ประเสริฐพงษ์ ก้าวไกล วิจารณ์ 'อนุทิน' ทวงถามความชัดเจน กรณี กนกวรรณ พัวพันการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมชี้ อนุพงษ์ โกหกคำโตกลางสภา ปล่อยให้มีโครงการทำลายหาดแม่รำพึง ประจวบคีรีขันธ์

17 มิ.ย. 2565 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานต่อสื่อมวลชนว่า ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวเรียกร้องความรับผิดชอบและขอท่าทีที่ชัดเจนจากรัฐบาลเกี่ยวกับปัญหาจริยธรรมและผลประโยชน์ทับซ้อนใน 2 กรณี ดังนี้ 

กรณีแรก คือการที่ กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงศึกษาธิการ จากพรรคภูมิใจไทย ถูกชี้มูลความผิดจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่ามีส่วนเข้าไปพัวพันกับคดีบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่ง กนกวรรณ ดำรงตำแหน่งสำคัญในกระทรวงศึกษาธิการ แต่กลับมีปัญหาด้านจริยธรรม และยังคงทำหน้าที่เป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยรามคำแหง จึงขัดกับหลักความถูกต้องและความเหมาะสม  ล่าสุด ยังคงอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยและเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดที่ผ่านมา โดยพรรคภูมิใจไทยซึ่งมี อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค ยังมีท่าทีที่เมินเฉยหลังมีการชี้มูล จึงขอเรียกร้องให้ กนกวรรณ ถอนตัวจากตำแหน่งและบทบาทหน้าที่ทางการศึกษาทั้งหมด

กรณีถัดมา เป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนในการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง หาดแม่รำพึง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่รับผิดชอบโครงการการก่อสร้างกำแพงและกองหินริมฝั่งทะเล ของกรมโยธาธิการโดยตรง โดยโครงการดังกล่าวได้สร้างขึ้นบนชายฝั่งทะเลหลายแห่ง แม้ พล.อ.อนุพงษ์ จะยืนยันผ่านการตอบกระทู้ถามสดในสภามาแล้วว่า หากแต่ละพื้นที่ไม่ผ่านการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจะไม่มีสิทธิพิจารณาสร้างเขื่อนแข็ง แต่ภายหลังกลับพบว่าการสร้างเขื่อนบางแห่งในโครงการนี้มีการสอดไส้ผลการประเมินด้วยการนำผลการศึกษาของที่อื่นมาสวมแทนเพื่อให้สามารถดำเนินการได้ ซึ่งตนเคยแถลงข่าวเรื่องดังกล่าวมาก่อนในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาคลื่นทะเลกัดเซาะชายฝั่งและการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลอย่างเป็นระบบ แต่เรื่องกลับเงียบหาย ขณะที่การก่อสร้างเขื่อนแบบนี้ัยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกหลายแห่ง

“ล่าสุด กรณีหาดแม่รำพึง ผู้ว่าฯ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มอบหมายให้รองผู้ว่าฯ อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ  เปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นโครงการสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง หาดแม่รำพึง แต่รองผู้ว่าฯ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กลับไม่ดำเนินการ ซึ่งอาจมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนมาเกี่ยข้อง เนื่องจากอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เคยมีหนังสือโดยตรงไปยังอธิบดีกรมโยธาธิการแล้วว่า พื้นที่ชายหาดแม่รำพึง ไม่เคยมีการกัดเซาะชายฝั่งมาก่อน นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตว่า รองผู้ว่าฯ มีปูมหลังเป็นลูกหม้อของกรมโยธาธิการมาก่อน และโครงการนี้ก็เป็นการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเจ้าเดิม เจ้าเก่ามาออกแบบเขื่อนแข็งเหมือนเดิม จึงสันนิษฐานว่าการสร้างเขื่อนที่หาดแม่รำพึงครั้งนี้น่าจะเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างแน่นอน จึงขอให้ พล.อ.อนุพงษ์ รีบออกมารับผิดชอบกับเรื่องดังกล่าว” ประเสริฐพงษ์ กล่าว