สื่อต่างประเทศวิเคราะห์ฝ่ายขวาจัดในฝรั่งเศสถึงจะแพ้การเลือกตั้งแต่กลายเป็นกระแสหลักมากขึ้น

ถึงแม้ว่าในผลการเลือกตั้งฝรั่งเศสครั้งล่าสุด เอ็มมานูเอล มาครง จากพรรคอองมาร์ชจะยังคงชนะ มารีน เลอ แปนจากพรรคขวาจัด ด้วยคะแนนร้อยละ 58.5 ต่อร้อยละ 41.5 ทำให้เขาได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 แต่ก็มีนักวิเคราะห์มองว่าผลคะแนนของเลอ แปนที่กระเตื้องขึ้นจากการเลือกตั้ง 5 ปีก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นว่าฝ่ายขวาเริ่ม "กลายเป็นกระแสหลักมากขึ้น"

จากการวิเคราะห์ของสื่อต่างประเทศระบุว่านักชาตินิยมผู้ดุดันอย่าง เลอ แปน ไม่สามารถเอาชนะการเลือกตั้งในวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมาได้ก็จริงอยู่ แต่เธอก็ทำคะแนนได้มากในระดับที่ไม่เคยเป็นมาก่อนคือ ร้อยละ 41.5 เทียบกับในครั้งก่อนหน้านี้ที่ทำคะแนนได้ร้อยละ 33.9

ทำให้สื่อกระแสหลักอย่างเอพีมองว่า "การเมืองแบบต่อต้านชาวต่างชาติและต่อต้านระบบเดิมจากกลุ่มคนที่ไม่พอใจกำลังฝังรากมากขึ้นในความคิด, จิตใจ และภูมิศาสตร์การเมืองของฝรั่งเศส"

บทวิเคราะห์ระบุว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นับตั้งแต่ "ราชวงศ์เลอ แปน" เข้าสู่เส้นทางการเมือง พ่อของมารีนคือ ฌอง-มารี เลอ แปน ลงแข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี 2517 แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ชาวฝรั่งเศสลงคะแนนโหวตโดยเชื่อว่าการปิดกั้นชาวต่างชาติและปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอกจะทำให้ฝรั่งเศสรวยขึ้นและปลอดภัยขึ้น ทั้งๆ ที่ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีคำขวัญ "เสรีภาพ, ความเสมอภาค, ภราดรภาพ" สลักอยู่บนอาคารราชการ

หนึ่งในประเด็นที่เลอ แปน เคยเสนอคือการแบนฮิญาบซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายหญิงมุสลิมในที่สาธารณะ นักวิเคราะห์มองว่ามันเป็นการลิดรอนเสรีภาพของกลุ่มผู้หญิงชาวมุสลิม และไม่นับว่าทำให้เกิดความเท่าเทียมหรือความเป็นภราดรภาพแต่อย่างใด

หญิงผู้สวมฮิญาบรายหนึ่งชื่อ ยาสมินา อัคซัส บอกว่าความพ่ายแพ้ของเลอ แปน ไม่นับเป็นช่วงเวลาที่น่าเฉลิมฉลองเพราะเธอได้รับคะแนนสนับสนุนเพิ่มขึ้นมาก หลังจากที่ก่อนหน้านี้กลุ่มขวาจัดเคยมีจำนวนอยู่ไม่มากเท่าไหร่

ในเรื่องนโยบายนานาชาติแล้ว เลอ แปน ต้องการให้ความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสกับสหภาพยุโรปแย่ลง รวมถึงต้องการลดระดับความสัมพันธ์กับนาโตและประเทศใกล้เคียงอย่างเยอรมนีด้วย ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะส่งผลสะเทือนต่อโครงสร้างสันติภาพในยุโรปในช่วงที่ยังคงมีสงครามรัสเซียในยูเครน

ไม่เพียงเท่านั้นความพ่ายแพ้ด้วยคะแนนที่สูงในครั้งนี้ยังส่งผลให้เลอ แปน มองว่าตัวเองยังมีความหวังที่จะชนะในครั้งถัดไป การที่เธอได้คะแนนมากกว่าร้อยละ 40 นั้นทำให้เลอ แปน วาดภาพตัวเองว่าฝ่ายขวาจัดของเธอได้กลายมาเป็นกระแสหลักแล้วในฝรั่งเศส จากเดิมที่ในยุคสมัยที่พ่อของเธอ ฌอง-มารี ชิงตำแหน่งกับ ฌาคส์ ชีรัก ในปี 2545 เขาพ่ายแพ้ด้วยคะแนนร้อยละ 18 ต่อร้อยละ 82

ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่าเลอ แปน พยายามเน้นเรื่องที่ชาวฝรั่งเศสให้ความสนใจอย่างเรื่องค่าครองชีพ พยายามเข้าไปเป็นมิตรกับชนชั้นแรงงาน และเปลี่ยนชื่อพรรคตัวเองเพื่อให้ดูออกห่างจากพ่อของเธอ ทำให้เธอดูไม่เป็นฝ่ายขวาที่น่ากลัว แต่พยายามเอาใจกลุ่มคนที่ไม่สนเรื่องผู้อพยพ ไม่สนใจเรื่องอียู ชาวมุสลิม หรือชาวต่างชาติ

ในอีกมุมหนึ่งคือ เอ็มมานูเอล มาครง จากพรรคสายกลางขอฝรั่งเศสถูกมองว่าล้มเหลวถึงแม้ว่าเขาจะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ก็ตาม ใน 5 ปีที่แล้วตอนที่เขากล่าวสุนทรพจน์ชนะการเลือกตั้งมาครงเคยกล่าวไว้ว่า "ผมจะทำทุกอย่างในช่วง 5 ปีนี้เพื่อทำให้ผู้คนไม่มีเหตุผลที่จะต้องโหวตให้กับฝ่ายหัวรุนแรงอีก"

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ "ฝ่ายหัวรุนแรง" ที่มาครงอ้างอิงถึงกลับทำได้ดีขึ้นในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดนี้

นักวิเคราะห์ระบุอีกว่ากลุ่มขวาจัดเหล่านี้ทำการขยาย "ตลาด" ทางการเมืองของพวกเขาด้วยโวหารแบ่งแยกพวกเขา-พวกเรา โดย "พวกเรา" เป็นกลุ่มคนขาวชาวคริสต์ส่วนใหญ่ที่รู้สึกเกลียดกลัวชาวมุสลิมและผู้อพยพ กลัวว่าจะสูญเสียอัตลักษณ์ของชาวฝรั่งเศสเองให้กับวัฒนธรรม ศาสนา และค่านิยมอื่นๆ

ขณะเดียวกันฝ่ายขวาจัดในฝรั่งเศสก็กล่าวโทษว่า "พวกเขา" คือกลุ่มคนที่เป็นต้นเหตุของปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มชนชั้นนำ, ชาวต่างชาติ, นักการเงิน, สหภาพยุโรป, ชาวมุสลิม และ "ระบบ" และฝ่ายขวายังมีบัญชีสิ่งที่จะโทษได้อีกยาวเป็นหางว่าว และตลาดการเมืองของพวกเขามีพวกหัวรุนแรงหลายรูปแบบให้เลือก

มีการยกตัวอย่างอดีตนักวิจารณ์ในสื่อโทรทัศน์ชื่อ อิริค เซมมูร์ ที่ถูกมองว่าเป็นจอมปลุกปั่นและเคยถูกตัดสินให้มีความผิดฐานใช้วาจายุยงความเกลียดชังหรือ "เฮทสปีช" เขาได้รับคะแนนเสียงมากเป็นอันดับที่ 4 ในการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อวันที่ 10 เม.ย. เซมมูร์เป็นคนที่มักจะใช้วาทกรรมแบบเหยียดเชื้อชาติสีผิวอ้างว่ากลุ่มคนขาวชาวฝรั่งเศสมีโอกาสที่จะถูกแทนที่โดยกลุ่มผู้อพยพที่ไม่ใช่ชาวยุโรป นอกจากนี้เซมมูร์ยังเคยกล่าวถึงการที่ฝรั่งเศสเคยร่วมมือกับพวกนาซีในสงครามโลกครั้งที่สองในทำนองทำให้ดูเหมือนเป็นเรื่องดี เซมมูร์หาเสียงโดยอาศัยคำผรุสวาทที่เต็มไปด้วยการต่อต้านอิสลามและการต่อต้านผู้อพยพ

คนอย่างเซมมูร์ที่แสดงออกสุดโต่งกว่า เลอ แปน กลายเป็นการสร้างข้อได้เปรียบให้กับเลอ แปน โดยการทำให้เธอดูธรรมดาหรือเบาลงจนทำให้คนคิดว่าน่าจะเป็นตัวเลือกในการเลือกตั้งได้

 

เรียบเรียงจาก

Analysis: Loss is victory for far-right in France's election, ABC News, 25-04-2022

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท