ประชาชนชุมนุมหน้า UN ค้าน พ.ร.บ.คุมการรวมกลุ่มของประชาชน

กลุ่มองค์กรภาคประชาสังคมและประชาชนรวมตัวกันที่หน้า UN ค้านร่างพ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่มของประชาชน เตรียมปักหลักชุมนุมยาวจนกว่ารัฐบาลจะถอนร่างกฎหมายนี้ออกจากการพิจารณา 

23 พ.ค.2565 บริเวณหน้าอาคารองค์การสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก กลุ่มภาคประชาสังคมรวมตัวกันชุมนุมต่อต้านร่าง พ.ร.บ.การดำเนินงานองค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ…. ที่ทางกลุ่มเรียกว่ากฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มประชาชน เรียกร้องให้รัฐบาลถอนร่างออกจากการพิจารณา ทางกลุ่มประกาศชุมนุมปักหลักโดยจะมีการตั้งหมู่บ้านที่หน้าอาคารสหประชาชาติ และหากรัฐบาลไม่ส่งตัวแทนมารับหนังสือในช่วงบ่ายวันนี้ พรุ่งนี้ทางกลุ่มจะเดินไปที่ทำเนียบ

ภาพจาก iLaw

เวลาประมาณ 9.00 น. ทางด้านผู้ชุมนุมเข้ารื้อถอนรั้วเหล็กของตำรวจที่กั้นบนทางเท้าหน้าอาคารออกเพื่อเข้าไปชุมนุมในถนนด้านในติดหน้าอาคารทำให้มีการยื้อยุดรั้วกันเล็กน้อย โดยทางด้านผู้ชุมนุมชี้แจงว่าต้องเข้าไปใช้พื้นที่ถนนเลนในเนื่องจากปลอดภัยกว่า

ในสื่อประชาสัมพันธ์ของกลุ่มระบุถึงคำให้สัมภาษณ์ของจุฑามาส ศรีหัตถผุดงกิจ ตัวแทนของกลุ่มให้เหตุผลที่ต้องออกมาต่อต้านเพราะว่ากฎหมายนี้เป็นเครื่องมือสำคัญและเป็นอาวุธของรัฐบาลที่ตกทอดมาตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ทำรัฐประหารและต้องการทำลายพลังของประชาชนในการออกมาเรียกร้องหรือคัดค้านในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องประชาธิปไตยตลอด 8 ปีที่ผ่านมา โดยเธอได้ยกตัวอย่างการผ่านพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะที่ประกาศใช้เมื่อปี 2558 ว่าเป็นออกกฎหมายมาเพื่อไม่ให้เกิดการชุมนุมในที่สาธารณะซึ่งเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ออกมาเรียกร้องเรื่องประชาธิปไตยไปจนถึงเรื่องกฎหมายอุทยานและนโยบายทวงคืนผืนป่าของรัฐบาล

จุฑามาสระบุอีกว่าขณะที่โควิด-19 กำลังจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น จึงไม่มีความชอบธรรมที่จะใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว รัฐบาลจึงได้สร้างอาวุธใหม่ขึ้นมาคือกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มนี้เพื่อทำลายการรวมกลุ่มของประชาชนที่จะออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยและต่อสู้กับอำนาจรัญในทุกพื้นที่ของประเทศไทย จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องออกมาต่อสู้เพื่อยับยั้งการผ่านกฎหมายนี้ออกมาใช้

“กฎหมายหลายฉบับที่ผ่านมา เราตามไม่ทันเลย คือเขาออกมาแล้วเราจึงมาต่อสู้ทีหลังทำให้การต่อสู้ยากมาก ดังนั้นจึงเป็นช่องว่างสำคัญ ในเมือกฎหมายยังไม่ออกมา มันก็เหมือนการวัดพลังของเรา ว่าเรายังมีโอกาสมากๆ ที่จะสู้และยับยั้งกฎหมายฉบับนี้ไม่ให้มันออกมาบั่นทอน ลดทอน ขบวนการต่อสู้ด้านประชาธิปไตยไปมากกว่านี้” จุฑามาสกล่าว

สมบูรณ์ คำแหง นักปกป้องสิ่งแวดล้อมใน จ.สตูล กล่าวถึงเหตุผลที่มาคัดค้านกฎหมายนี้เช่นกันว่ารัฐบบาลมีความชัดเจนมากในการพยายามควบคุมภาคประชาสังคมทั้งในส่วนของการต้องให้รายงานการเงิน บัญชีและการดำเนินงานขององค์กร แหล่งที่มาของเงินทุนเป็นต้น อีกทั้งยังมากำหนดหน้าที่ขององค์กรว่าจะต้องไม่ทำลายความมั่นคง ซึ่งการกำนหดไว้กว้างๆ ทำให้เกิดการตีความได้หลายแบบและยังมีการกำหนดบทลงโทษที่หนัก ซึ่งคนที่มาทำงานด้านนี้ส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัครที่ต้องการมาช่วยเหลือสังคมการสร้างงื่อนไขแบบนี้ทำให้แรงจูงใจของคนที่อยากจะมาทำงานลดน้อยลงไปการรวมกลุ่มก็จะยากขึ้น

สมบูรณ์มองว่าการกำหนดในร่างกฎหมายนี้ยังมีอยู่แล้วในกฎหมายอาญา กฎหมายการเงิน หรือแม้แต่กฎหมายแพ่ง ถ้าองค์กรไหนทำผิดเงื่อนไขก็ใช้กฎหมายจัดการได้ตามปกติอยู่แล้ว การรายงานการดำเนินการขององค์กรถ้าไปจดเป็นมูลนิธิหรือจัดตั้งสมาคมก็ต้องรายงานทางการเงินให้กับหน่วยงานที่รับจดทะเบียนอยู่แล้ว

“เจตนาในการสร้างกฎหมายฉบับนี้มามีนัยที่ชัดเจนมาก ที่ต้องการให้อำนาจกับเจ้าหน้าที่รัฐในการเข้าไปคุกคาม ไปชี้เป็นชี้ตายองค์กรทางสังคม หรือการรวมตัวของประชาชนได้โดยไม่ใช้กระบวนการปกติ เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ต้องออกมาเคลื่อนไหวในการคัดค้านและหยุดกฎหมายฉบับนี้” สมบูรณ์กล่าว

ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ เมื่อเวลา 9.55 น.ตำรวจได้ประกาศแจ้งว่าขณะนี้กรุงเทพฯ มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อยู่จึงห้ามการชุมนุมรวมกลุ่มที่สร้างความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นอกจากนั้นทางตำรวจยังมีความจำเป็นที่จะต้องวางแผงเหล็กเนื่องจากต้องดูแลรักษาความปลอดภัยการประชุมที่องค์การสหประชาชาติ

เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ภาพจาก iLaw

เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ในฐานะตัวแทนขบวนฯได้ ประกาศจัดตั้งหมู่ราษฎร์ธรรมนูญ พร้อมปราศรัยแจ้ง เหตุผลในการขอเข้าพื้นที่ด้านหน้าตึกยูเอ็นเพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่เข้ามาร่วมชุมนุม พร้อมทั้งระบุเพิ่มเติมด้วยว่าวันนี้เป็นวันที่ กทม.ได้ผู้ว่าคนใหม่อยากให้ช่วยส่งรถห้องน้ำมาให้ชาวบ้านที่ปักหลักหน้ายูเอ็นด้วย เรามีความจำเป็นต้องใช้ถนนและการชุมนุมครั้งนี้เป็นสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชนทุกคน และจะไม่เข้าไปใช้พื้นที่ในตึกยูเอ็น แต่จะใช้แค่ถนนด้านหน้าเท่านั้น และวันนี้จะพักผ่อนเบาๆนอนหลับเอาแรงเพื่อเตรียมบุกทำเนียบรัฐบาลในวันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ระหว่างนี้ทางด้านผู้ชุมนุมกำลังเริ่มจัดเตรียมสถานที่กางเต๊นท์ไปพร้อมกับมีดนตรี

หากสถานการณ์มีความคืบหน้าประชาไทจะรายงานเพิ่มเติมต่อไป

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท