Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

คณะกรรมการมูลนิธิปรีดี พนมยงค์จะทราบหรือไม่ว่า การสร้างความเสียหายให้กับมูลนิธิ (ด้วยความประมาทเลินเล่อ, ถ้ามี) อาจต้องชดใช้ค่าเสียหายส่วนตัวในกรณีรื้อถอนอาคารสถาบันปรีดีถึง 158 ล้านบาท หรือคนละ 32 ล้านบาท

เมื่อเร็วๆ  นี้มีการเริ่มรื้อถอนอาคารสถาบันปรีดี ถ.ทองหล่อ และมีผู้ไปประท้วงจนสถาบันชะลอการรื้อถอนและให้มีการฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง หากคณะกรรมการมูลนิธิสถาบันปรีดี พนมยงค์ รื้อถอนอาคารดังกล่าวจริง อาจมีความผิดร้ายและและอาจต้องชดใช้ค่าเสียหายอย่างหนัก ทั้งนี้อาคารนี้อยู่บนที่ดิน 371 ตารางวา แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร โดย “ครูองุ่น มาลิก” เป็นผู้มอบที่ดินให้เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2526 โดยมีการวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2531 และเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 มิถุนายน 2538 และเมื่อนับถึงปี 2565 ก็ใช้งานมาแล้ว 27 ปี

ก่อนการก่อสร้างอาคารนี้ คุณสินธุสวัสดิ์ ยอดบางเตย อดีตผู้จัดการสถาบันให้ข้อมูลว่า มีการขอรับบริจาคค่าก่อสร้าง แต่ได้ไม่ถึงล้านบาท จนกระทั่งท่านผู้หญิงพูนศุข ศรีภริยาของท่านปรีดี ได้ไปขอให้น้องสาวคนเล็กของท่านปรีดี  ขายที่ดินแปลงหนึ่ง (ซึ่งแต่เดิมว่าจะยกให้ท่านปรีดีแต่ท่านไม่รับ) เพื่อนำเงินมาก่อสร้างอาคาร และเป็นทุนดำเนินการของมูลนิธิ นอกจากนี้ยังมีผู้บริจาคเสาเข็ม เงินและอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง การรื้อถอนอาคารเท่ากับทำลายน้ำใจของผู้บริจาคโดยตรง

สำหรับความเสียหายที่คณะกรรมการมูลนิธิจะต้องรับผิดชอบ ได้แก่:

1. ความเสียหายในการรื้อถอน 50 ล้านบาท โดยอาคารนี้สร้างด้วยเงิน 22 ล้านเมื่อ 27 ปีก่อน แถมยังมีคนบริจาคเสาเข็มและอื่นๆ คาดว่าคงเป็นเงินราว 25 ล้านบาท ถ้าคิดค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นปีละ 5% ราคาสร้างใหม่วันนี้จะเป็นเงิน 100 ล้านบาท วันนี้งานสถาปัตยกรรมและงานระบบประกอบอาคารคงหมดสภาพแล้ว แต่อย่างน้อยก็เหลือค่าโครงสร้างที่ไม่เสื่อมค่าเป็นเงินครึ่งหนึ่งคือราว 50 ล้านตามมูลค่าปัจจุบัน การที่คณะกรรมการสถาบัน “โยน” เงินจำนวนนี้ทิ้ง (รื้อถอน) คณะกรรมการอาจต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายนี้

2. ความเสียหายจากการดูแลอาคารใหม่ 8.5 ล้านบาทในเวลา 30 ปี อาคารใหม่ของสถาบันปรีดีที่มีพื้นที่ 600 ตารางเมตรนั้น อาจต้องเสียค่าบำรุงอาคารหรือค่าส่วนกลางในการดูแลอาคารอาจเป็นเงินตารางเมตรละ 40 บาท หรือเดือนละ 24,000 บาท หรือปีละ 288,000 บาท และอาจมีค่าสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นประมาณอีก 20 บาทต่อตารางเมตร เป็นเงินอีกปีละ 144,000 บาท รวมเป็นเงินปีละ 432,000 บาท ในระยะเวลา 30 ปี ณ อัตราดอกเบี้ย 3% ก็จะเป็นเงิน 8,467,391 บาท

3. ความเสียหายในการให้เช่าที่ดินประมาณ 100 ล้านบาท ที่ดินแปลงนี้ 371 ตารางวา ราคาตลาดอาจเป็นเงิน 371 ล้านบาท (หรือตารางวาละ 1 ล้านบาท บางแปลงขายตารางวาละ 1.5 ล้านบาทแล้ว)  การเช่าในระยะเวลา 30 ปี ควรเป็นเงินประมาณ 30%-40% ของมูลค่า แสดงว่าอย่างน้อยค่าเช่าที่ดินควรเป็นเงินประมาณ 150 ล้านบาท  ถ้าคณะกรรมการมูลนิธิให้เช่าเป็นเงินเพียง 50 ล้านบาท (ตัวเลขสมมติ) ก็แสดงว่าคณะกรรมการทำให้มูลนิธิเสียหายไปเป็นเงินประมาณ 100 ล้านบาท

ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่คณะกรรมการมูลนิธิอาจต้องแบกรับความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นเงินรวม 158.5 ล้านบาท หากมีการรื้อถอนอาคารนี้แล้วให้เอกชนมาเช่า  ซึ่งขณะนี้มูลนิธิได้ให้เอกชนเช่าพื้นที่ดินแปลงนี้ไปแล้ว โดยในใบขออนุญาตรื้อถอนอาคารระบุว่า “มูลนิธิปรีดีพนมยงค์ (บริษัท ยูโร ครีเอชั่น จำกัด โดยนายโกมล กัมบีร์ ผู้เช่า)”  หรือเท่ากับว่ากรรมการ 15 คนอาจต้องช่วยกันชดใช้คนละ 32 ล้านบาท  ทั้งนี้โดยตั้งบนสมมติฐานที่ว่ากรรมการมีความประมาทเลินเล่อ (ถ้ามี) ที่ทำให้มูลนิธิเสียหาย มูลนิธิไม่ใช่สมบัติของคณะกรรมการมูลนิธิที่คิดจะทำอะไรก็ได้ตามใจ

ในกรณีนี้คณะกรรมการมูลนิธิจึงพึง:

1. เปิดเผยแก่สาธารณชนว่าได้ให้เอกชนเช่าไปเป็นเงินเท่าไหร่ มีรายละเอียดในสัญญาอย่างไร เพื่อจะได้ไม่ถูกครหาว่าการให้เช่านี้มีความไม่ชอบมาพากลหรือไม่

2. พิจารณาเงินชดเชยแก่บริษัทที่เช่าหากมีกรณีจำเป็นที่จะต้องยกเลิกสัญญาเช่านั้น โดยคณะกรรมการอาจต้องใช้เงินส่วนตัวชดใช้หรือไม่ และหากสัญญาไม่เป็นธรรม ก็อาจค่อยๆ ขอความกรุณากับทางบริษัทดังกล่าวได้ ทั้งนี้คงต้องปรึกษาที่ปรึกษากฎหมายให้ชัดเจนเช่นกัน

3. ให้ความเกรงใจเจ้าของเงินทุนค่าก่อสร้างทั้งที่เป็นของน้องสาวคนเล็กของท่านปรีดี และผู้ที่บริจาคเงิน วัสดุก่อสร้าง ฯลฯ มาช่วยจนก่อสร้างจนสำเร็จในอดีต

ทางออกในการแก้ไขปัญหานี้มี ควรช่วยกันระดมสมอง
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net