องค์กรจับตามองสื่อในสหรัฐฯพบว่าแม้ในปีที่แล้ว (2564) จะมีความรุนแรงต่อคนข้ามเพศและนอนไบนารีมากขึ้น แต่สื่อตะวันตกกลับรายงานเรื่องนี้น้อยลงเมื่อเทียบกับปี 2563 นอกจากนี้สื่อฝ่ายขวาบางแห่งก็ใช้วาทกรรมหลอกลวงหรืออ้างข้อมูลผิดๆ เพื่อใส่ร้ายป้ายสีกลุ่มคนข้ามเพศทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อความรุนแรงมากขึ้นด้วย

22 พ.ค. 2565 จากรายงานขององค์กรวิจัยและจับตามองสื่อ "มีเดียแมตเตอร์สฟอร์อเมริกา" ระบุว่าถึงแม้ว่าปี 2564 ที่ผ่านมาจะเป็นปีที่มีเหตุรุนแรงถึงแก่ชีวิตเกิดขึ้นต่อคนข้ามเพศอเมริกันเป็นจำนวนมาก แต่สื่อตะวันตกใหญ่ๆ หลายแห่งและสำนักข่าวเคเบิลทีวีก็ใช้เวลารวมทั้งหมดแล้วเพียงแค่ 43 นาทีเท่านั้นตลอดทั้งปีในการรายงานเรื่องนี้

มีเดียแมตเตอร์สฟอร์อเมริกาได้ทำการรวบรวมข้อมูลจากการรายงานข่าวของสำนักข่าว NBC, CBS, ABC, CNN, Fox News และ MSNBC พบว่าสื่อต่างๆ เหล่านี้รายงานข่าวในเรื่องความรุนแรงต่อคนข้ามเพศและนอนไบนารีในปี 2564 ที่ผ่านมารวมทั้งหมดทุกสื่อโดยตลอดทั้งปีแล้วเพียงแค่ 43 นาทีเท่านั้น และ 2 ใน 3 ของจำนวนนี้มาจากสื่อ MSNBC ซึ่งสื่ออื่นๆ โดยเฉลี่ยแล้วจะรายงานในเรื่องนี้รวมแล้วน้อยกว่า 5 นาที แบ่งออกได้ทั้งหมด 19 ช่วง

ในปี 2564 ที่ผ่านมามีชาวอเมริกันที่เป็น คนข้ามเพศ, นอนไบนารี และผู้แสดงออกทางเพศไม่ตรงกับบรรทัดฐานทางสังคม (gender-nonconforming) เสียชีวิตจากเหตุการณ์รุนแรงอย่างน้อย 57 ราย ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่ที่นักกิจกรรมและสื่อเคยติดตามผลมาตั้งแต่ราวปี 2556 นอกจากนี้ยังไม่นับว่าอาจจะมีกรณีอื่นๆ ที่ตกสำรวจเนื่องจากไม่ได้รับรายงาน หรือเป็นกรณีที่รายงานผิดพลาดเพราะใช้ชื่อเก่าของบุคคลเหล่านั้น (deadnaming) หรือการเรียกเพศคนเหล่านั้นไม่ตรงกับเพศสภาพที่แท้จริง (misgendering)

มีเดียแมตเตอร์สรายงานอีกว่านอกจากเรื่องความรุนแรงถึงแก่ชีวิตแล้ว คนข้ามเพศยังเผชิญกับความรุนแรงอื่นๆ ในระดับที่น่าตระหนกมากในช่วงปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นการเผชิญกับการล่วงละเมิดทางเพศในช่วงที่ถูกคุมขังในคุก ถูกแทง ถูกทุบตีทำร้ายในที่ทำงาน และถูกโจมตีในที่สาธารณะอยู่บ่อยครั้ง

สาเหตุที่คนข้ามเพศต้องเผชิญกับเหตุการณ์รุนแรงในระดับที่ล้นเกินมากกว่าคนกลุ่มอื่นๆ เช่นนี้ มีเดียแมตเตอร์สมองว่าเป็นเพราะปัจจัยเรื่องการกีดกันเลือกปฏิบัติทางสังคม การถูกตั้งกำแพงต่อการเข้าถึงบริการสาธารณสุข การเข้าถึงที่อยู่อาศัยและการงานที่มั่นคง ในปี 2564 สถาบันวิลเลียมส์วิจัยพบว่าคนข้ามเพศมีโอกาสตกเป็นเหยื่อความรุนแรงมากถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับคนที่มีเพศสภาพตรงตามเพศกำเนิด (cisgender)

มีการตั้งข้อสังเกตอีกว่า ถึงแม้เหตุรุนแรงถึงแก่ชีวิตต่อคนข้ามเพศและนอนไบนารีจะเกิดมากขึ้นในปี 2564 แต่จำนวนเวลาที่ทำการรายงานข่าวเรื่องเหล่านี้กลับน้อยลงยิ่งกว่าปี 2563 ที่มีกรณีเหตุรุนแรงถึงแก่ชีวิตเกิดขึ้นน้อยกว่าอยู่ที่ 44 ราย ซึ่งในปีนั้นมีการรายงานข่าวรวมแล้ว 54 นาที เทียบกับปี 2564 ที่มีกรณีการเสียชีวิต 57 ราย แต่การรายข่าวเรื่องนี้รวมแล้ว 43 นาทีเท่านั้น

