Silent Spring สู่ภาพสะท้อนภัยคุกคามจากสารเคมีในประเทศไทย

เสวนา “60 ปี Silent Spring รำลึก ราเชล คาร์สัน สู่ภาพสะท้อนภัยคุกคามจากสารเคมีในประเทศไทย” ชี้ปัจจุบันมีสารเคมีที่ถูกใช้ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นชนิดทั่วโลก ส่วนหนึ่งเป็นสารกลุ่ม EDCs ที่รบกวนการทำงานของต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) มีผลต่อสมอง พัฒนาการและการเติบโตของเด็ก

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2565 เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) แจ้งข่าวว่า Thai-PAN และเครือข่ายภาคี ร่วมจัดงานเสวนาหัวข้อ “60 ปี Silent Spring รำลึก ราเชล คาร์สัน สู่ภาพสะท้อนภัยคุกคามจากสารเคมีในประเทศไทย” ณ สวนชีววิถี ไทรม้า นนทบุรี เพื่อเรียนรู้บทเรียนสำคัญของการเผชิญปัญหาสถานการณ์สารเคมีภาคเกษตรอุตสาหกรรมในไทย ร่วมเสวนาโดย ธารา บัวคำศรี เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผศ.ดร.ปิยะศักดิ์ ชอุ่มพฤกษ์ ชวลิต วิทยานนท์ ดิสทัต โรจนาลักษ์ และ รศ.ดร.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ – ดำเนินรายการ โดย ดร.กฤษฎา บุญชัย

ราเชล คาร์สัน นักธรรมชาติวิทยาชาวอเมริกัน เติบโตในครอบครัวยากจนย่านอุตสาหกรรมเมือง ในยุคนั้นรัฐบาลเชื่อว่าการใช้สารเคมีในธรรมชาติจะให้ได้ผลผลิตดี ซึ่งสารเคมีตัวสำคัญในขณะนั้นคือ DDT ที่ยังคงเชื่อว่าไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ และถูกใช้อย่างกว้างขวางตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ในปี 1962 ราเชลตีพิมพ์หนังสือ Silent Spring (ฤดูใบไม้ผลิที่เงียบงัน) มีเนื้อหาเปิดโปงอันตรายจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชโดยเฉพาะ DDT ที่เป็นที่นิยมอยู่ในขณะนั้น ดิสทัต ผู้แปลหนังสือ Silence Spring กล่าวว่า หนังสือมีเนื้อหาร่วมสมัย ให้ภาพรวมของผลกระทบจากการใช้สารเคมี มีลีลาการเขียนที่สะท้อนให้เห็นวงจรของสิ่งมีชีวิตและธรรมชาติที่สวยงาม สะท้อนความล่มสลายจากการใช้สารเคมีอย่างน่าสลดใจ โดยราเชลเชื่อว่า หากเรารักสิ่งใด เราจะพร้อมปกป้องสิ่งที่เรารักนั่นคือสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมของเรานั่นเอง ปัตพงษ์ เสริมว่านอกจากราเชลแล้ว ยังมีนักวิชาการอีกท่าน คือดร.สเตฟานี ซีเนฟ (Stephanie Seneff) ตีพิมพ์หนังสือ มรดกสารพิษ (Toxic Legacy) ที่ชี้ถึงอันตรายของไกลโฟเซตที่ส่งผลต่อสุขภาพ สร้างความตื่นตัวต่อสังคมอเมริกันในวงกว้าง

ปัจจุบันมีสารเคมีที่ถูกใช้ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นชนิดทั่วโลก ส่วนหนึ่งเป็นสารกลุ่ม EDCs ที่รบกวนการทำงานของต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) มีผลต่อสมอง พัฒนาการและการเติบโตของเด็ก นักวิจัยพบความสัมพันธ์ของไกลโฟเซตกับการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ กว่า 22 โรค รวมทั้งมะเร็งด้วย เชาวลิตและปิยะศักดิ์ เสริมว่า สารเคมียังสร้างผลกระทบต่อสัตว์ที่เป็นตัวชี้วัดความสมบูรณ์ของธรรมชาติ เช่น ปลา ค้างคาว และแมลงต่างๆ เมื่อแมลงหายไป สัตว์อื่นๆจะสูญพันธุ์ไปด้วย ส่งผลต่อจุลชีพในดินทำให้ได้ผลผลิตน้อยลง ความหลากหลายของพืชที่เพาะปลูกได้เปลี่ยนไป สร้างผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพและความมั่นคงทางอาหารของมนุษย์

เพ็ญโฉม กล่าวว่า สังคมไทยเคยตื่นตัวเรื่องสารเคมีมากในเหตุการณ์คลังสารเคมีระเบิดท่าเรือคลองเตย ในปี 2534 มีเหยื่อหลายพันคน แต่เป็นเรื่องน่าเสียดายที่กลับไม่สามารถหานักวิชาการมาพูดคุยเรื่องมาตรการการจัดการ กฎหมาย หรือการรักษาโรคจากสารเคมีได้เลย เราควรมีฐานข้อมูลกลางของสารเคมีในไทย รวมถึงการจำกัดบรรจุภัณฑ์อย่างถูกวิธี ดิสทัต เสริมว่า การรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อมจะใช้ข้อมูลอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ แต่ต้องถ่ายทอดให้สังคมมีอารณ์ร่วม และต้องการนักวิชาการและคนรุ่นใหม่ที่กล้าหาญด้วย ในขณะที่ ธาราและเชาวลิต กล่าวว่า การทำงานด้านสิ่งแวดล้อมในไทยยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐมากนัก ถ้าการเมืองดีทุกอย่างจะดีตาม ปัตพงษ์ เสนอว่า รัฐและประชาชนควรช่วยกันสร้างระบบอาหารปลอดภัย ลดการใช้สารพิษ และทำให้นโยบายด้านสารเคมีของไทยโปร่งใสและตรวจสอบได้

แม้ว่า Silent Spring จะถูกตีพิมพ์มานาน 60 ปี แต่ยังคงเป็นหนังสือที่ทรงอิทธิพลและสร้างแรงบัลดาลใจให้แก่นักสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ภายหลังราเชล คาร์สัน ถูกโจมตีอย่างหนักจากรัฐบาลและบริษัทสารเคมี กระทั่งถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์หรือพวกคลั่งธรรมชาติจนไม่สนใจปากท้องประชาชน แต่เธอก็ยังยืนหยัดที่จะเป็นกระบอกเสียงในการพูดเรื่องสารเคมี จวบจนกระทั่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในปี 1964 ด้วยวัยเพียง 57 ปี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท