Skip to main content
sharethis

ช่อ พรรณิการ์ กล่าวไว้เช่นนั้น ตลกร้าย ทั้งสามคดีมีบทสรุปและบานปลายในสัปดาห์เดียวกัน ไม่กี่วันหลังจากช่อทำพาสปอร์ตไม่ได้ เพราะตำรวจขอให้กระทรวงต่างประเทศยับยั้ง

เพิ่งรู้ว่าตำรวจมีอำนาจเช่นนั้น ทั้งที่ควรมีแต่อำนาจศาล สามารถจำกัดการเดินทางออกนอกประเทศ นี่แค่ถูกกล่าวหา อัยการยังไม่สั่งฟ้องด้วยซ้ำ ตำรวจขอยับยั้งหรือยกเลิกพาสปอร์ตได้

คดีค้ามนุษย์กลับมาครึกโครมอีกครั้ง Al Jazeera สัมภาษณ์ พล.ต.ต.ปวีณ ตีแผ่กว้างขวางสะเทือนซางยิ่งกว่าตอนรังสิมันต์ โรม อภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่คำตอบของผู้นำ คือตัวเองไม่ทุจริต ฝ่ายการเมืองก็โทษปวีณ-โรม “ชังชาติ” จะทำให้ประเทศถูกลดระดับ TIP Report

ประยุทธ์สุจริตแต่ไม่เคยชี้แจงสักครั้ง ทำไมตอนนั้นปล่อยให้ย้ายนายตำรวจที่มีความดีความชอบ ลงไปอยู่พื้นที่อิทธิพลแก๊งมีสีค้ามนุษย์ พอเขาลาออกกลับด่าตามหลัง

คดีหมอกระต่ายเป็นอีกอย่าง ศาลจำคุกสิบตำรวจ 1 ปี 15 วัน กระแสวิจารณ์ “โทษเบา” แต่นั่นคือมาตรฐาน “ยี่ต๊อก” ขับประมาทชนคนตาย (ส่วนใหญ่รอลงอาญาด้วย) สังคมไทยพร้อมไหมที่จะให้เพิ่มโทษ แบบต้องจำคุกทุกราย จำคุกหลายปี เพื่อเพิ่มความระมัดระวัง สังคมก็ไม่วางใจกระบวนการยุติธรรมอีก (ยิ่งโทษสูงยิ่งต้องจ่ายเบี้ยบ้าย)

คดีแตงโม ตำรวจตั้งโต๊ะร่ายสคริปต์ประกอบคลิปอย่างอลัง แต่คนคาใจก็ยังคาใจ แม้สรุปสำนวนเอาผิด “ก๊วนสปีดโบ๊ต” ทั้งหมด ที่โดนศาลประชาชน “โหนกระแส” พิพากษาไปก่อนแล้ว

คดีนี้บานปลาย เพราะสังคมไม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม ข้องใจตำรวจในเหตุการณ์ตั้งแต่วันแรก ทำไมปล่อยคนบนเรือกลับบ้าน ไม่เก็บหลักฐาน ไม่ตรวจแอลกอฮอล์ ฯลฯ พอ “ก๊วนสปีดโบ๊ต” มาออกทีวี ก็ดันมีคำพูดท่าทีให้ชาวเน็ตปักใจล้ำพยานหลักฐาน โดยมีพวกหิวแสงหมอดูคนทรงทนายทะแนะแห่ผสมโรง กระทั่งปิดคดีแล้ว ทั้งตำรวจทั้งทนายฟ้องกันนัว

ท้ายที่สุด ก็ยังเป็นคดีประมาททำให้เกิดอุบัติเหตุ แต่นอกจากเจ้าของเรือกับคนขับ คนอื่นก็โดนข้อหาประหลาดๆ เช่น มัวแต่เล่นมือถือไม่ดูเพื่อน=ประมาททำให้ผู้อื่นตาย ลบรูปในมือถือตัวเอง=ทำลายหลักฐาน จนมีคำถามว่า ตั้งข้อหาเพื่อลดดราม่าหรือเปล่า

ชวนให้นึกถึงคดีลุงพล ขอให้ประชาชนมั่นใจ แม้พยานหลักฐานคดีน้องชมพู่อาจไม่พอ แต่ก็เอาผิดได้แล้ว ในคดีครอบครองไม้หวงห้าม บุกรุกป่าสงวน

