งานวิจัยชิ้นใหม่ในอิสราเอล ระบุว่าคนทำงานที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน มีรายได้มากกว่าผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกสหภาพแรงงานโดยเฉลี่ย 13%

ที่มาภาพประกอบ: Histadrut

5 มิ.ย. 2565 งานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ใน Arlozorov Forum เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ค. 2565 ระบุว่าคนทำงานชาวอิสราเอลที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน มีรายได้มากกว่าคนทำงานที่ไม่ใช่สมาชิกสหภาพแรงงานโดยเฉลี่ย 13% 

งานวิจัยชิ้นนี้ได้ศึกษาฐานข้อมูลคนทำงานชาวอิสราเอล 1.3 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ ร้อยละ 30 ของแรงงานทั้งหมดของประเทศ โดยคนงานประมาณ 870,000 คน หรือ ร้อยละ 21 ของกำลังแรงงานทั้งหมดเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน ซึ่งได้รับการคุ้มครองจากข้อตกลงสภาพการจ้างที่สหภาพแรงงานทำไว้กับนายจ้าง รวมทั้งเปรียบเทียบข้อมูลจากฐานข้อมูล European Social Survey กับคนทำงานที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานในอีก 26 ประเทศ

นอกจากจะพบว่าคนทำงานที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน มีรายได้มากกว่าผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกสหภาพแรงงานโดยเฉลี่ย ร้อยละ 13 แล้วยังพบว่าสมาชิกสมาชิกสหภาพแรงงานในอิสราเอลมีรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 จากทั้งหมด 26 ประเทศ เป็นรองเพียงสมาชิกสมาชิกสหภาพแรงงานในไอร์แลนด์ ทั้งนี้ใน 26 ประเทศนั้นคนทำงานที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน มีรายได้มากกว่าผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกสหภาพแรงงานโดยเฉลี่ยประมาณ ร้อยละ 5-14

มาธาน โคเลอร์มัน นักวิจัยอธิบายว่าค่าตอบแทนที่สูงขึ้นเป็นผลจากการเจรจาระหว่างสหภาพแรงงานและนายจ้าง ค่าตอบแทนที่สูงขึ้นและจำนวนสมาชิกสหภาพแรงงานที่มากขึ้น ยังส่งผลต่อรายได้ประชาชาติ (มูลค่าที่เป็นตัวเงินของผลผลิตหรือสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ระบบเศรษฐกิจได้ผลิตขึ้นในรอบระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง) มากที่ขึ้น 

"การเจรจาต่อรองในนามของสหภาพแรงงาน จริง ๆ แล้วเป็นเครื่องมือหลักที่องค์กรแรงงานสามารถใช้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำกันในสังคมได้" โคเลอร์มัน กล่าว

งานวิจัยนี้ยังพบว่าอิทธิพลขององค์กรแรงงานนั้นส่งผลต่อการจ้างงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อความสามารถของตลาดงานในการตอบสนองต่อความผันผวนที่รุนแรง ผลการศึกษาพบว่าเศรษฐกิจของอิสราเอลมีความยืดหยุ่นสูง โดดเด่นด้วยการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากวิกฤตการณ์ทางการเงิน และมีอัตราการว่างงานต่ำ โดยปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจอิสราเอลมีความยืดหยุ่นสูงคือความสามารถขององค์กรแรงงานในการรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจโดยรวมในช่วงวิกฤต ตัวอย่างเช่น Histadrut สหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดในอิสราเอล ได้ลงนามในข้อตกลงหลายฉบับกับรัฐบาลและนายจ้างเพื่อตอบสนองต่อวิกฤตเศรษฐกิจที่มาพร้อมกับการระบาดของโควิด-19 เช่นเดียวกับในช่วงภาวะถดถอยของต้นทศวรรษ 2000 และวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2551

อามิต เบน-ทเซอร์ CEO ของ Arlozorov Forum กล่าวว่า "การวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าองค์กรแรงงานสามารถปรับปรุงเงินเดือนของพนักงานได้ ดังนั้นจึงลดความไม่เท่าเทียมกัน ในอิสราเอลมากกว่าในส่วนอื่น ๆ ของโลก คนทำงานที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานได้รับเงินเดือนที่สูงกว่าคนงานที่ไม่ใช่สหภาพแรงงานมาก สหภาพแรงงานมีประโยชน์อีกมากมาย และพวกเขาก็ยังมีหน้าที่รับผิดชอบในการช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ต่างๆ ด้วย"

ที่มา
Study Finds that Unionized Israeli Workers Earn More by 13% (Nizzan Zvi Cohen, Davar, 22 May 2022)