Skip to main content
sharethis

'ทนายนกเขา' ควง 'อดีตแกนนำ คปท.' สัญจรลงใต้ ถกชาวบ้าน จ.สตูล ข้องใจประชาชนทนรับกรรมจากปัญหาเดิมๆ ทำศักยภาพหดหายประเทศวิกฤตหนัก ชี้ 'สงครามรัสเซีย-ยูเครน' กระทบภาคใต้เหตุเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางการรบที่สำคัญ หนุนชาวบ้านรวมตัว 'เครือข่ายสมัชชา จ.สตูล' 


      
เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2565 นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) หรือทนายนกเขา และนายพิชิต ไชยมงคล อดีตแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กล่าวผ่าน Facebook Live “ประชาชนคนไทย ปท.” ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดสตูล พูดคุยกับชาวบ้าน ในหัวข้อ “ขจัดภัยการกดขี่สตูลด้วยสามัคคีทั้งแผ่นดิน” ตอนหนึ่ง โดยชี้แจงถึงการตั้งกลุ่มประชาชนคนไทยว่า เราพยายามหาทางเลือกที่เป็นประโยชน์กับประเทศไทย และเป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ตอนนั้นเราเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออก เพื่อเปิดทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และให้เอามืออาชีพเข้ามาบริหาร แก้ไขปัญหาประเทศในระยะเวลาที่เหลืออยู่ ก่อนสภาครบวาระ
     
แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวว่า ข้อเสนอนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากรัฐบาล ขณะเดียวกันก็ต้องให้ผู้ที่มีฝีมือ และไม่มีผลประโยชน์ทางการเมือ งเข้ามาบริหารประเทศ เพราะเราเห็นว่าถ้าปล่อยให้รัฐบาลบริหารต่อไป เราเห็นสภาพแบบที่เป็นอยู่และมีผลกระทบออกมาอย่างนี้ แต่เสียงเรากลับไม่ได้รับความสนใจจากรัฐบาล และขณะนี้ฝ่ายการเมืองก็พยายามหยิบยกเรื่องนี้มาเล่น ที่จะรณรงค์เรียกร้อง แต่นั่นเป็นไปเพื่อประโยชน์เฉพาะกลุ่ม

นายนิติธร ตั้งข้อสังเกตุว่า ทำไมพี่น้องประชาชน ต้องทนรับกรรมอยู่อย่างนี้ กำลังและศักยภาพของประชาชนหายไปไหน ขณะที่ประเทศวิกฤติอย่างหนัก จากปัญหาต่างๆเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของท้องถิ่น ที่นี่อุตสาหกรรมวิถีชีวิต ราคาน้ำมัน โรคระบาด ทำไมปัญหาเดิมๆเหล่านี้แก้ไขไม่ได้ ขณะที่กำลังของประชาชน ที่เคยเป็นกลุ่มเป็นก้อนก็ถดถอยลงไป เราก็มานั่งคิดดูว่าปัญหาเกิดจากอะไร เป็นกับดักทางการเมืองหรือไม่ เพราะการเมืองสร้างให้ประชาชนทุกคน แยกจากกันไปผูกตัวอยู่กับนักการเมือง ผูกขาดอยู่กับนโยบาย เกิดความแตกแยกมาตลอด อีกเรื่องหนึ่งก็คือปัญหาของทุน

“ถ้าเรามองว่าฝ่ายการเมือง เป็นฝ่ายของอำนาจ ฝ่ายทุนกลุ่มธุรกิจต่างๆ ก็เกิดการควบรวม ทำให้ทุนมีระบบที่แข็งแรงมากขึ้น นำไปสู่ทุนผูกขาดเหมือนสัมปทาน ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องระบบสาธารณะประโยชน์ การพัฒนาทั้งหมดจะตกอยู่ในมือ ของคนไม่กี่คนไม่กี่ตระกูล ข้างหลังของคนกลุ่มนี้ก็คือคนต่างชาติ ไม่ใช่คนไทย” แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าว

แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวว่า ตนเคยมาพื้นที่นี้เมื่อ 30 ปีก่อน วันนี้สิ่งที่ตนเห็นหลายคนอาจจะบอกว่ามีการพัฒนา แต่ตนเห็นแค่การเปลี่ยนแปลงไม่เห็นการพัฒนา แน่นอนมีความทันสมัยสะดวกสบายขึ้น แต่ไม่ได้พัฒนา และเมื่อมองเข้าไปข้างในไม่ใช่วิถีชีวิตของพี่น้องชาวสตูล ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าวิถีชีวิตแบบนี้ไม่รู้ว่าพี่น้องสตูลรู้สึกอย่างไร 

นายนิติธร กล่าวว่านอกจากนี้ทุนที่ใหญ่กว่า ได้รับการดูแลจากรัฐ แม้แต่ราชการก็ยังปฏิบัติกับคนที่มีฐานะใหญ่โต ปัญหาเหล่านี้ตนมองว่า สิ่งที่ต้องนำกลับมา คือ ความสามัคคีของพี่น้องประชาชนทุกคน ร่วมมือกันแก้ไขทุกปัญหาที่เกิดขึ้น ถ้าเราร่วมมือกันไม่ว่าจะเป็น กลุ่มอิทธิพลการเมืองหรือกลุ่มทุจริตต่างๆ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ในระดับท้องถิ่น ไม่ต้องขึ้นไปสู่กรุงเทพมหานคร ก็สามารถแก้ไขได้ แต่ถ้าต้องขึ้นไปกรุงเทพมหานคร 1 ครั้ง จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน คือ ต้องมีการประสานงานกัน ระหว่างเครือข่ายภาคประชาชน ที่ประสบปัญหาเหมือนกัน

แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวว่า จะเห็นว่าการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนค่อนข้างโดดเดี่ยว ร่วมมือกันได้เฉพาะในท้องถิ่น หรือพื้นที่ใกล้เคียงเท่านั้น ขณะที่ถ้าพี่น้องเดินทางขึ้นไปกรุงเทพฯ ทางกรุงเทพก็ไม่ได้สนใจ ทั้งนี้สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ตนจำได้ก่อนหน้านั้นพี่น้องที่นี่ขึ้นไป ก็จะมีประชาชนคนทั่วไป นักเรียน นักศึกษาและพี่น้องจากภาคอื่นๆมาช่วย แม้ในขณะนั้นเราไม่มีเครื่องมือสื่อสาร ที่ทันสมัยแบบนี้ แต่เรามีกำลังคนและใจที่มุ่งมั่น ช่วยแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจน แต่วันนี้ไม่มี 
     
นายนิติธร กล่าวว่าอีกปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ได้รับผลกระทบไปด้วย คือ ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ จากสงครามรัสเซียและยูเครน วันนี้การเติบโตของประเทศจีนและรัสเซีย มีผลโดยตรงต่อภาคใต้ เพราะ ภาคใต้อยู่ระหว่างทะเลอันดามันและอ่าวไทย ซึ่ง เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางการรบที่สำคัญ พื้นที่ภาคใต้เราถูกใช้เป็นที่ฝึกรบ และฝึกบินของสหรัฐอเมริกา ดังนั้นถ้าเกิดปัญหาระหว่างอเมริกากับจีน แล้วต้องสู้กันพื้นที่ที่สุ่มเสี่ยงก็คือพื้นที่ภาคใต้ เพราะติดทะเล ซึ่งอเมริกาใช้การรบแบบกองเรือ แล้ววันนี้จีนก็ได้เคลื่อนกองเรือ เข้ามาใกล้ประเทศกัมพูชาแล้ว ห่างจากประเทศไทยเพียงนิดเดียวเท่านั้น นี่คือความเสี่ยงภัยที่จะเกิดขึ้น

แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนไทยทุกคน ต้องตัดสินใจ ไม่ใช่รัฐบาลตัดสินใจ เพราะการตัดสินใจของรัฐบาลในขณะนี้ ค่อนข้างโน้มเอียงไปยังอเมริก าแต่ตอนนี้เชื่อว่าประเทศไทยไม่ได้เลือกประเทศไหน แต่เลือกประเทศของเรา และทุกประเทศที่เข้ามายังไทยต้องเสมอภาคกัน ไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง เหมือนกับเราไปเข้าข้างใคร เพราะขณะนี้คู่กรณีใหญ่ทั้งคู่ 

