พี่สาว 'วันเฉลิม' ถูกขึ้นบัญชีดำ 'บุคคลเฝ้าระวังพิเศษ'

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมรายงานว่า สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของ “วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์” ถูกขึ้นบัญชีดำเป็น “บุคคลเฝ้าระวังพิเศษ (ระดับแดง)” ทนายความได้ส่งหนังสือขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบและยุติการดำเนินคดีกลั่นแกล้งสิตานัน จากการลุกขึ้นมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่น้องชาย

 

22 เม.ย. 2565 มูลนิธิผสานวัฒนธรรมรายงานว่า สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของ “วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์” นักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกอุ้มหายระหว่างลี้ภัยอยู่ในกัมพูชา ถูกขึ้นบัญชีดำเป็น “บุคคลเฝ้าระวังพิเศษ (ระดับแดง)” โดยทนายความได้ส่งหนังสือขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตรวจสอบ และยุติการดำเนินคดีกลั่นแกล้งสิตานันจากการลุกขึ้นมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่น้องชาย

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2565 ปรากฏเอกสาร “บุคคลเฝ้าระวังพิเศษ (ระดับแดง) จำนวน 2 ราย” ซึ่งมีรูปภาพ ชื่อ และที่อยู่ของสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เชื่อได้ว่าเป็นเอกสารที่จัดทำโดยหน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐบาลและเผยแพร่ไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ต่างๆ เพื่อติดตามสอดแนมหรือข่มขู่คุกคามบุคคลทั้งสอง ทนายความจึงส่งหนังสือถึง สตช. ขอให้ตรวจสอบและสืบสวนตามหาแหล่งที่มาวัตถุประสงค์ในการทำและการส่งเอกสารดังกล่าวให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และขอให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมทั้งเรียกร้องให้ สตช. ยุติการดำเนินคดีกลั่นแกล้งสิตานัน จากการที่เรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่น้องชาย การแสดงออกทางความคิดเห็น และร่วมกิจกรรมสาธารณะด้วย

สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ภาพจากเฟซบุ๊ก Sitanun Satsaksit

สิตานันเป็นพี่สาวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกบังคับสูญหายที่ประเทศกัมพูชาเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563 หลังเกิดเหตุสิตานันได้เดินหน้าเรียกร้องตามหาความจริงและความยุติธรรมให้กับน้องชายตลอดมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี โดยดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในกรอบของกฎหมาย เช่น ยื่นจดหมายร้องเรียนหน่วยงานราชการ จัดกิจกรรม หรือเข้าร่วมกิจกรรมการรวมกลุ่มสาธารณะโดยสงบปราศจากอาวุธ รวมทั้งรณรงค์ปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะป้องกันไม่ให้มีการบังคับบุคคลสูญหาย แต่กลับไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าหน้าที่รัฐบางกลุ่มยังได้เพ่งเล็งและใช้กระบวนการยุติธรรมกลั่นแกล้งดำเนินคดีและคุกคามสิตานันตลอดมา

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเห็นว่า เอกสาร “บุคคลเฝ้าระวังพิเศษ (ระดับแดง)” มีลักษณะของ “บัญชีดำ” ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเคยจัดทำขึ้นบ่อยครั้ง อันถือเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเมิดสิทธิเสรีภาพและข้อมูลส่วนบุคคล และกระทบต่อความมั่นคง ปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของสิตานัน ทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรมในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจของสิตานันจึงจะได้ส่งหนังสือลงวันที่ 22 เม.ย. 2565

 

ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการดังต่อไปนี้

1. ให้ตรวจสอบและสืบสวนหาแหล่งที่มาของเอกสารนี้ว่าจัดทำโดยหน่วยงานใดและมีวัตถุประสงค์อย่างไร โดยเฉพาะการระบุว่าเป็น “บุคคลเฝ้าระวังพิเศษ (ระดับแดง)” มีความหมายว่าอย่างไร และผู้จัดทำเอกสารมีแนวทางดำเนินการอย่างไรต่อสิตานัน

2. ได้มีการส่งให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่ระบุว่าเป็นที่อยู่อาศัยของสิตานันและท้องที่อื่นๆหรือไม่

3. หาก สตช. หรือเจ้าหน้าที่ในสังกัดเกี่ยวข้องกับการจัดทำและเผยแพร่ เอกสารดังกล่าว รวมทั้งการสอดแนมการเป็นอยู่ของสิตานัน ก็ขอให้สั่งให้ยุติการกระทำดังกล่าวโดยทันที

4. ขอให้ยุติการใช้กระบวนการยุติธรรม ข่มขู่ คุกคาม กลั่นแกล้งดำเนินคดีสิตานัน ซึ่งเป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่สมควรได้รับการปกป้องคุ้มครองจากหน่วยงานของรัฐ แต่ขณะนี้กลับตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา 2 คดีอันเนื่องมาจากการร่วมกิจกรรมด้านประชาธิปไตยและการเรียกร้องความเป็นธรรมให้รัฐรับผิดชอบสืบสวนสอบสวนกรณีการหายไปของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ น้องชาย

ทั้งนี้ จดหมายฉบับดังกล่าวจะได้ส่งสำเนาถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน องค์การสหประชาชาติด้วย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท