิ่มอีกคนละ 500 บาท ต่อเดือน จนกว่า จะสิ้นสุดการระบาดของโรคโควิด อสม. ทุกคนได้รับเงินเพิ่ม คนละ 500 บาทต่อเดือน แล้ว และได้ให้ทุน อสม. เรียนเป็นผู้ช่วยพยาบาลอีกปีละ 3,000 คน เพื่อพัฒนาตัวเอง ดูแลประชาชนได้มากขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น เรามีอสม. เป็นหมอคนแรก ในนโยบาย 3 หมอ และเรายังได้อบรม อสม.เป็นผู้ช่วยพยาบาล เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในระบบ สาธารณสุขขั้นพื้นฐาน

5. การดูแลสุขภาพประชาชน ให้ได้รับบริการตรวจ รักษา ที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ ดีขึ้น มีค่าใช้จ่ายที่ลดลง เป็นเรื่องที่พรรคภูมิใจไทยให้ความสําคัญมากที่สุด และเป็นความตั้งใจของตน ที่ต้องการเข้ามาทำงานในกระทรวงสาธารณณสุข เราเพิ่มสิทธิให้ผู้ป่วยโรคไต ฟอกไตฟรี ได้ทุกกรณี ไม่มีความเหลื่อมล้ำ ไม่แตกต่างระหว่างฟอกไตผ่านหน้าท้อง กับฟอกไตผ่านเส้นเลือด อีกต่อไป

อนุทิน กล่าวว่า เราเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยมะเร็งเข้ารับการรักษาได้เร็วที่สุด ได้สั่งซื้อเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งอีก 7 เครื่อง กระจายติดตั้งทั่วประเทศ และให้ผู้ป่วยมะเร็ง เข้ารับการ รักษาที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องรอรักษาตามสิทธิ์ เหมือนในอดีตที่ผ่านมา โรคมะเร็ง ถ้ารักษาเร็ว มีโอกาสหายได้เร็ว เราต้องรีบทําโดยเร็ว เราเพิ่มสิทธิ์ ให้ผู้สูงอายุ ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงทุกคน ได้รับผ้าอ้อม ซึ่งจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ชนิดหนึ่ง

6. การปกป้องเงินแผ่นดิน และ คุ้มครองสิทธิของประชาชน หรือ การรักษาประโยชน์ของชาติ และประชาชน เป็นสิ่งสําคัญที่สุด ที่พรรคภูมิใจไทย ยึดถือเป็น หลักในการทํางาน ซึ่งเราทําให้เห็นแล้ว จากการต่อสู้ทุกวิถีทาง เพื่อที่รัฐจะไม่ต้องจ่าย ค่าชดเชย กรณีโครงการโฮปเวลล์ ที่ สื่อมวลชนเรียกว่า ค่าโง่โฮปเวลล์ และเราสู้จนศาลให้นําคดีพิพาทมาพิจารณากันใหม่แล้ว

อีกกรณีหนึ่งคือ การเรียกร้องให้มีการดําเนินการเรื่องการต่อสัญญารถไฟฟ้า สายสีเขียว ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ และให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน คือ การกําหนดค่าโดยสาร ที่ไม่เอาเปรียบประชาชน

"นอกจากนั้น เรายังพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง สร้างความเชื่อมโยงในทุกจังหวัด เพื่อพัฒนาเรื่องเศรษฐกิจ รถไฟรางคู่ มีเส้นทางจากอีสานไปถึงภาคใต้ ในอนาคต จะมีการพัฒนาเส้นทางเชื่อม 3 ประเทศไทย ลาว จีน" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว พร้อมระบุว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคภูมิใจไทย มีสมาชิกที่แสดงความจํานงลงสมัครรับเลือกตั้งมากกว่า 200 เขตเลือกตั้ง ยังมีเขตพื้นที่เลือกตั้ง ที่ยังไม่มีผู้แสดงความ จํานงอีกจํานวนมาก เราจะส่งผู้สมัคร ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเราเปิดกว้างให้ผู้ที่สนใจ จะร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ โดยการสมัคร และแจ้งความจํานง ได้ที่พรรคภูมิใจไทย และ สมัครผ่านเว็บไซต์พรรคภูมิใจไทย จึงขอเชิญชวนท่านที่มีแนวทางการทํางานแบบ พูดแล้วทํา เข้ามาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย

เมื่อถามถึงความคาดหวังเรื่อง จำนวนสสในการเลือกตั้งครั้งต่อไป อนุทิน กล่าวว่า อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน พรรคภูมิใจไทย มีหน้าที่ทำงานให้ดีทีสุด

'ไทยสร้างไทย' ยกเสาเอกสร้างอาคารที่ทำการพรรค หวังปักฐานเป็นสถาบันการเมือง

วันเดียวกัน (6 เม.ย.) พรรคไทยสร้างไทย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารพรรค ร่วมพิธียกเสาเอก เพื่อลงหลักปักฐานเป็นสถาบันการเมือง “ไทยสร้างไทย” สร้างอาคารที่ทำการพรรคไทยสร้างไทยสำนักงานใหญ่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'พรรคไทยสร้างไทย' ระบุว่า พรรคยืนยันเจตนารมณ์ และความมุ่งมั่นในการก่อตั้งพรรค เพื่อให้เป็นสถาบันการเมืองของประชาชนทุกคน และทุกช่วงวัยอย่างแท้จริง เป็นสถาบันการเมืองในการแก้ไขปัญหา และนำพาประเทศ ไปสู่ความรุ่งเรืองอีกครั้ง นำความสุข ประชาธิปไตยกลับคืนมาให้ผู้คน หลังจากถูกปล้นไปตลอดระยะเวลาหลายปี มุ่งสร้างเศรษฐกิจไทยให้กลับมาแข็งแกร่ง โดยส่งเสริมการสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงเป็น "ประชาธิปไตยเพื่อประชาชน" และจะไม่เป็นที่เหยียบยืนให้กับเผด็จการทุกรูปแบบ

"เราจะทุ่มเทแรงกายแรงใจทรัพยากรทั้งหมดที่มี เพื่อเป็นเสาเข็มและสะพานให้คนรุ่นใหม่ร่วมกันสร้าง และส่งมอบประเทศไทยที่ดีที่สุดให้กับทุกคน" เพื่อให้คนไทยทุกคน ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด”ตั้งแต่เกิดจนแก่” ให้ทุกคนมีความรู้สึกภาคภูมิใจในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีหลักประกันในการดำรงชีวิต

พรรคไทยสร้างไทย จึงมีปณิธานอย่างแน่วแน่ว่า จะร่วมกันปลดปล่อย (Liberate) ประชาชนจากพันธนาการของความคิดแบบอำนาจนิยมและรัฐราชการ ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินและการดำรงชีวิตอย่างมั่นคง พร้อมสร้างพลัง (Empower)ให้กับประชาชนในการรวมตัวกัน เพื่อเกิดอำนาจต่อรอง ทั้งกับรัฐราชการ ทุนขนาดใหญ่ และทุนพรรคพวกที่ครอบงำตลาด ให้ประชาชนสามารถลุกขึ้นมาทำมาหากินได้เร็วที่สุดแข็งแรงที่สุดอีกครั้ง

เพจ พรรคไทยสร้างไทย  ระบุต่อว่า วันที่ 6 เม.ย. 2565 นี้ คือวันลงรากฐานให้กับพรรคการเมืองที่จะเป็นสถาบันการเมืองของประชาชนตลอดไป เชื่อมั่นอย่างที่สุดว่าพี่น้องประชาชนจะร่วมกันเปลี่ยนผ่านประเทศไทยของเราให้เป็นดินแดนแห่งสันติสุขมีความเป็นพี่น้องมีอนาคตที่ดีและมีความสุขร่วมกัน

สำหรับอาคารที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย เป็นอาคารที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 3,158 ตารางเมตร สูง 2 ชั้น บนที่ดินขนาด 7 ไร่ครึ่ง โดยมีพื้นที่ตรงกลางคือลานประชาชน หรือ Citizen Square ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ที่ห้อมล้อมด้วยส่วนการใช้สอยหลัก 3 ส่วน คือ ที่ทำการพรรค พื้นที่ทำงานร่วมกัน(Co-working Space) ส่วนคาเฟ่ และห้องประชุมใหญ่ที่สามารถ จุคนได้ 300 คน

ทั้งนี้ สถาปัตยกรรมหลังนี้เริ่มต้นออกแบบ จากวิธีคิดของพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งมีประชาชนเป็นจุดเริ่มต้น มีองค์ประกอบทางความคิดที่เน้นการสร้างไทย ที่ประชาชนต้องการ สร้างพื้นที่ส่วน Co-working space ที่ประชาชน และ นักการเมืองของพรรคม นั่งพูดคุยประชุมหารือกันได้ สร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เพื่อสร้างประเทศไทยในแบบที่ประชาชนต้องการ

นอกจากนี้ ยังมีลานประชาชน หรือ Citizen square เป็นพื้นที่เปิดโล่งที่อยู่ตรงกลาง เป็นเสมือนหัวใจของสถาปัตยกรรมหลังนี้ ซึ่งทำหน้าที่สร้างโอกาสให้กับผู้คน ด้วยกิจกรรมต่างๆที่หลาก ทั้งการพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักการเมืองของพรรค เป็นลานที่จะให้ประชาชนมาใช้สร้างรายได้เป็น Street food หรือ Food truck เป็นต้น พื้นที่บริเวณดังกล่าวจะทำหน้าที่สร้างโอกาสให้กับผู้คน โดยไม่มีเวลาปิดทำการ เน้นการสร้างไทย ด้วยความเท่าเทียม โดยมีประชาชนเป็นเจ้านายของพวกเรา

สถาปัตยกรรมหลังนี้ จะเป็นสถาปัตยกรรมที่เป็นมิตรกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้พิการ สร้างแบบอารยสถาปัตย์ในการใช้สอย ซึ่งพื้นที่ส่วนต่างๆ จะถูกพยายามทำให้เป็นระดับเดียวกัน และเชื่อมต่อด้วยทางลาดที่ให้ความสะดวกสบายอย่างเท่าเทียม เน้นการสร้างไทย ด้วยวัสดุไทยๆ จากภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ มาทำให้เกิดความทันสมัย เพื่อเป็นการสร้างต้นแบบให้วัสดุไทยๆ เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท