คณะรณรงค์ยกเลิก 112 ยื่นหนังสือถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดน เรียกร้องให้กดดันรัฐบาลไทยปล่อยตัวนักโทษการเมือง ยกเลิก ม.112 พร้อมท้วงติงว่าการที่ผู้นำสหรัฐฯ ต้องมาประชุมกับผู้นำคณะรัฐประหารที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงนั้นเป็นเรื่องน่าละอาย

สืบเนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีแผนเดินทางเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐน สมัยพิเศษ (ASEAN-US Special Summit) ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 12-13 พ.ค.นี้ ที่กรุงวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา

10 พ.ค. 2565 ที่หน้าสถานทูตอเมริกา ถนนวิทยุ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อ 12.45 น. คณะราษฎรยกเลิก 112 หรือ 'ครย.112' นำโดยสมยศ พฤกษาเกษมสุข นักกิจกรรมด้านสิทธิแรงงาน และโจเซฟ (นามสมมติ) นักกิจกรรมการเมือง และผู้ถูกดำเนินคดี ม.112 เดินทางยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง โจ ไบเดน ปธน.อเมริกา เพื่อให้ตระหนักถึงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และช่วยกดดันให้รัฐบาลไทยปล่อยตัวนักกิจกรรมและประชาชนผู้ถูกคุมขังอย่างไม่ชอบธรรมจำนวน 11 คน และยกเลิก ม.112 เพื่อเป็นหลักประกันเสรีภาพของไทย และประชาคมอาเซียน

อย่างไรก็ตาม ในเวลาไล่เลี่ยกัน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานบนแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ @TLHR2014 ระบุว่า ทางองค์กรได้รับแจ้งว่า โจเซฟ ถูก ตร.จับกุมตามหมายจับ ม. 112 จากการปราศรัยที่ม็อบ 6 เม.ย. 2565 ที่อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่

เวลา 13.18 น. กลุ่ม ครย. เริ่มเดินขบวนไปหน้าประตูสถานทูตสหรัฐฯ ขณะที่การรักษาความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสีกากีคุมพื้นที่หน้าสถานทูตอเมริกา

ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมมีการชูป้ายเป็นภาพผู้ถูกคุมขังทางการเมืองจำนวน 11 คน มีการนำศาลจำลองติดป้ายกระดาษข้อความ 'ศาลอาญา' ด้านในศาลมีของเล่นไดโนเสาร์จำลอง และรถถัง และมีการถือป้ายผ้าไวนิล ข้อความ "Human Rights in Asia Free Political Prisoners in Thailand"

ล่าสุด กลุ่ม ครย.112 ยังคงรอให้เจ้าหน้าที่ทางการทูตออกมารับจดหมายเปิดผนึก และมีการปราศรัยเป็นภาษาอังกฤษ ถึงข้อเรียกร้องให้ปล่อยผู้ถูกคุมขังทางการเมือง 11 คน และปัญหาของ ม.112 ในการใช้ดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม

นอกจากนี้ ครย.112 ขอให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในฐานะประเทศผู้นำประชาธิปไตยออกมาแสดงจุดยืน และตอบโต้รัฐบาลไทย ในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ส่วนในหนังสือที่ทาง ครย.นำมามอบให้ระบุว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและเป็นเรื่องน่าละอายสำหรับสหรัฐฯ ที่สนับสนุนประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนจะต้องมาประชุมกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นายกรัฐมนตรีจากการรัฐประหารและทำลายประชาธิปไตยละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงทั้งจากที่เคยเกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงปี 53 สลายการชุมนุมของนักเรียนนักศึกษาในปี 63 และยังมีการใช้มาตรา 112 มาปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น อีกทั้งภายใต้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ยังสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ใช้แรงงานข้ามชาติที่ไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิแรงงานอีกด้วย

ทางกลุ่มมีข้อเรียกร้องต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้กดดันรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยทั้งหมด 3 ข้อ ข้อแรกรัฐบาลไทยต้องปล่อยตัวนักโทษการเมือง 11 คน ข้อสองให้รัฐบาลไทยยึดมั่นสิทธิมนุษยชนด้วยการยกเลิกมาตรา 112 และข้อสาม รัฐบาลไทยยึดมั่นต่ออนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศ คุ้มครองแรงงานข้ามชาติในไทยและยกเลิกการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบ

เมื่อเวลา 14.03 น. เควิน เอ็ม แมคคาวน์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมือง ตัวแทนจากสถานทูตจากสหรัฐฯ ออกมารับ จม.เปิดผนึก ขณะที่ ครย. 112 กล่าวขอบคุณสถานทูต และหวังว่าจะมีการดำเนินการอย่างจริงจังต่อจากนี้

ต่อมา ประชาชนทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เผาศาลอาญาจำลอง สะท้อนการไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน และริดรอนเสรีภาพประชาชน

ภาพขณะยื่นหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมืองสถานทูตสหรัฐฯ

นอกจากนี้ ประชาชนมีการแจกกระดาษประยุทธ์ ไปเผาพร้อมศาลจำลอง เพื่อสาปแช่งขอชาติหน้าไปเจอนายกฯ คนนี้อีกเลย

ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์สมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่หน้าสถานทูตสหรัฐฯ หลังเสร็จสิ้นกิจกรรม กล่าวถึงกรณีการจับกุมโจเซฟว่า โจเซฟโทรมาแจ้งเขาว่าถูกจับกุมตอนเวลา 10.00 น. ขณะตอนออกมาหน้าบ้าน

"โจเซฟ เขาอยู่ฝ่ายต่างประเทศของคณะราษฎร ยกเลิก 112 หรือ ครย. เป็นเจ้าของความคิดว่าจะต้องมายื่นหนังสือประท้วง เคลื่อนไหวทางด้านต่างประเทศ ในการที่จะรณรงค์ปล่อยนักโทษการเมือง ตำรวจไปถึงหน้าบ้านก่อนที่จะแกจะออกมาขึ้นรถของแก ก็ถูกจับกุมเลย คือเข้าใจว่าคงไม่อยากให้เกิดการชุมนุมในวันนี้

"สิ่งที่โจเชฟ พูดเมื่อวันที่ 6 (เม.ย.) เขาพูดเรื่องประวัติศาสตร์วันจักรี แต่ก่อนหน้านี้มีคำพิพากษาออกมาชัดเจนแล้วว่า การพูดถึงอดีต ไม่ใช่ 112 วันนั้น แกก็อ้างอิงตำราประวัติศาสตร์อะไรอย่างนี้ แสดงว่าการออกหมายจับ ก็เป็นเจตนาทำลายการชุมนุมวันนี้ แต่ว่าเราจะเดินหน้าต่อไป และจะเอาเรื่องนี้ประจานไปทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา จะเป็นประเทศที่เราจะรณรงค์ให้ใช้มาตรการ sanction ทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นผู้พิพากษา หรือตำรวจ หรือผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม" สมยศ ระบุ

สมยศ ระบุต่อว่าเขามองว่าในฐานะที่สหรัฐฯ เป็นประเทศผู้นำในด้านประชาธิปไตย ก็ควรจะให้ความสำคัญกับเมืองไทย ไม่ใช่แค่ในเฉพาะเรื่องการค้า หรือธุรกิจ หรือผลประโยชน์ทางความมั่นคงในภูมิภาค แต่อยากจะให้พิจารณาถึงประเด็นสิทธิมนุษยชนด้วย

"ไม่อยากให้ไบเดน มองไทยเป็นแค่ผลประโยชน์ ทางการค้า หรือธุรกิจ หรือผลประโยชน์ทางความมั่นคงในภูมิภาค แต่อยากจะให้พิจารณาถึงประเด็นสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นสิทธิแรงงานข้ามชาติ สิทธิของผู้ต้องหาในกระบวนการต่อสู้ ในกระบวนการยุติธรรม ให้สิทธิประกันตัว สิทธิแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะการยกเลิกมาตรา 112 อยากจะให้คนทั่วโลกเป็นพลังร่วมกับเรา ในการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตย" สมยศ ทิ้งท้าย