นายนิติธร กล่าวถึงทิศทางการเมืองว่า ขณะนี้เราฝากชีวิตไว้กับ ส.ส.ค่อนข้างลำบาก ฝากชีวิตไว้กับนักการเมืองท้องถิ่นแทบจะไม่ได้ แต่ถึงเวลาก็ต้องไปเลือกตั้ง สถานการณ์การเมืองในประเทศไทย กับดักทางการเมือง และวาทกรรมทางการเมืองที่นักการเมืองสร้างขึ้นมา ขณะเดียวกันเราไม่เคยเห็นความชัดเจน ของการเมืองที่ขัดแย้งกันอย่างแท้จริง เราไม่เคยเห็นการเมืองเลือกข้าง แบ่งฝ่ายกันอย่างแท้จริง อย่างมากก็เป็นเพียงรูปแบบในสภา รัฐบาลและฝ่ายค้าน 

แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวว่าขณะเดียวกันก็มีข่าวตลอดว่า มีการเชื่อมโยงกันของกลุ่มอำนาจเก่าและกลุ่มอำนาจใหม่ เพราะฉะนั้นต้องมองจุดนี้ให้ละเอียด เราก็มีทางเลือกทางเดียว คือทุกฝ่ายต้องร่วมกัน เพื่อจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการเมืองให้ได้ เรายังมีทางเลือกอีกมากมาย วันนี้เป็นโอกาสดีที่ประชาชน จะมาร่วมสร้างประชาธิปไตย กวาดล้างสิ่งต่างๆในประเทศที่เป็นขยะสิ่งโสโครกให้พ้นไป 

“ผมมองว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่ใช้เป็นหลัก คือ ศาสนาเพราะศาสนาจะเป็นแก่นที่แท้จริง ผมขอให้ทุกคนตื่นตัว และยื่นมือเข้าหากัน หันหน้าเข้าหากัน ทุกปัญหาก็จะแก้ไขได้ ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง แล้วปัญหาต่างๆจะแก้ได้ แล้วเราจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้ ผมอยากเรียกร้องให้รัฐบาล , ส.ส.เข้ามาดูแลคนสตูล เพราะเป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญที่สุด ทั้งนี้การรวมกลุ่มกันของคนในชุมชนจะต้องเกิดขึ้น เพื่อให้มีพลังในแต่ละพื้นที่ เพราะที่นี่คือแหล่งทรัพยากรกรที่สำคัญที่สุด และชาวบ้านก็ใช้ทรัพยากรกรเป็น ไม่คิดทำลาย” นายนิติธร กล่าว

นายนิติธร กล่าวว่า อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ คือทำไมข้าราชการที่มาในพื้นที่ จึงไม่ฟังประชาชนที่นี่ ทำไมทุนถึงเข้ามาที่นี่น้อยมากไม่กี่ราย แต่ได้รับการตอบสนองจากหน่วยงานรัฐมากที่สุด นั่นหมายความว่าเราสามารถตั้งข้อสงสัยได้ว่า ทุนส่วนหนึ่งไปซื้ออำนาจรัฐแล้วหรือไม่ และอำนาจรัฐก็ยอมขายอำนาจส่วนนี้ ให้กับทุนแล้วหรือไม่ ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ แล้วก็จะเป็นปัญหาของทุกที่

แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวว่าตนอยากให้การรวมกลุ่มกันแบบนี้ จะต้องขยายเป็นพลังของสตูล เพื่อรักษาบ้านเมืองและถิ่นฐาน ตนคิดว่าสตูลก็จะเปลี่ยนเป็นของคนสตูลทันที ไม่ใช่ของใครที่เข้ามาแล้วหยิบฉวย ดังนั้นต้องปรับเปลี่ยนสถานการณ์ ให้เร็วที่สุดและมากที่สุด ก่อนที่สถานการณ์จะเปลี่ยนไปมากกว่านี้ ตนคิดว่าถ้าพลังของชาวสตูล ที่รวมกันลุกขึ้นมายืนเองได้ สังคมก็จะลดช่องว่างลงมาเยอะ แล้วทุกภาคทุกพื้นที่ก็จะไล่กันทัน

“การทำงานร่วมมือกันไม่จำเป็นต้องเป็นฮีโร่ แต่ทุกฝ่ายสามารถร่วมมือกัน เพื่อสร้างพลังของคนสตูล ของชุมชนทุกคนและของประเทศ วันนี้แก่นนำทางของแต่ละชีวิต ถูกทำให้ด้อยค่าลง ถูกทำให้เกิดความขัดแย้งโดยเราไม่รู้ตัว สร้างปัญหาให้เรามากๆ ทำให้เราคิดถึงการอยู่รอด มากกว่าที่เราจะคิดถึงพระธรรม คิดถึงคำสอน ทำให้เราห่างหลักนี้ไปโดยไม่รู้ตัว สร้างความสุขสบายจนเราลืมสิ่งนี้ แต่โชคดีที่เมืองไทยเราอยู่ได้ ไม่ว่าจะเป็นวิถีของชาวพุทธหรือชาวมุสลิม ตรงนี้ไม่ปฏิเสธว่ามีความขัดแย้ง แต่โดยวิถีแห่งธรรมะ ด้วยแก่นแห่งธรรม เรายังเชื่อมั่นว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีงาม ฉะนั้นการต่อสู้ทุกอย่างต้องมีสิ่งนี้เป็นตัวนำทาง ทำให้ทุกคนไปถึงเป้าหมายได้ เพราะเราเดินตามหลักธรรมคำสอน” นายนิติธร กล่าว
     
นายนิติธร กล่าวว่าแผ่นดินของประเทศไทย เป็นตัวอย่างของความงามทางด้านศาสนาและศีลธรรม เพราะเจริญทั้งพุทธและมุสลิม ฉะนั้นตนขอกระแทกตรงๆเลยว่า วันนี้สิ่งที่มันเสื่อมทรามที่สุด ไม่ใช่พลังของพี่น้องประชาชน แต่การกระทำตรงนี้ถูกทำลายไปด้วยอะไรก็ตาม ต้องคิดว่าขณะนี้รูปแบบการปกครอง ของไทยนั้นมีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชนเป็นเจ้าของ เราเป็นแผ่นดินที่มีศีลเป็นเครื่องนำทางชีวิต ไม่ว่าเป็นพี่น้องพุทธหรือมุสลิมก็ตาม ซึ่งรูปแบบการปกครองที่เรียกว่า “ธรรมาธิปไตย” คือเอาหลักธรรมและศีลธรรม เป็นหลักในการบริหารกิจการต่างๆ 

“การที่พี่น้องชาวบ้านบอกว่า ตั้งกลุ่มขึ้นมาโดยไม่หวังอำนาจนั้น ตนเห็นด้วยว่าเราไม่ต้องหวังอำนาจทั้งสิ้น เพราะเราเป็นเจ้าของอำนาจอยู่แล้ว ถามว่าถ้าเราทั้งหมดไม่เลือกตั้ง แล้วพวกเขาจะเข้าไปในสภาได้หรือไม่ จะไปเสนอหน้าเป็นนายกฯได้หรือไม่เพราะฉะนั้นอำนาจที่แท้จริงเป็นของเรา โดยที่เราไม่ต้องไปแสวงหา อำนาจเป็นของเราทั้งโดยกฏหมายธรรมชาติ และบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ปัญหาก็คือเราจะใช้อำนาจของเราอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ” นายนิติธร กล่าว
     
แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวว่าที่ผ่านมาเราไม่รู้วิธีที่จะใช้อำนวจ แต่วันนี้การมาร่วมแลกเปลี่ยนกัน ว่าเราจะใช้อำนาจตรงนี้ได้อย่างไร เพราะถ้าเราร่วมกันสามัคคี เราจะไปได้ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราจะไปได้ถึงนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี หรือกลุ่มผู้แทนของเรา ก็จะต้องเป็นหนึ่งในผู้แทน ที่จะต้องมีในสภาที่เป็นสภาของประชาชนอย่างแท้จริง เป็นสภาของพี่น้องจังหวัดสตูลอย่างแท้จริงไม่ใช่สภาการเมืองหรือสภาผู้อาศัย

“อดีตแกนนำ คปท.” ชี้ “โจทย์ใหญ่” หาก “สร้างท่าเรือน้ำลึก-เขตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่” เกิด “มลพิษ” แน่ 

ด้านนายพิชิต ไชยมงคล กล่าวว่าวันนี้กลุ่มประชาชนคนไทย เดินทางมาสร้างสามัคคีสัญจร ครั้งที่ 2 เรามีโปรแกรมที่จะสร้างสามัคคีประชาชน และตรวจสอบท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งให้ท้องถิ่น ทำการเมืองให้สะอาดในระดับประเทศ เรามาที่ปากบารา จ.สตูล เนื่องจากจะมีการสร้างท่าเรือน้ำลึก มาพูดคุยกับผู้นำชาวบ้านเพราะพื้นที่ตรงนี้ จะเป็นแหล่งที่สร้างท่าเรือน้ำลึก 

อดีตแกนนำ คปท. กล่าวว่าพร้อมทั้งนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในภาคใต้ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน ทำให้แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ อย่างหลีเป๊ะ ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน รวมทั้งประการัง กระแสน้ำอาจจะมีการหมุนเปลี่ยน และวิถีชีวิตชุมชนชาวบ้านก็จะได้รับผลกระทบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประมงพื้นบ้าน หากมีการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึก เขตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จะส่งผลให้เกิดมลพิษและมลภาวะ 

“โจทย์ใหญ่ที่ต้องตั้งคำถาม คือ ใครต้องการสร้างพลังงานแบบนี้จริงหรือไม่ พลังงานเราเพียงพอหรือไม่ ทำแล้วส่งให้ใคร ชาวบ้านได้ใช้จริงหรือไม่ มีคำหนึ่งที่พี่น้องจะนะพูดว่า ประเทศไทยสมบูรณ์มาก และไทยจะยั่งยืนต้องมีแหล่งอาหารให้กับสังคมไม่ใช่พลังงาน” อดีตแกนนำ คปท. กล่าว

เสียงสะท้อน “ชาวสตูล” เผยตั้ง “สมัชชาคนสตูล” จัดการพื้นที่เอง ไม่หวังพึ่ง “รัฐ”

ขณะที่ตัวแทนชาวบ้านได้สะท้อนถึงปัญหาในพื้นที่ว่า จ.สตูลได้มีการรวมตัวกันเรียกว่า “เครือข่ายสมัชชา จ.สตูล” มีหลาย 10 เครือข่ายจากทุกอำเภอ โดยใน 1 ปีพี่น้องทุกเครือข่าย จะมาพบเจอกันในเวทีสมัชชาคนสตูล ในส่วนภาคประชาชนเราก็พยายามคิดว่าอย่างน้อยที่สุดต้องพัฒนาพื้นที่ เราเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ว่าข้าราชการที่ส่งมาจากส่วนกลางเป็น “สภาผู้อาศัย” แต่สภาเจ้าของบ้านไม่มี เราจึงคิดว่าจะสร้าง “สภาเจ้าของบ้าน” ขึ้นมา คือ สมัชชา เราคาดหวังที่จะเป็นเสียงสะท้อนของคนในชุมชน และทิศทางของจังหวัดว่าต้องการอะไร และพยามสร้างเวทีกลางขึ้นมาของจังหวัด โดยเปิดรับทุกฝ่าย ทั้ง อบต.และส่วนราชการ ที่อยากจะช่วยในท้องถิ่นนี้ ก็เข้ามาทำงานได้เราเปิดกว้าง

ชาวบ้านในพื้นที่ ยังระบุว่า 2 ส่วนที่ทำให้ประชาชนอ่อนแอลง คือ กลุ่มทุนแม้จะมีจำนวนน้อย แต่ก็ทำให้เราไม่สามารถทำอะไร ที่จะเดินหน้าต่อไปได้ ขณะเดียวกันรัฐก็บอกว่าตามไม่ทัน ส่วนการรวมตัวกันนั้น ไม่ใช่เฉพาะประชาชนอย่างเดียว แต่ 20 กว่าปีที่ทำมา ก็พยามทำให้ประชาชนในพื้นที่ของคนสตูล แก้ปัญหาจัดการตนเองได้ โดยที่ไม่ต้องหวังอะไรจากรัฐ เพราะหวังไปก็เท่านั้น เหนื่อยแล้วที่จะหวังจากนักการเมือง หรือให้ผู้ใหญ่มาดูแล เพราะฉะนั้นเราต้องพึ่งพาตัวเอง จึงรวมกลุ่มกัน เป็น “สมัชชาคนสตูล” รวมตัวกันโดยที่เราไม่ได้ใช้เงินของรัฐ แต่ใช้เงินของเราเองในการแก้ไขปัญหา

“ตอนนี้มี พ.ร.บ.ภาคประชาสังคม ให้ประชาชนรวมตัวกัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งของตัวเอง แต่ปรากฏว่าเราได้เสนอรัฐบาลไป รัฐบาลก็ตั้ง พ.ร.บ.คู่กับเราเฉยเลยก็รู้สึกแปลกใจ ล่าสุดมีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ของชาวบ้าน คือ เราก็ไปพึ่งรัฐพึ่งทนายให้ช่วยเหลือ ปรากฏว่าเราโดนกล่าวหาเสียเองแล้วโดนฟ้องกลับ ทำให้ประชาชนเจอคดี ดังนั้นถ้าเราพึ่งหวัง แค่เรารวมกลุ่มกันกฎหมายที่จะออกมา แล้วควบคุมเราในการจัดการตนเองไม่ได้ ประเทศนี้เมืองนี้เราจะพึ่งใคร คนสตูลรวมตัวกันมีอยู่ 300,000 กว่าคน แต่เราก็เห็นหน้าตา และรู้จักกันหมดเราดูแลกัน” ชาวบ้าน กล่าว 

นอกจากนี้ ชาวบ้านคนหนึ่งสะท้อนมุมมองอีกว่า การขับเคลื่อนในชุมชนไม่มีซุปเปอร์ฮีโร่ หรือหัวขบวนที่เป็นยอดมนุษย์ ข้อดีของเราถ้ามีปัญหาที่หนักเราจะสามารถรวมตัวกันได้เร็วมาก 

ส่วนชาวบ้านอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นอดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ภาคใต้ และอดีต ส.ส.จังหวัดสตูล กล่าวว่า เห็นด้วยที่ต้องช่วยกันคิด และแก้ไขปัญหาของเราเอง อย่างที่เคยทำมาในอดีตแต่ต้องเติบโตขึ้น เพราะเรามองเห็นแล้วว่า ระบบการปกครองปัจจุบัน ทุกคนหวังว่าเราต้องต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และเราต้องสามัคคีเพื่อประชาชน เพราะมองว่าประชาธิปไตยตอนนี้ไปไม่ไหวแล้วและเกิดขึ้นยาก เพราะการเลือกตั้งในเมืองไทยไม่มี มีแต่การซื้อตั้งประมูลตั้ง แล้วเราจะได้ตัวแทนของพวกเรา ที่มีความบริสุทธิ์ยุติธรรมและตั้งใจได้อย่างไร

“เมื่อสังคมถูกทำลาย ระบบก็ถูกทำลาย มองดูแล้วสมัยหน้าหรือสมัยต่อไป คำว่าประชาธิปไตย จะสร้างปัญหาให้กับประชาชนคนไทย กลายเป็นระบบผูกขาดของพวกนายทุน ทั้งนี้การตั้งสมัชชาที่พวกเราทำอยู่ถูกต้องที่สุด แล้วเราต้องช่วยกันทำให้สมัชชาเติบโตขึ้นด้วย” อดีต นปช.ภาคใต้ กล่าว 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net