เพื่อไทย ไม่หวั่นรัฐบาลดึงเช็งกฎหมายลูก ไม่กระทบเลือกตั้งใหญ่-ปัญหาลัมปีสกินในวัวต้องกัน ไม่ใช่ตามแก้ มองรัฐละเลย 

เพื่อไทยไม่หวั่นดึงเกมแก้กฎหมายลูก ชี้ไม่กระทบเลือกตั้งใหญ่-ชี้ลัมปีสกินระบาดซ้ำ โรคต้องป้องกัน ไม่ใช่ตามแก้ เล็งรัฐบาลละเลย เข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตาม ม.157

 

14 มิ.ย. 2565 ทีมสื่อเพื่อไทย รายงานต่อสื่อวันนี้ (14 มิ.ย.) นายสมคิด เชื้อคง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงาน พรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า ถึงเวลานี้ไม่มีเหตุผลที่ฝ่ายใดจะเล่นเกมการเมืองเพื่อยืดเวลาในการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งให้เนิ่นนานออกไป เพราะถึงยังไงการเลือกตั้งครั้งหน้าก็เป็นไปตาม รัฐธรรมนูญกำหนด

สมคิด เชื้อคง พรรคเพื่อไทย

นอกจากนี้ พรุ่งนี้ (15 มิ.ย.) เวลา 14.00 น. นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นัดหารือกับคณะกรรมการประสานงานทั้ง 3 ฝ่าย มาหารือกัน เพื่อหาแนวทางในการเร่งรัดการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ....ที่ สองวันที่ผ่านมาการแก้ไขได้ช้ามาก 2 วันแค่ 13 มาตราจากทั้งหมด 172 มาตรา คาดว่าการหารือคงให้ทุกฝ่ายเร่งรัดในการพิจารณากฎหมายฉบับนี้ เพราะสองวันที่ผ่านมาวนอยู่ที่เดิม เกรงว่าจะใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะแล้วเสร็จ

นายสมคิด กล่าวด้วยว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับในวาระ 2-3 มีกรอบเวลาที่กำหนดไว้ที่ 180 วันหลังจากที่รับร่าง เกรงว่าการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้จะตกไป หากมีฝ่ายใดต้องการให้กฎหมายฉบับนี้ตกไปไม่เข้าใจว่าจะทำไปทำไม อยากส่งสัญญาณไปยังผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง ในการเกมการเมืองนี้ว่าจะดึงไปเท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์พราะยังไงการเลือกตั้งครั้งหน้า ใช้บัตร 2 ใบเช่นเดิม หารที่ 100 ไม่ใช่ 500 ตามที่รัฐธรรมนูญใน มาตรา 91 บัญญัติไว้ ใครจะดึงไปทำอย่างอื่นจะผิดหลักการและขัดรัฐธรรมมนูญด้วย

“วันนี้ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว.ควรจะเร่งรัด พ.ร.บ.ตำรวจโดยเร็ว ทางฝ่าย ส.ส. รอได้ ฝ่าย ส.ว.และรัฐบาลจะดึงเกมส์ลากยาวถึงสิ้นเดือนก็ไม่ว่ากัน แต่ไม่ทราบว่าจะดึงไว้ทำไม เพราะกฏหมายปฏิรูปตำรวจทำมา 8 ปีแล้วยังไม่เสร็จ ทั้งๆ ที่กฎหมายลูกมีความสำคัญกว่า ใช้เวลาไม่นานก็แล้วเสร็จ ทั้งนี้การเล่นเกมส์การเมืองที่เกิดขึ้น เชื่อว่าประชาชนดูอยู่ ใครทำอะไรไว้เชื่อประชาชนเห็นหมด” นายสมคิด กล่าว

รัฐบาลอาจเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่ ป้องกันลัมปีสกิน 

วันเดียวกันนี้ สื่อเพื่อไทย รายงานว่า นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา ประธานคณะทำงานด้านนโยบายการเกษตรพรรค นางสาวสกุลณา สาระนันท์ ส.ส.สกลนคร คณะทำงานด้านนโยบายการเกษตรพรรค และ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. กทม. โฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวถึงสถานการณ์พบการแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกินระบาดหนักในสัตว์อีกครั้ง ชี้ลัมปีสกินไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ ผ่านมา 1 ปี แต่ยังปล่อยปัญหาเกิดซ้ำ อาจเข้าข่ายมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ สร้างความเดือนร้อนทั้งแผ่นดิน
 

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ในฐานะประธานคณะทำงานด้านนโยบายการเกษตรพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปี 2564 โรคลัมปีสกินระบาดไปทั่วประเทศไทย โคกระบือล้มตายประเมินมูลค่าความเสียหายนับหมื่นล้านบาท วันนี้ปรากฎการระบาดขึ้นอีก แต่วัคซีนก็ยังตามมาไม่ถึงมือเกษตรกร การปล่อยปละซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ อาจเข้าข่ายมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยส่วนตัวจะปรึกษากับฝ่ายกฎหมายของพรรค และดำเนินคดีเรื่องนี้ถึงที่สุดฃ

อยากถามไปถึงนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกว่าการกระทรวงเกษตร และอธิบดีกรมปศุสัตว์ ว่าเข้าใจคำว่า ‘ป้องกัน’ หรือไม่ เพราะการป้องกันคือทำก่อนโรค แต่ขณะนี้โรคเกิดขึ้นซ้ำอีก แสดงถึงประสิทธิภาพการบริหารที่ไรัความสามารถไม่ใส่ใจปัญหาความเดือนร้อนประชาชน ซึ่งหากมีการวางแผนการจัดการที่ดี วัคซีนควรถึงมือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคกระบือในพื้นที่ตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา แต่รอแล้วรออีก วัคซีนก็ยังไม่ถึง และหากใส่ใจจัดลำดับความสำคัญของปัญหา ข่าวผู้บริหารกระทรวงเกษตร ลงพื้นที่พ่นยาฆ่าเชื้อตามคอกฟาร์ม พร้อมให้วัคซีนปากเท้าเปื่อย คงไม่เกิดขึ้น เพราะเป็นการทำคนละเรื่องคนละเวลา ชาวบ้านต้องการวัคซีนลัมปีสกินเป็นเรื่องเร่งด่วน หากวัคซีนผลิตเองไม่พอ ก็ต้องนำเข้าและกระจายให้ทั่งถึงอย่างรวดเร็ว

