Skip to main content
sharethis

ศาลเชียงรายสั่งพิจารณาลับ คดี ม.112 ของ ‘บาส’ มงคล ถิระโคตร พ่อค้าขายของออนไลน์ และนักกิจกรรม อ้างเพื่อความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดี นัดสืบพยานครั้งหน้า 27-28 เม.ย. 65 

 

21 เม.ย. 65 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานวันนี้ (21 เม.ย.) ระหว่างวันที่ 19-20 เม.ย. 2565 ที่ศาลจังหวัดเชียงราย มีนัดหมายสืบพยานโจทก์ในคดีของนายมงคล ถิระโคตร หรือ “บาส” พ่อค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์และนักกิจกรรมในจังหวัดเชียงราย ที่ถูกฟ้องร้องด้วยข้อกล่าวหาตาม มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แยกเป็น 2 คดี จากการโพสต์เฟซบุ๊ก จำนวน 27 โพสต์ โดยศาลให้พิจารณาทั้ง 2 คดีไปพร้อมกัน

นายมงคล ถิระโคตร หรือ “บาส” พ่อค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์และนักกิจกรรมในจังหวัดเชียงราย

เมื่อ 19 เม.ย. 2565 วันแรกของการสืบพยานโจทก์ในคดี ศาลจังหวัดเชียงรายได้มีคำสั่งแจ้งให้กับจำเลยและทนายจำเลยทราบว่า ศาลมีคำสั่งให้ทำการพิจารณาคดีเป็นการลับ เพื่อประโยชน์แห่งความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามกฎหมายอาญา มาตรา 177 ทำให้ผู้ที่เข้าห้องพิจารณาคดีได้ จะมีเพียงพนักงานอัยการจังหวัดเชียงรายที่เป็นโจทก์ ทนายความจำเลยที่ได้รับการแต่งตั้ง และจำเลยเท่านั้น ในส่วนพ่อและแม่ของมงคล หรือผู้สังเกตการณ์ในคดีที่เดินทางมาร่วมรับฟังการพิจารณา ไม่สามารถเข้าฟังการพิจารณาได้ตลอดการสืบพยาน

ในการสืบพยานทั้ง 2 วัน สามารถสืบพยานโจทก์ไปได้เสร็จสิ้น 2 ปาก และศาลให้สืบพยานโจทก์ต่อไปในนัดวันที่ 27-28 เม.ย. 2565

สำหรับกรณีนี้ เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2564 และ 1 พ.ค. 2564 มงคลถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัวตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงรายในทั้ง 2 คดี ตามลำดับ ในคดีแรก การจับกุมเกิดขึ้นระหว่างเขาเดินทางไปนั่งอดอาหารเรียกร้องสิทธิประกันตัวผู้ต้องขังทางการเมืองที่หน้าศาลอาญา รัชดาภิเษก ในกรุงเทพฯ ส่วนในครั้งหลัง เป็นการเข้าจับกุมที่บ้านพักในอำเภอพาน จ.เชียงราย

เขาถูกแจ้งข้อกล่าวหา มาตรา 112 และถูกขอฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงรายทั้ง 2 ครั้ง โดยศาลอนุญาตให้มงคล ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวนมาก่อน ทั้งนี้ การจับกุมในคดีหลัง ทนายความได้โต้แย้งว่าการสอบสวนเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่ตำรวจควรจะเป็นไปในคดีเดิม หากจะแจ้งพฤติการณ์เพิ่มก็สามารถออกหมายเรียกผู้ต้องหาในคดีเดิมได้ ไม่ใช่การตั้งสำนวนคดีใหม่ เพราะพยานหลักฐานต่างๆ ก็สามารถดำเนินการเป็นคดีเดียวกันได้ 

ต่อมา พนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้องทั้งสองคดีของมงคลต่อศาล เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2564 โดยศาลให้ประกันตัวระหว่างพิจารณาด้วยหลักทรัพย์รวม 300,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์

ทั้งนี้ จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในสถานการณ์การพิจารณาคดีมาตรา 112 ที่เกิดขึ้นหลังการกลับมาบังคับใช้ตั้งแต่ พ.ย. 2563 คดีของมงคล นับเป็นคดีที่ 2 และ 3 ที่ศาลมีคำสั่งพิจารณาเป็นการลับ หลังจากก่อนหน้านี้มีคดีของ “ศิระพัทธ์” กรณีถูกกล่าวหาว่าลักพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 พร้อมกรอบรูปไปจากหน้าหมู่บ้านประชาชื่น จากนั้นนำกรอบรูปไปทิ้งลงคลอง ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี มีคำสั่งให้พิจารณาเป็นการลับไปแล้ว โดยคดีดังกล่าว ยังถูกพิจารณาพ่วงกับคดีของกนกวรรณ ที่ถูกกล่าวหาในข้อหารับของโจร ทำให้คดีนี้พิจารณาเป็นการลับไปด้วย

                

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net