Skip to main content
sharethis

ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในไทย (7 พ.ค. 65) ผู้ป่วยใหม่ 8,450 ราย ติดเชื้อเข้าข่าย/ ATK 10,467 ราย รักษาหาย 12,224 ราย เสียชีวิต 58 ราย ฉีดวัคซีน (6 พ.ค. 65) สะสม 134,400,625 โดส - วัคซีน 'ChulaCov19' วัคซีนโควิดสัญชาติไทยผลิตล็อตแรก ยื่นขอทดสอบในอาสาสมัครระยะที่ 1 และ 2 จาก อย.แล้ว

7 พ.ค. 2565 ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย มีรายละเอียดดังนี้

- ติดเชื้อในประเทศ 8,409 ราย
- ติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 37 ราย
- ติดเชื้อจากต่างประเทศ 5 ราย
- รักษาหายเพิ่มขึ้น 12,224 ราย
- หายป่วยสะสม 4,193,895 ราย (ตั้งแต่ปี 2563)
- อยู่ระหว่างรักษาตัว 93,840 ราย แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 27,597 ราย โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 66,243 ราย 
- มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 58 ศพ ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 29,034 ศพ (ตั้งแต่ปี 2563)
- ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,316,769 ราย นับเป็นรายที่ 4,308,320 - 4,316,769

โดยวันนี้ไม่มีรายงานผู้ป่วยอาการหนัก (ปอดอักเสบ) และผู้ป่วยต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ รวมถึงอัตราครองเตียงระดับ 2-3 เนื่องจากระบบ co-ward อยู่ระหว่างปรับปรุง

สำหรับผู้ติดเชื้อ 8,450 รายใหม่ แบ่งเป็นดังนี้

- ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 8,380 ราย
- ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 29 ราย
- เรือนจำ/ที่ต้องขัง 37 ราย
- ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 4 ราย

ส่วนผู้ติดเชื้อรายจังหวัดมากที่สุด 5 จังหวัดประจำวันนี้ อันดับ 1 กรุงเทพมหานคร 2,268 ราย รองลงมาคือ ศรีสะเกษ 299 ราย บุรีรัมย์ 280 ราย สุรินทร์ 274 ราย และขอนแก่น 263 ราย

ขณะที่ยอดการตรวจ ATK รายงาน ณ วันที่ 6 พ.ค. 2565 เวลา 07.39 น. ตามข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข พบติดเชื้อเข้าข่าย หรือ ATK เป็นบวกอีก 10,467 ราย ส่วนยอดผลบวกสะสมอยู่ที่ 1,620,933 ราย ซึ่งจำนวนนี้ไม่รวมในการรายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่ซึ่งยืนยันผลด้วย RT-PCR

วัคซีน 'ChulaCov19' วัคซีนโควิดสัญชาติไทยผลิตล็อตแรก ยื่นขอทดสอบในอาสาสมัครระยะที่ 1 และ 2 จาก อย.แล้ว

เพจเฟซบุ๊กไทยรู้สู่โควิด รายงานข่าวดีว่า วัคซีนโควิดสัญชาติไทยข้อมูลระบุว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รายงานความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนโควิดสัญชาติไทย “ChulaCov19” ชนิด mRNA โดยการพัฒนาระยะแรกเป็นการออกแบบวัคซีน และให้โรงงานในสหรัฐอเมริกาผลิต ซึ่งผ่านการทดสอบในอาสาสมัครระยะที่ 1 และ 2 เรียบร้อยแล้ว มีความปลอดภัย และสามารถกระตุ้นภูมิได้สูงกว่าวัคซีนไฟเซอร์ที่อนุมัติใช้ในไทย

ส่วนระยะที่ 2 เป็นการผลิตวัคซีนเองภายในประเทศ โดยบริษัท ไบโอเน็ตเอเชีย จำกัด ซึ่งผลิตวัคซีนลอตแรกเรียบร้อย และผ่านการประกันคุณภาพแล้ว

ขณะนี้ทีมวิจัยได้ส่งเอกสารข้อมูลต่างๆ เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อขอทดสอบในอาสาสมัครระยะที่ 1 และ 2 อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจาก อย.หากผลทดสอบวัคซีนที่ผลิตเองในไทยได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ คาดว่าจะขึ้นทะเบียนวัคซีนได้ภายในปลายปี 2565

นอกจากนี้ ระหว่างการขอขึ้นทะเบียนวัคซีนรุ่นที่ 1 ทางทีมวิจัยจะพัฒนาวัคซีนรุ่นที่ 2 เพื่อป้องกันเชื้อ โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนไปพร้อมกันด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net