นางสาวสกุลณา ในฐานะ ส.ส. พื้นที่ กล่าวว่า ได้เห็นปัญหาและรับข้อร้องเรียนของประชาชนอย่างมากมาย ว่าโรคลัมปีสกินได้กลับมาระบาดอีกครั้ง และได้เริ่มขยายวงกว้างเต็มพื้นที่แล้ว ความจริงในพื้นที่ย้อนแย้งตรงข้ามกับการสื่อสารของรัฐบาลว่าจะตั้งการ์ดสูง และจะสามารถควบคุมโรคได้ ด้วยการแจกจ่ายวัคซีนที่ผลิตโดยคนไทยฟรีทั่วทั้งประเทศ ทั้งที่ขณะนี้ กลางเดือนมิถุนายน 2565 แล้ว ก็ยังไม่มีวัคซีนถึงพื้นที่ เกษตรกรต้องจัดหาเองในราคาแพง

‘โคกระบือตายจริงป่วยจริง เจ็บจริง’ เกษตรกรเจอปัญหาและรับผลกระทบเต็มๆ จะเรียกว่าควบคุมโรคได้แล้วได้อย่างไร รัฐบาลล้มเหลวซ้ำซาก ขอย้ำว่าโรคลัมปีสกินไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ มีคำเตือนอย่างน้อยตั้งแต่ปี 2563 และในรัฐสภา ก็ได้มีการอภิปรายเสนอแนะสาเหตุวิธีการแก้ไขมาตลอดปี แต่รัฐบาลก็ไม่ทำ ทั้งที่ปัญหาโรคลัมปีสกินไม่ใช่เรื่องแก้ยาก เป็นเทคนิควิธีพื้นฐานทางสัตวบาลเท่านั้น การใช้โวหารสื่อสารบิดเบือนความจริงของรัฐบาลแบบนี้ ยิ่งซ้ำเติมเกษตรกรสู่หายนะ

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวปิดท้ายว่า การบริหารราชการที่ผิดพลาดบกพร่อง ปล่อยให้ประชาชนลำบาดเดือนร้อน รัฐบาลประยุทธ์จะต้องชดใช้ โรคลัมปีสกินไม่ได้กระทบเฉพาะในกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคกระบือเท่านั้น แต่จะกลายเป็นปัญหากระทบห่วงโซ่อาหารทั้งระบบ ส่งผลถึงคนไทยทุกคน

“บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่า ประชาชนไทยไม่สามารถไว้ใจรัฐบาลประยุทธ์ได้อีกแม้รู้ว่า มีปัญหา แต่ไม่เคยคิดแก้ปัญหา ละเลยกับความสูญเสียบาดเจ็บล้มตาย หากเกษตรกรพื้นที่ใดยังไม่ได้รับการชดเชยเยียวยา ยังไม่ได้รับวัคซีน ขอให้แจ้งมายังพรรคเพื่อไทย เราติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิด เพื่อไทยจะยืนอยู่ข้างประชาชน” โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว

รัฐบาลล้มเหลวแก้วิกฤตเศษฐกิจ จับตรงไหนมีแต่ปัญหา

ทีมสื่อเพื่อไทย รายงานต่อว่า นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยในขณะนี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้ารัฐบาลมา 8 ปี ผ่านงบฯ ไป 12 ครั้ง ใช้เงินไป 28.5 ล้านล้านบาท แต่เศรษฐกิจทรุด ทุจริตฟู กู้เก่ง ทำคนไทยเสียโอกาส พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านจึงขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายภายใต้ยุทธการ “เด็ดหัว-สอยนั่งร้านประยุทธ์” ทำหน้าที่แทนคนไทยทั้งประเทศ 8 ปี รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ทำหนี้สาธารณะเฉียด 10 ล้านล้านบาท ประชาชนรู้ดี รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ สมานแผลเศรษฐกิจ หรือสร้างแผลเป็นให้กับเศรษฐกิจของประเทศ ปัญหาเงินเฟ้อ นำมันแพง ค่าแรงถูก คนตกงาน คนจนเพิ่ม ทำประเทศสูญเสียความสามารถในการแข่งขันให้กับหลายประเทศ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ หมดสภาพที่จะมาพลิกฟื้นเศรษฐกิจ มีเพียงมาตรการลูบหน้าปะจมูกครึ่งๆ กลางๆ ขอไปที เพื่อให้ตัวเองและเครือข่ายสืบทอดอำนาจไปเรื่อยๆ รัฐบาลล้มเหลวซ้ำซากในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ประชาชนสิ้นหวังกับรัฐบาลที่มองไม่เห็นอนาคต ไม่เห็นทางออกจากปัญหา จับตรงไหนก็มีแต่ปัญหา เชื่อว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งนี้จะสร้างแนวร่วมทั้งในสภา-นอกสภาสร้างศรัทธาจากภาคประชาชนได้มาก

“พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า ไม่อยู่จนตายคารัง แต่ถ้าคิดจะสืบทอดอำนาจโดยไม่สามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจได้เลย คนที่ลำบากคือประชาชน” นายอนุสรณ์ กล่าว

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด พรรคเพื่อไทย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท