ศาลคดีทุจริตฯ พิพากษาประหาร 'อดีตผกก.โจ้' คดีคลุมถุงดำผู้ต้องหาดับ สารภาพลดเหลือคุกตลอดชีวิต

ศาลคดีทุจริตฯ พิพากษาประหาร 'ผกก.โจ้' และพวกคดีคลุมถุงดำผู้ต้องหาดับ เหตุรับสารภาพและช่วยปั๊มหัวใจส่งโรงพยาบาลให้ลดเหลือจำคุกตลอดชีวิต จำเลย 1 คนได้จำคุก 5 ปี 4 เดือนข้อหาม.157 เหตุไม่ได้ร่วมทำด้วย

ภาพขณะเอาถุงคลุมหัวผู้ต้องหา

8 มิ.ย.2565 Voice TV และ BBC Thai รายงานว่าศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น ในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ และพวกรวม 7 คน ในคดีร่วมกันใช้ถุงดำคลุมศีรษะจิระพงศ์ ธนพัฒน์ หรือมาวิน ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิตเมื่อ 5 ส.ค.2564

อัยการฟ้องพวกเขาในความผิด 4 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทารุณกรรมโหดร้าย, ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้ทำหรือไม่ทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย, เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 288, 289(5), 309 วรรค 2 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 และ 172

กระบวนพิจารณาของวันนี้เป็นการอ่านคำพิพากษาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยังเรือนจำที่คุมขังจำเลยทั้ง 7 คนได้แก่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์, พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง อดีต สว.สส., ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค อดีตรองสวป., ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา อดีตรองสวป., ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว ผบ.หมู่ ป. ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น ผบ.หมู่ ป. และส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว ผขบ.หมู่ ป.

ส่วนคำพิพากษาสรุปว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ จำเลยที่ 1 ถึงจำเลยที่ 5 เเละ 7 กระทำผิดตามฟ้องทุกข้อหา โดยให้ลงโทษข้อหาฆ่าโดยโหดร้ายทารุณฯ ที่เป็นบทที่มีโทษหนักสุดคือให้ประหารชีวิต แต่ศาลเห็นว่ามีเหตุบรรเทาโทษจากการที่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ประกอบกับหลังเกิดเหตุ จำเลยทั้ง 7 มีการช่วยเหลือปั๊มหัวใจและนำผู้เสียชีวิตขณะหมดสติส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ทำการกู้ชีพ รวมทั้ง ช่วยค่าทำศพผู้เสียชีวิตจำนวน 30,000 บาท และร่วมกันวางเงินเยียวยาให้กับผู้เสียชีวิต คนละ 300,000 บาท ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต

ส่วนจำเลยที่ 6 ผิดข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จำคุก 5 ปี 4 เดือน เนื่องจาก พบข้อเท็จจริงตามภาพ จำเลยเข้ามาพบผู้เสียชีวิตถูกคลุมถุงดำ มีสีหน้าตกใจและไม่ได้อยู่ร่วมขณะใช้ถุงดำคลุมหัวผู้เสียชีวิต

ส่วนที่มีการยื่นคำร้องขอให้ผู้กระทำความผิด ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง จำนวน 1 ล้าน 5 แสนบาท ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ตาม พ.ร.บ.ความละเมิดของเจ้าหน้าที่ฯ กฎหมายให้สิทธิผู้เสียหาย เรียกร้องค่าเสียหาย จากหน่วยงานของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือต้นสังกัด โดยไม่สามารถเรียกร้องกับผู้กระทำความผิดได้โดยตรง

ทั้งนี้คดีนี้เริ่มขึ้นหลังจากเมื่อ 22 ส.ค.2564 เดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก "ทนายคลายทุกข์" ระบุว่าได้รับข้อมูลจากตำรวจชั้นผู้น้อยที่อยู่ในเหตุการณ์ทรมานผู้ต้องหาจนเสียชีวิตที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2564 หลังจากตำรวจสภ.เมืองนครสวรรค์จับกุมตัวผู้ต้องหาชาย 1 คนและหญิง 1 คน จากชัยนาทในคดียาเสพติดซึ่งมียาบ้าหลักแสนเม็ดมาที่สภ.เมืองนครสวรรค์ โดยทางตำรวจมีการเรียกเงินจากผู้ต้องหา 1 ล้านบาทจนผู้ต้องหายอมจ่าย แต่มีตำรวจยศพันเอกรายหนึ่งจะเอาเงิน 2 ล้าน โดยตำรวจยศพันเอกรายนี้ได้นำถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาชายจนขาดอากาศและเสียชีวิต

จากนั้นเมื่อพวกเขานำตัวผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลและมีการบอกให้ผู้ใต้บังคับบัญชาบอกแพทย์ว่าผู้เสียชีวิตเกิดจากการเสพยาเกินขนาด และทางเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวผู้ต้องหาหญิงไปโดยบอกให้ไม่ต้องพูดอะไรเพื่อแลกกับอิสรภาพไม่ต้องถูกดำเนินคดี

หลังการเปิดเผยของเดชา อีก 2 วันต่อมาษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่อ้างว่าได้มาจากตำรวจชั้นผู้น้อยที่ไม่พอใจกับการกระทำของพ.ต.อ. ธิติสรรค์ โดยในคลิปมีข้อมูลวันที่และเวลาเกิดเหตุที่ระบุว่าเป็นวันที่ 5ส.ค.2564 เวลาประมาณ 13.45 น. โดยภาพที่ปรากฏในคลิปเป็นกลุ่มบุคคลกำลังใช้ถุงพลาสติกหลายใบคลุมหัวคนรูปร่างใหญ่สวมเสื้อสีเหลืองที่คาดว่าเป็นผู้ต้องหาและมีการใช้กำลังดึงจนคนที่ถูกคลุมหัวนอนแน่นิ่งไปจนกลุ่มบุคคลดังกล่าวต้องช่วยกันปั๊มหัวใจ

หลังจากกรณีดังกล่าวถูกเปิดเผย ทางด้านหน่วยงานตำรวจก็ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงนามในคำสั่งให้ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ออกจากราชการไว้ก่อนตั้งแต่วันที 24 ส.ค.2564 เพื่อรอฟังผลการสอบสวนทางวินัยกรณีถูกกล่าว และสามารถติดตามจับกุมได้ทั้งหมดในภายหลังและนำมาสู่การดำเนินคดีในเวลาต่อมา

พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เป็นผู้ที่ได้เข้าอบรมหลักสูตรจิตอาสา 904 รุ่นที่ 2/61 "เป็นเบ้าเป็นแม่พิมพ์" ซึ่งในรุ่นดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมอีกเช่น  พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล 2A-058 และพล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช 2A-057 เป็นต้น

หลังการจับกุม 26 ส.ค.2564 พล.ร.อ.ปวิต รุจิเทศ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ และผู้บัญชาการสำนักงานฝ่ายเสนาธิการในพระองค์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ พ้นสภาพจากการเป็นจิตอาสา 904 เนื่องจากได้กระทำการในสิ่งที่ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงและสถานภาพจิตอาสา 904 ลงวันที่ 25 ส.ค. 2564 พร้อมเรียกคืนเครื่องแต่งกาย หมวก ผ้าพันคอ เครื่องหมายจิตอาสา 904 (ปีกโลหะ/ปีกผ้า) บัตรประจำตัวจิตอาสา 904 และใบประกาศนียบัตร

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท