Skip to main content
sharethis

เปิดขายวันแรกสลากดิจิทัลผ่านแอปเป๋าตังราคา 80 บาท 5 ล้านฉบับ จากตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัลเข้าร่วม 10,258 ราย ช่วงเช้าขายได้ 400,000 ใบ - กลุ่มผู้ค้าสลากเสรีรากหญ้าทั่วไทย ขอให้ตรวจสอบกองสลากตัดสิทธิ์โควต้าผู้ค้ารายย่อย 50,000 ราย เป็นการกระทำโดยมิชอบหรือไม่

2 มิ.ย. 2565 สำนักข่าวไทย รายงานว่าการจำหน่าย สลากดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ในราคา 80 บาท เริ่มวันนี้วันแรก  2 มิ.ย. ตั้งแต่ เวลา 06.00 -23.00 น. มีตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัลเข้าร่วม 10,258 ราย สลากจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม 5 ล้านฉบับ นับว่าในช่วงเข้าได้มีประชาชนสนใจซื้อจำนวนมาก 400,000 ใบ เพราะจำหน่ายในราคา 80 บาท และถือเป็นโอกาสใหม่ในการซื้อสลากผ่านออนไลน์ จึงมีคนสนใจซื้อจำนวนมาก

ทั้งนี้การจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มของสำนักงานสลากฯ เป็นการนำสลากแบบเดิม มาสแกนแล้วนำเข้าแพลตฟอร์ม รัฐบาลจึงเชิญชวนให้นักเสี่ยงโชคหันมาซื้อผ่านแอปเป๋าตัง และสลากฯ ตามจุดจำหน่าย 80 บาท ทุกอำเภอทั่วประเทศ

สำหรับโครงการสลาก 80 บาท ซึ่งเป็นจุดจำหน่ายสลากที่มุ่งหมายให้มีการกระจายไปทุกจังหวัด ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถหาซื้อสลากในราคา 80 บาท ผ่านแอปเป๋าตังและถุงเงินนั้น ขณะนี้เป็นที่รู้จัก และได้รับการตอบรับจากประชาชนผู้ซื้อดีขึ้นมาก ปัจจุบัน มีทั้งหมด 362 จุดในกรุงเทพมหานคร ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนที่ภาคเหนือและภาคใต้เพิ่งทำสัญญาเสร็จเรียบร้อย คาดว่าจำหน่ายได้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในงวด 1 ก.ค. 2565

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภาพรวมการขายสลากดิจิทัลวันแรก ผ่านแอป “เป๋าตัง” เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น. ว่าระบบเป็นไปได้ดี ไม่มีปัญหาอย่างที่หลายฝ่ายกังวล ยอดการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลภายใน 1 ชั่วโมง มีสลากฯ ขายได้แล้วจำนวน 79,800 ใบ เฉลี่ยความรวดเร็วจากการขายสลากฯ ได้จำนวน 1,330 ใบ ทุก 10 นาที จากร้านค้า 10,104 ร้าน จากร้านค้าในระบบทั้งหมด 10,354 ร้าน

นายธนกร กล่าวว่าจากการประเมินความต้องการซื้อสลากผ่านแอปเป๋าตัง ซึ่งมีสลากอยู่ในระบบจำนวน 5 ล้านใบเศษ ถ้าสามารถขายสลากฯ ได้ดังข้างต้น คาดว่าสลากฯ จะขายหมดภายใน 5-7 วัน ซึ่งจะทำให้สลากฯ ขายหมดเร็วกว่าการเดินขายปกติ ถือได้ว่าได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อสลากฯ เป็นอย่างดี

“พลเอก ประยุทธ์ จันทร์ นายกรัฐมนตรี พอใจต่อภาพรวมการขายสลากดิจิทัล ขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และทุกภาคส่วนที่ช่วยกันขับเคลื่อนเดินหน้าแก้ไขปัญหาการขายสลากฯ แพง จนสำเร็จเป็นรูปธรรม ในระยะต่อไปขอให้ช่วยกันผลักดันให้สลากฯ อยู่ในระบบแอปเป๋าตัง ให้เพิ่มมากขึ้น รองรับความต้องการซื้อของประชาชน พร้อมกับเน้นย้ำระบบแอปพลิเคชั่นอย่าให้เกิดปัญหา ทั้งการซื้อ ขาย และขึ้นเงินเมื่อถูกรางวัลสลากฯ” นายธนกรฯ กล่าว

กลุ่มผู้ค้าสลากเสรีรากหญ้าทั่วไทย ขอให้ตรวจสอบกองสลากตัดสิทธิ์โควต้าผู้ค้ารายย่อย 50,000 ราย ไม่ชอบธรรมหรือไม่


ที่มาภาพ: เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา

เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานว่าพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจากนายสำอางค์ ซ่อนกลิ่น ผู้แทนกลุ่มผู้ค้าสลากเสรีรากหญ้าทั่วไทย และคณะ เพื่อขอให้ตรวจสอบการตัดสิทธิ์ของผู้ค้าฉลากรายย่อยทั่วประเทศ 50,000 ราย เนื่องด้วยได้รับการลงทะเบียนในโครงการผู้ซื้อและจองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในการนำสลากฯ ไปขายให้แก่ผู้บริโภคตามราคาที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่ได้ถูกตัดสิทธิ์การซื้อ-จองสลากฯ โดยสำนักงานสลากฯให้เหตุผลว่า พบสลากของผู้โดนตัดสิทธิ์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ของมังกรฟ้า ซึ่งยังไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ได้มีการยื่นคำร้องต่อสำนักงานสลากฯ แต่ไม่เป็นผลแต่อย่างใด และการตัดสิทธิ์ดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างสอบสวนคดี รวมทั้งสำนักงานสลากฯได้มีการควบคุมราคาสลากกินแบ่งอยุ่ที่ 80 บาท ซึ่งการตัดสิทธิ์ดังกล่าว เป็นการกระทำโดยมิชอบหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่ผู้ค้าเกิดปัญหาในช่วงติดโควิด-19 และไม่รู้จักแพลตฟอร์ม โดยมีหลักฐานยืนยัน ว่าไม่ใช่ผู้ผิดแต่เป็นผู้บริสุทธิ์ และส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่ได้เป็นการจัดสรรปันส่วนให้กับประชาชนโดยแท้จริง ตามเจตนารมณ์ของสำนักงานสลากฯ ที่ต้องการจัดสรรโควต้าให้กับรากหญ้าประชาชนโดยไม่ต้องไปประกอบอาชีพอื่น เพราะขณะนี้ผู้ค้าสลากบางรายกลายเป็นผู้ตกงาน

ด้าน ประธานกรรมาธิการฯ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด ซึ่งคณะกรรมาธิการอยู่ระหว่างการพิจารณาตรวจสอบ โดยได้เชิญผู้เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงแล้ว อย่างไรก็ตาม จะเร่งบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ค้าสลากต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net