กระบวนการยุติธรรมไทยมีความสามารถพิเศษด้านตั้งข้อหาดำเนินคดี บางครั้งเพื่อสนองดราม่า เอาใจกระแส บางครั้งเพื่อสนองนโยบาย เอาใจอำนาจ บางครั้งเลือกปฏิบัติเพื่อเอาเข้าตัวเอง ให้ต้องวิ่งต้องยัด นั่นแหละที่ประชาชนไม่เชื่อมั่น

โควิดจางเปิดให้คนเข้าร้านอาหารเข้าโรงหนัง แต่ตำรวจยังไล่จับม็อบฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินเอาเป็นเอาตาย วันก่อนไปจับที่สุพรรณ ใช้สายสืบ 11 นาย

ลอตเตอรี่เกินราคา ประยุทธ์ประกาศปราบตั้งแต่รัฐประหารไม่เคยสำเร็จ โทษผู้ค้าออนไลน์ มังกรฟ้า สลากพลัส ฯลฯ ทำให้ลอตเตอรี่แพง ตั้งท่าจะเล่นงานแบบ “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ศาลยังไม่ตัดสินก็ใช้ ปปง.ยึดทรัพย์ไว้ก่อน พอศาลยกฟ้องทั้ง 3 ศาล ก็เจ๊งไปแล้ว

เคยดูเว็บโป๊ไหม พวกเขียนนิยายขายแลกเหรียญมีกลาดเกลื่อน แต่เอกชัย หงส์กังวาน เขียนเล่าเรื่องเพศในคุก “ลามก” ศาลอุทธรณ์จำคุก 1 ปี ศาลฎีกาไม่ให้ประกันเกรงหลบหนี

นึกถึงตอนสงกรานต์ ขึ้นมอเตอร์เวย์สายอีสาน ห้ามขับเกิน 80 ชาวบ้านหัวร่อท้องแข็ง ไม่เกิน 80 จริงๆ นะ

กรมป่าไม้ชี้ว่าที่ดินแม่ธนาธรทับที่ป่า ประกาศเขตป่าตั้งแต่ปี 2512 กรมที่ดินออก น.ส.3 ก.ให้ปี 2521 ซื้อขายเปลี่ยนมือมาหลายราย เพิ่งเพิกถอนตอนลูกชายเล่นการเมือง ถ้าอย่างนี้ตรวจให้หมดดีไหม ส.ป.ก. ภบท.5 ที่จะเล่นงาน ส.ส. ก็ไล่ดูให้หมด ใครเป็นข้าราชการน่าจะผิดเช่นกัน

กฎหมายไทยมีไว้เลือกปฏิบัติ กับคนที่รัฐกาหัว โดยไม่ใช่แค่ทางการเมือง ดูอย่างเหล้าเบียร์ “ผิดศีลธรรม” ปรับร้านลาบห้าหมื่น บุหรี่ไฟฟ้า “ภัยสุขภาพ” ใครสูบแล้วโดนจับโทษหนักลักลอบนำเข้า

ขับประมาทชนคนตายไม่โดนยึดรถ แต่เด็กแว้นเด็กซิ่ง บิดแข่งกันโดนยึด ลงโทษเท่ากับใช้รถขนยาเสพติด คงเพราะเด็กแว้นมันกระด้างกระเดื่องอำนาจรัฐ ยิ่งเป็นเด็ก “ทะลุแก๊ส” พกพาปาประทัดยักษ์ ถูกขังเป็นเดือนไม่ได้ประกัน

ไม่ต้องพูดถึงการตั้งข้อหา 112 ที่ตีความกว้างขวางขึ้นทุกวัน “ตะวัน” “เมนู” “ใบปอ” ทำโพลก็ผิด โพสต์แบบ “สมบัติ ทองย้อย” ก็ผิด แทนที่จะปิดกระแสเคลื่อนไหว อาจทำให้ “ทะลุ” มากขึ้น

สังคมควรตระหนักว่า การใช้กฎหมายเล่นงานกันจะกว้างขวางขึ้น ไม่ใช่แค่ทางการเมือง หรือเรื่องต่อเนื่องคดีดัง แบบตำรวจฟ้องทนายตั้ม จุรินทร์ฟ้องทนายอัจฉริยะ หรือรัฐบาลฟ้องแม่ค้าหาว่าแพร่เฟกนิวส์โควิด สังเกตไหมว่า ดาราวิจารณ์บ้านจัดสรร นักท่องเที่ยวรีวิวโรงแรม ก็โดนฟ้องปิดปากเหมือนกัน

กระบวนการยุติธรรมยังนิวโลว์ได้ไม่หยุด เชื่อเถอะว่านี่ยังไม่ใช่จุดเสื่อมทรามที่สุด ยังพังได้กว่านี้อีก

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_7023003

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net