Skip to main content
sharethis

iLaw รายงานว่า เมื่อเวลา 10.20 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาจำคุก “สมบัติ ทองย้อย” อดีตการ์ดเสื้อแดง เป็นเวลา 6 ปี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ รวม 3 ข้อความ หนึ่งในข้อความที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีคือ 'กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ' ด้านทนายความกำลังขอยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป

 

28 เม.ย. 2565 iLaw รายงานว่า เมื่อเวลา 10.20 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาจำคุก “สมบัติ ทองย้อย” อดีตการ์ดเสื้อแดง เป็นเวลา 6 ปี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากกรณีที่มีผู้พบเห็นว่าสมบัติโพสต์ข้อความในลักษณะที่น่าจะเข้าข่ายเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ รวม 3 ข้อความ

สมบัติ ทองย้อย

ก่อนหน้านี้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยว่า เมื่อ 15 ธ.ค.2563 สมบัติถูก ศรายุทธ สังวาลย์ทอง ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อให้ดำเนินคดี ม.112 กับเขาจากกรณีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวจำนวน 3 ข้อความ ในเดือน ต.ค. และ พ.ย. 2563 หนึ่งในข้อความที่ถูกนำมาแจ้งความคือ “#กล้ามาก #เก่งมาก #ขอบใจนะ” ซึ่งเป็นข้อความที่รัชกาลที่ 10 กล่าวขอบใจชายที่ชูพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9 ในการชุมนุมของกลุ่ม "ราษฎร" ที่มารอรับเสด็จเมื่อวันที่ 23 ต.ค. 63 ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า

ข้อความที่ 2 ได้แก่ ข้อความวันที่ 2 พ.ย. 63 โพสต์ว่า “เขาให้ลดงบประมาณที่เอาไปใช้จ่ายไม่ใช่ลดตัวลงมาใกล้ชิดประชาชน เข้าใจอะไรผิดไหม เรื่องการลดตัวลงมาแนบสนิท ชิดใกล้ประชาชนแบบที่เห็น แสดงให้เห็นว่า รู้ตัวสินะว่าคนเขาไม่เอา เลยต้องลงมาทําขนาดนี้ ถ้าจริงใจต้องทํามานานแล้วไม่ใช่เพิ่งมาทํา เพื่อเรียกคะแนนนิยมกลับคืนมา แต่น่าจะช้าไปแล้วจริง ๆ ละครหลังข่าวชัดๆ” ซึ่งนายศรายุทธเห็นว่าผู้โพสต์ตั้งใจสื่อถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะว่าในการเสด็จพระราชดําเนินนั้นประชาชนสามารถเข้าไปใกล้ชิดและขอฉายพระรูปกับพระองค์ท่านได้

ข้อความที่ 3 คือ ข้อความวันที่ 2 พ.ย. 63 โพสต์ว่า “มีแจกลายเซ็นด้วย เซเลปชัดๆ” นายศรายุทธเห็นว่าเป็นข้อความจงใจหมายถึงพระมหากษัตริย์ เนื่องจากเวลาที่พระมหากษัตริย์เสด็จพระราชดำเนินนั้น ประชาชนจะนำพระบรมฉายาลักษณ์ไปให้พระองค์ทรงลงลายพระหัตถ์

คดีนี้เป็นหนึ่งในหลายคดีที่ประชาชนซึ่งไม่ใช่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีผู้อื่นในฐานความผิดที่เกี่ยวกับความมั่นคงและมีอัตราโทษสูง ขณะนี้นายประกันของสมบัติกำลังดำเนินการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป

เมื่อเวลา 13.00 น. iLaw รายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำพิพากษาของศาลในคดีของสมบัติ  ดังนี้ ศาลพิพากษาว่า ข้อความ กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจมากที่จำเลยนำมาโพสต์ เป็นพระราชดำรัสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตรัสในวันที่ 23 ตุลาคม 2563 เพื่อชื่นชม ฐิติวัฒน์ ธนการุณย์ ซึ่งยืนถือพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่เก้าและสมเด็จพระราชินีในรัชกาลที่เก้า ระหว่างที่มีการชุมนุมของคณะราษฎร แม้โดยเนื้อแท้ข้อความดังกล่าวจะเป็นการกล่าวชื่นชม ไม่ได้หมิ่นประมาท แต่เมื่อพิจารณาการโพสต์ของจำเลยที่นำข้อความพระราชดำรัสไปประกอบกับข่าวเรื่องที่นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่เข้ารับปริญญาทั้งคณะ จำเลยจึงมีเจตนาชื่นชมบัณทิตที่ไม่เข้ารับปริญญา โดยเอามาพระราชดำรัสมาโพสต์ ซึ่งในสังคมไทยการรับปริญญาถือว่าเป็นเกียรติและศิริมงคล การกระทำของจำเลยจึงถือเป็นการล้อเลียนเสียดสีพระมหากษัตริย์ เป็นการกระทำที่ไม่บังควร จางจ้วง เข้าข่ายเป็นการดูหมิ่น หมิ่นประมาท พระมหากษัตริย์

ส่วนที่จำเลยอ้างว่า ไม่ทราบว่าข้อความดังกล่าวเป็นพระราชดำรัสรัชกาลที่สิบนั้นฟังไม่ขึ้น เพราะทั้งพยานโจทก์และพยานจำเลยต่างเบิกความสอดคล้องกันว่า ข่าวที่พระองค์ตรัสข้อความดังกล่าวกับฐิติวัฒน์มีการรายงานอย่างแพร่หลายและเป็นที่ทราบโดยทั่วกัน

ส่วนข้อความที่จำเลยเขียนทำนองว่าเขาให้ปรับลดงบประมาณ ไม่ใช่ให้ลดตัวมาใกล้ชิดกับประชาชน และข้อความที่จำเลยเขียนว่ามีแจกลายเซ็น แม้จำเลยจะอ้างว่าเป็นการโพสต์ตำหนิรัฐบาลเรื่องการใช้งบประมาณที่ไม่มีประสิทธิภาพ และตำหนิรัฐบาลว่ารู้ตัวว่าคะแนนนิยมของตัวเองตกต่ำจึงต้องส่ง ส.ส.และรัฐมนตรีไปลงพื้นที่หาคะแนนเสียง แต่ไม่ปรากฎว่าระหว่างที่จำเลยโพสต์ข้อความทั้งสอง จำเลยได้มีการโพสต์ข้อความอื่นๆ

นอกจากนั้นก็ไม่มีหลักฐานว่าในช่วงเวลาที่จำเลยโพสต์ข้อความ มีรัฐมนตรีหรือ ส.ส.คนใดไปลงพื้นที่พบปะประชาชน ส่วนข้อความเรื่องแจกลายเซ็นจำเลยก็อ้างลอยๆ ว่าจำไม่ได้ว่าขณะที่โพสต์หมายถึงใคร นอกจากนั้นทั้งพยานโจทก์และพยานจำเลยก็เบิกความว่า ผู้ชุมนุมปราศรัยโจมตีเรื่องการใช้งบประมาณของรัฐบาลเวลาที่มีการชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่มีการปราศรัยเรื่องให้ปรับลดงบสถาบันฯ

นอกจากนั้นข้อความทั้งสองที่จำเลยโพสต์ก็ห่างจากการเสร็จพระราชดำเนินไปในพระราชพิธีวันปิยะมหาราชและการเสด็จไปเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกตไม่นาน โดยในการเสด็จพระราชดำเนินพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานลายพระอภิไธยให้กับประชาชนที่มารอรับเสด็จบางส่วนด้วย จึงเชื่อว่าจำเลยน่าจะโพสต์ข้อความเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจว่าพระมหากษัตริย์ทรงใช้งบประมาณไม่เหมาะสมและการเสด็จพระราชดำเนินพบปะประชาชนก็เป็นการเสแสร้ง เป็นการหมิ่นประมาทและดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ โดยศาลยังนำคำว่า "ลดตัว" ที่สมบัติโพสต์มาวินิจฉัยด้วยว่าคำดังกล่าวไม่ได้ใช้กับคนทั่วไปและไม่ได้ใช้กับ ส.ส. หรือนายกรัฐมนตรี

หลังศาลมีคำพิพากษา สมบัติยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว แต่ศาลมีคำสั่งให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้สั่งว่าจะให้ปล่อยตัวชั่วคราวสมบัติหรือไม่ ในวันนี้ (28 เม.ย. 2565) สมบัติจะถูกควบคุมตัวในเรือนจำไปก่อน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net