ส.ส.ก้าวไกลและทีมงานร่วมบวชป่าสักทองแก่งเสือเต้น พร้อมรับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้านไปผลักดันให้รัฐบาลยกเลิก 'เขื่อนแก่งเสือเต้น เขื่อนยมบน เขื่อนยมล่าง' - 'พิธา' ลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี มั่นใจปักธง ส.ส.เขตภาคใต้ ชี้หมดยุคส่งเสาไฟฟ้าลงแล้วชนะ

23 เม.ย. 2565 นักข่าวพลเมืองตำบลสะเอียบ แจ้งข่าวว่านายคำพอง เทพาคำ ส.ส. พรรคก้าวไกล และทีมงาน ได้ร่วมบวชป่าสักทองแก่งเสือเต้น ณ ดงสักงาม หมู่ 9 บ้านดอนชัยสักทอง ตำบลสะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ พร้อมทั้งรับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้านไปผลักดัน ให้รัฐบาลยกเลิกเขื่อนแก่งเสือเต้น เขื่อนยมบน-เขื่อนยมล่าง

ส.ส.ก้าวไกลเห็นว่าโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น เขื่อนยมบน-เขื่อนยมล่าง ไม่ได้แก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งแต่อย่างใด ชาวบ้านสู้มากว่า 30 ปี แล้วควรจะยกเลิกโครงการเหล่านี้ได้แล้ว เพราะมีทางเลือกอื่นๆ ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งอย่างยั่งยืนหลากหลายแนวทาง โดยไม่ต้องทำลายป่าสักทองกว่า 30,000-40-000 ไร่ “ผมว่านักวิชาการ และ ชาวบ้านในพื้นที่สะเอียบ ได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ อย่างสะเอียบโมเดลก็เป็นการจัดการน้ำขนาดเล็กกระจายทั่วทั้งลุ่มน้ำยม ใช้งบประมาณน้อยกว่าเขื่อนและไม่ต้องทำลายป่า ไม่ต้องทำร้ายชุมชน พรรคก้าวไกลยินดีนำแนวทางเหล่านี้ไปผลักดันให้เป็นรูปธรรมต่อไป” สส.ก้าวไกลกล่าว

พรรคก้าวไกลเห็นด้วยกับการรักษาป่าสักทองไว้ให้เป็นมรดกลูกหลาน และใช้แนวทางการบริหารจัดการน้ำในหลากหลายรูปแบบ ที่สำคัญต้องกระทบกับทรัพยากรธรรมชาติและชุมชนให้น้อยที่สุด ตนจะนำหนังสือที่ชาวบ้านยื่นถึงหัวหน้าพรรค และนายกรัฐมนตรีไปผลักดันในสภา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อชาวบ้าน เพราะเมื่อรัฐบาลใช้อำนาจคณะรัฐมนตรีในการอนุมัติโครงการ ก็ต้องใช้มติคณะรัฐมนตรียกเลิกโครงการ เพื่อให้ชาวบ้านได้สบายใจ ไม่ต้องวิตกกังวลว่าเขื่อนจะมาทับบ้านเรือนและชุมชนเมื่อไหร่ “ผมคิดว่าควรยกเลิกโครงการให้ชาวบ้าน ไม่ใช่ชะลอโครงการและผูกไว้กับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ชาวบ้านจะได้ไม่ต้องกังวล ความดันขึ้น การพัฒนาพื้นที่ก็จะไปได้อย่างเต็มที่” สส.คำพอง กล่าวในที่สุด

'พิธา' มั่นใจปักธง ส.ส.เขตภาคใต้ ชี้หมดยุคส่งเสาไฟฟ้าลงแล้วชนะ

23 เม.ย. 2565 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานว่าที่ จ.สุราษฎร์ธานี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวในการอบรมสัมมนาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล พื้นที่ภาคใต้ว่า ความฝันอย่างหนึ่งของตัวเองตั้งแต่มาเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลนั่นก็คือ จะต้องมี ส.ส.เขต ในพื้นที่ภาคใต้ให้ได้ และสถานการณ์ตอนนี้นับว่าเป็นช่วงที่ใกล้เคียงมากที่สุด สนามการเมืองภาคใต้เปลี่ยนแปลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น หมดยุคที่่บอกว่าเอาเสาไฟฟ้ามาลงก็ชนะ และยิ่งถ้าไปดูเส้นทางของพวกเราตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ กว่า 5 แสนเสียง จาก 6.3 ล้านเสียง ถือเป็นเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ ที่พี่น้องปักษ์ใต้ให้ความไว้วางใจ นับเป็นคะแนนที่สูงมาก ตนไม่เคยลืมความไว้วางใจนี้ และในการทำงานในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพวกเรา ตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่มาจนเป็นพรรคก้าวไกล ก็พยายามยามผลักดันประเด็นปัญหาของพื้นที่ให้ได้รับการแก้ไขหลายเรื่องมาก ไม่ว่าจะเป็นกรณีโรงไฟฟ้าจะนะ จ.สงขลา ที่เรามี ส.ส.อภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องนี้ด้วย, กรณีโรงไฟฟ้านาบอน จ.นครศรีธรรมราช หรือเหตุการณ์น้ำท่วมในตัวเมืองนครศรีธรรมราช เราก็ได้เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องอย่างเต็มที่ ทั้งหมดได้รับการต้อนรับจากพี่น้องชาวใต้เป็นอย่างดี หรืออย่างครั้งนี้ เมื่อเสร็จจากการอบรมสัมมนาแล้ว ตนจะเดินทางต่อไปยัง 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อพบปะและรับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ สำหรับออกแบบนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป

"ถ้ากล่าวถึงพื้นที่ภาคใต้ ต้องพูดว่าเป็นพื้นที่ที่ทำให้หัวใจผมเต้นแรงเลือดสูบฉีดมากที่สุด นอกจากจะเป็นพื้นที่ที่มีความฝันว่าจะมี ส.ส.เขตให้ได้แล้ว ยังเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงมาก ถ้าคนภาคใต้ไม่รวย คงไม่มีที่ไหนรวยได้ เพราะเรามีทั้งการประมง การท่องเที่ยว การเกษตร เป็นแหล่งแร่ธาตุสำคัญ แม้ช่วงที่ผ่านมาจะเป็นพื้นที่มีความอ่อนไหว เศรษฐกิจผันผวนมากที่สุดจากการแพร่ระบาดของโควิด แต่ผมเชื่อว่าถ้าได้ผู้บริหารที่มีศักยภาพ จะสามารถฟื้นคืนกลับมาได้ และนี่คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญ และวางยุทธศาสตร์การทำงานของภาคใต้ออกเป็น 3 โซน คือภาคใต้ฝั่งอันดามัน ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย และ 3 จังหวัดใต้ นั่นหมายความว่า นโยบายของพรรคก้าวไกลเรานอกจากจะมีนโยบายระดับประเทศแล้ว ยังมีนโยบายระดับภาค และนโยบายระดับโซนอย่างที่เราจัดไว้ด้วย สนามการเมืองภาคใต้เปิดแล้ว ไม่ไกลเกินฝันที่จะมีผู้แทนแบบวิถีก้าวไกล เราจะมี ส.ส.เขต ภาคใต้ในครั้งนี้อย่างแน่นอน" พิธา กล่าว