Skip to main content
sharethis


สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.จังหวัดนครปฐม และรองโฆษกพรรคก้าวไกล

7 พ.ค. 2565 ทีมสื่อพรรคก้าวไกลแจ้งต่อสื่อมวลชนว่าต่อกรณีการค้ามนุษย์ด้วยการนำเด็กมาแสวงหาประโยชน์ทางเพศ ซึ่งภายหลังตำรวจเข้าช่วยเหลือและนำเด็กๆ ไปเข้ารับการฟื้นฟูที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ต่อมา มีข่าวว่ามีรองอธิบดีในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ท่านหนึ่ง โทรศัพท์ไปสั่งการให้เจ้าหน้าที่ข่มขู่เด็กให้ปกปิดชื่อผู้ใช้บริการ และมีรายงานว่า มีเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงที่ดูแลเหยื่อได้ใช้ไม้ทุบตีทำร้าย ข่มขู่บังคับเหยื่อให้กลับคำให้การ เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหาที่ซื้อประเวณีเด็ก

สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.จังหวัดนครปฐม และรองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะหน่วยงานหลักที่ควรมีหน้าที่เป็นที่พึ่งในการปกป้องคุ้มครองและเยียวยาจิตใจเหยื่อจากการถูกทำร้ายคุกคามทางเพศ ซึ่งกรณีนี้คือเด็กและผู้หญิงกลับถูกคุกคามเสียเองโดยเจ้าหน้าที่ หากปล่อยให้เกิดเหตุเช่นนี้ โดยไม่ทำความจริงให้ปรากฏ เพื่อนำตัวคนผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว เด็กและผู้หญิงรวมถึงเหยื่อทุกคนในประเทศนี้คงไม่สามารถรู้สึกปลอดภัยได้

สุทธวรรณ กล่าวต่อไปว่า ได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า เด็กที่เป็นเหยื่อและเป็นพยานคดีนี้มีความเครียดจนทำร้ายตัวเองด้วยการกรีดแขนและหน้าท้อง จนต้องถูกย้ายมาที่กรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัย ทั้งที่เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น หากหน่วยงานในพื้นที่คือที่พึ่งที่ทำให้อุ่นใจในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย ไม่ใช่เพิ่มปัจจัยเครียดไปเรื่อยๆเพียงเพราะต้องการช่วยเหลือกัน

"ขอเรียกร้องไปยัง นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ให้มีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ในฐานะเจ้ากระทรวงที่มีหน้าที่กำกับดูแลโดยตรง จะต้องให้ความกระจ่างต่อสังคมในเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะเรื่องแบบนี้คงไม่ใช่การพูดเอามันแบบที่ท่านว่า แต่คือชีวิตของเด็กและผู้หญิงที่มีตัวตน มีเลือดเนื้อ มีชีวิตจิตใจ ซึ่งเรื่องราวไปเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับบุคคล และหน่วยงานที่ท่านกำกับดูแล รวมถึงเกี่ยวกับพรรคที่ท่านสังกัด อย่าซื้อเวลาด้วยการอ้างว่าเป็นเรื่องเปราะบาง ต้องรอการตรวจสอบให้ละเอียด เพราะท่าทีของท่านสำคัญมากต่อการที่เหยื่อและคนไทยทุกคนจะได้รับความรู้สึกถึงการปกป้องและความยุติธรรมหรือไม่"

สุทธวรรณ กล่าวว่า คำถามของสังคมที่เกิดขึ้นในเวลานี้ เนื่องมาจากมีข้อกล่าวหาว่า หนึ่งในผู้ใช้บริการซื้อประเวณีเด็ก เป็นลูกของ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคเดียวกับรัฐมนตรีที่กำกับหน่วยงานดูแลเหยื่อ แต่กลับปล่อยให้มีบุคคลระดับรองอธิบดีข่มขู่เจ้าหน้าที่บ้านพักและมีการทำร้ายเหยื่อโดยเจ้าหน้าที่

"จนถึงตอนนี้ คิดว่าผ่านเวลามามากพอที่ท่านจะมีข้อมูลและให้คำตอบขั้นต่ำที่สุด เพื่อยืนยันกับสังคมได้แล้วว่า มีความพยายามช่วยเหลือลูกหลานคนพรรคเดียวกันปกปิดความผิดหรือไม่ มีรองอธิบดีกระทำการข่มขู่เจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ ทำภายใต้คำสั่งใคร และจะมีขั้นตอนการตรวจสอบเพื่อทำให้สังคมเชื่อถือท่านและพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะไม่มีการช่วยเหลือกันในเรื่องนี้ได้อย่างไร" 

เปิดหนังสือคำสั่งย้าย รองอธิบดีกรมเด็กฯ ‘พิสิฐ พูลพิพัฒน์’ ปมพัวพันคดีค้ามนุษย์ เงินเดือน 7.6 หมื่นบาท

กรณี นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานช่วยเหลือและแก้ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งมีปลัด พม.เป็นประธาน ทำหน้าที่ตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บ้านเด็ก (บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี) รวมถึงรองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) พม. ที่มีส่วนในการช่วยเหลือ ด้วยการโทรสั่งให้เกลี้ยกล่อมเด็กผู้เสียหาย ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาซื้อบริการประเวณีเด็ก ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเคสกระทำทางเพศอื่นๆ โดยปลัด พม.ยังได้ลงนามในคำสั่งย้ายรองอธิบดี ดย.มาอยู่ที่ส่วนกลาง แต่ยังไม่ขาดจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2565 มติชนออนไลน์ รายงานว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เผยแพร่คำสั่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ 314/2565 เรื่องมอบหมายให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ลงนามโดย นางพัชรี อาระยะกุล ปลัด พม. เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 ความว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) จึงมอบหมายให้ นายพิสิฐ พูลพิพัฒน์ ตำแหน่งรองอธิบดี (นักบริหารระดับต้น) ตำแหน่งเลขที่ 2 กรมกิจการเด็กและเยาวชน อัตราเงินเดือน 76,800 บาท (อัตราเงินเดือน ณ 1 ตุลาคม 2564) มาปฏิบัติหน้าที่ราชการที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net