นอกจากเรื่องจำนวนแล้ว มีเดียแมตเตอร์สยังเก็บรวบรวมข้อมูลเรื่องคุณภาพการนำเสนอเรื่องราวคนข้ามเพศและนอนไบนารีของสื่อเหล่านี้ด้วย โดยระบุว่าคุณภาพของแต่ละแห่งแตกต่างกันออกไป แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่าส่วนใหญ่แล้วเวลาเชิญแขกมาเข้าร่วมรายการให้พูดถึงเกี่ยวกับกรณีความรุนแรงต่อคนข้ามเพศ พวกเขามักจะไม่ให้คนข้ามเพศมาเป็นแขกรับเชิญ จากสถิติในปี 2564 มีเพียง 7 ใน 19 ช่วงของรายการเท่านั้นเท่านั้นที่ให้คนข้ามเพศหรือคนที่แสดงออกไม่ตรงบรรทัดฐานทางเพศเป็นแขกรับเชิญ

นอกจากนี้แล้วยังมีกรณีการรายงานข่าวคนข้ามเพศแบบไร้คุณภาพจากสื่อหรือนักข่าวบางแห่ง เช่นกรณีที่ผู้ประกาศข่าว เจมี ยุคคาส จากสื่อ CBS ใช้ชื่อเก่าที่เลิกใช้แล้วของหญิงข้ามเพศอายุ 17 ปี นิกกี คุห์นเฮาเซน ที่ถูกสังหารในวอชิงตันเมื่อปี 2562 และมีเพียง 4 ช่วงรายงานข่าวเท่านั้นที่มีการใช้ชื่อตามจริงที่เป็นชื่อใหม่ของนิกกี มี 2 ช่วงจาก MSNBC ช่วงหนึ่งจาก CNN และอีกช่วงหนึ่งจาก CBS

มีเดียแมตเตอร์สยังวิจารณ์สื่อ ฟ็อกส์นิวส์ ว่า ถึงแม้พวกเขาจะมีการรายงานความรุนแรงต่อคนข้ามเพศสองช่วงข่าวกินเวลารวมแล้ว 2 นาที และไม่รีรอที่จะนำเสนอประเด็นอื่นๆ ของคนข้ามเพศ แต่ช่วงรายงานข่าวเหล่านี้ก็มักจะมีการเหยียดคนข้ามเพศแอบแฝงอยู่ด้วย มีการตั้งข้อสังเกตว่า นับตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. 2564 ที่ โจ ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ มาจนถึงวันที่ 18 มี.ค. มีรายงานข่าวถึง 86 ช่วงที่เป็นเรื่องการใช้ข้อมูลผิดๆ สร้างความตื่นกลัวต่อนักกีฬาที่เป็นคนข้ามเพศ รวมถึงหลอกลวงผู้ชมในเรื่องวิธีการที่ดีที่สุดในการให้บริการสุขภาพต่อเยาวชนคนข้ามเพศ

ในปี 2565 สื่อของฝ่ายขวารวมถึงฟ็อกซ์นิวส์ยังสร้างความเกลียดชังโจมตีชุมชนคนข้ามเพศต่อไปถึงขั้นมีการเรียกร้องให้ใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มคนข้ามเพศ เช่นกรณีวันที่ 31 มี.ค. หนึ่งในพิธีกรสื่อฟ็อกซ์นิวส์ ทักเกอร์ คาร์ลสัน ใช้ข้อมูลผิดๆ อ้างว่ากลุ่มคนข้ามเพศเผชิญกับความรุนแรงในอัตราส่วนที่น้อยกว่า และอ้างว่ากลุ่มคนข้ามเพศในสหรัฐฯ "มีชีวิตที่ดีกว่า" คนที่ไม่ใช่กลุ่มคนข้ามเพศ

นอกจากนี้กลุ่มสื่อฝ่ายขวายังได้สร้างวาทกรรมโกหกหลอกลวงซ้ำๆ อ้างว่ากลุ่มคนข้ามเพศ "ล่อลวง" เด็ก เรื่องนี้ทำให้กลุ่มคนข้ามเพศต้องเผชิญความรุนแรงและการคุกคามเนื่องจากวาทกรรมใส่ร้ายป้ายสี รวมถึงถูกทำร้ายร่างกายในที่สาธารณะเพราะวาทกรรมลวงที่อ้างว่าพวกเขาเป็น "คนล่อลวง" ด้วย

มีเดียแมตเตอร์สสรุปว่ามันเป็นเรื่อง "สำคัญอย่างยิ่ง" ที่สื่อต่างๆ จะต้องผลิตเนื้อหาเกี่ยวกับสถิติความรุนแรงต่อคนข้ามเพศอย่างเที่ยงตรง และการนำเสนอข่าวเหล่านี้ควรจะมีความคิดเห็นหรือมุมมองจากคนข้ามเพศประกอบด้วย การี่สื่อบางส่วนลดการรายงานเรื่องความรุนแรงต่อคนข้ามเพศลงในช่วงเวลาเดียวกับที่สื่อฝ่ายขวาแพร่กระจายความเกลียดชังต่อคนข้ามเพศและส่งเสริมกฎหมายกีดกันเลือกปฏิบัติต่อคนข้ามเพศนั้น เรื่องนี้มองได้ว่าเป็น "อาการอย่างหนึ่ง" จากความล้มเหลวของสื่อบรรษัทยักษ์ใหญ่ที่ไม่รายงานข่าวเรื่องคนข้ามเพศมากพอ

ที่มา
Report: TV News Coverage of Anti-Trans Violence Woefully Inadequate, The Advocate, 18-05-2022