ไทยกู้เงินรัฐบาลญี่ปุ่น 1.3 หมื่นล้าน อายุ 15 ปี แก้ไขวิกฤตโควิด-19

วานนี้ (9 มิ.ย.) ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องไทยกู้เงินรัฐบาลญี่ปุ่น 1.3 หมื่นล้าน อายุเงินกู้ 15 ปี สำหรับแก้ไขเศรษฐกิจและสังคมจากวิกฤตโควิด-19 หลังเมื่อ 3 พ.ค. 65 ทางกระทรวงการคลังและตัวแทนญี่ปุ่น มีการเซ็นลงนามร่วมกัน

10 มิ.ย. 2565 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงการคลัง วานนี้ (9 มิ.ย.) เรื่อง การกู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่น สำหรับ COVID-19 Crisis Response Emergency Support Loan 

เนื้อหาในเอกสารระบุว่า เพื่ออนุวัติตามนัยมาตรา 8 แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ประกอบมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่ากระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ตามมติเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565 และอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564

กระทรวงการคลังลงนามในสัญญาเงินกู้กับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JapanInternational Cooperation Agency : JICA) เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 โดยมีสาระสำคัญและเงื่อนไขของการกู้เงิน ดังต่อไปนี้

1. เป็นเงินกู้สกุลเงินเยน จำนวน 50,000 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 13,432.35 ล้านบาท (คำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยนขายถัวเฉลี่ยของเงินบาทกับเงินเยน ณ วันลงนามในสัญญา คือ 26.8647 บาท ต่อ 100 เยน) อายุเงินกู้ 15 ปี ระยะปลอดการชำระคืนเงินต้น 4 ปี

2. อัตราดอกเบี้ยคงที่ ร้อยละ 0.01 ต่อปี กำหนดชำระปีละ 2 งวด โดยชำระในวันที่ 20 พฤษภาคม และวันที่ 20 พฤศจิกายน ของแต่ละปี

3. อัตราค่าธรรมเนียมการกู้เงิน (Front-End Fee) ร้อยละ 0.20 ของวงเงินกู้โดยต้องชำระภายใน 60 วัน หลังจากสัญญาเงินกู้มีผลบังคับใช้

4. กำหนดชำระคืนต้นเงินกู้ทุกวันที่ 20 พฤษภาคม และวันที่ 20 พฤศจิกายน โดยชำระต้นเงินกู้งวดแรกในวันที่ 20 พฤษภาคม 2569 และชำระคืนต้นเงินกู้งวดสุดท้ายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2580

5. เพื่อนำไปใช้จ่ายสำหรับแผนงาน/โครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564

ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ลงชื่อ ชุณหจิต สังข์ใหม่ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ก่อนหน้านี้ เมื่อ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง รายงานว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายโมริตะ ทากาฮิโระ (Mr. Morita Takahiro) ผู้แทนจาก JICA เซ็นลงนามในสัญญาเงินกู้ดังกล่าว ณ ห้องประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2565 โดยมีรายละเอียดดังนี้

(ขวา) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ (ซ้าย) นายโมริตะ ทากาฮิโระ (Mr. Morita Takahiro) ผู้แทนจาก JICA

เงินดังกล่าวเป็นเงินที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นให้ประเทศต่างๆ กู้เงินเพื่อใช้สำหรับแก้ไข และบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งการลงนามในสัญญาเงินกู้ดังกล่าวเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากการลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทย แลรัฐบาลญี่ปุ่น หรือ Exchange notes และเอกสารที่เกี่ยวข้องระหว่างนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมต.การคลัง และนายคาซูยะ นาชิดะ (Mr. Kazuya Nashida) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2565 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

เอกสารระบุว่า การกู้เงินครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยในหลายมิติ ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ พ.ร.ก.โควิด เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 เพื่อใช้สนับสนุนด้านการแพทย์ และสาธารณสุขในการป้องกัน และรักษาผู้ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 การเยียวยา และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน การรักษาระดับการจ้างงานจากผลกระทบของโรคติดเชื้อโควิด-19 นอกจากนี้ การกู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นครั้งนี้จะช่วยลดการแย่งชิงทรัพยากรจากตลาดการเงินในประเทศ (Crowding Out) และเป็นการเพิ่มแหล่งเงินทุนระยะยาวที่มีต้นทุนต่ำ เพื่อช่วยประหยัดภาระดอกเบี้ยของรัฐบาล รวมทั้งยังเป็นการเสริมสร้างสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่นที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งเงินกู้ดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาขยายตัวอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท