พลเอกประยุทธ์ ไปสกลนครเมื่อ 15 มิถุนายน มีความหมาย 2 ประการ 

1. พลเอกประยุทธ์สามารถรักษาอำนาจนำในพรรคพลังประชารัฐ สะท้อนถึงแผนแตกหักกันในกลุ่ม ผบ.ทบ. ใน คสช. นั้น ไม่อาจเป็นจริง บวกกับภาพลงคะแนนเสียง พรบ.งบประมาณ ทำให้เห็นว่า ผู้นำแบบมันคือแป้งยังต้องหมอบสยบยอมประนีประนอมจากความอหังการ์ของตน

2. สกลนคร ปี 2562 ส.ส.เพื่อไทย กวาด 6 ที่นั่งทั้งจังหวัด แต่ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐก็หวังว่าจะสามารถเบียดแทรกในการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึง เพราะพวกเขาเชื่อว่าผลงานของรัฐบาลตู่เข้าตาประชาชนอย่างยิ่ง 

คะแนนแต่ละเขตของสกลนครในการเลือกตั้งปี 2562 ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ จะยังมีความหวังในการเลือกตั้งครั้งที่กำลังจะมาถึงหรือไม่

เขต 1 ผู้สมัครพรรคพลังรัฐ แพ้เพื่อไทย ราว 7 พันกว่าคะแนน

เขต 2 ผู้สมัครพรรคพลังรัฐ แพ้เพื่อไทย ราว 1.13 หมื่นกว่าคะแนน 

เขต 3 ผู้สมัครพรรคพลังรัฐ แพ้เพื่อไทย ราว 2.4 หมื่นกว่าคะแนน อยู่ที่ 4 ถ้าไม่เปลี่ยนตัวผู้สมัคร ก็น่าจะหมดหวัง

เขต 4 ผู้สมัครพรรคพลังรัฐ แพ้เพื่อไทย ราว 1 หมื่นกว่าคะแนน

เขต 5 ผู้สมัครพรรคพลังรัฐ แพ้เพื่อไทย ราว 2.7 หมื่นกว่าคะแนน แม้จะได้ที่ 2 แต่คะแนนแพ้หลุดลุ่ย น่าจะเหมือนเขต 4 คือ ถ้าไม่เปลี่ยนตัว ก็น่าจะมีความหวังน้อย

เขต 6 ผู้สมัครพรรคพลังรัฐ แพ้เพื่อไทย ราว 4 พันคะแนน 

ดังนั้น จากข้อมูลเลือกตั้ง 2562 ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐคนเดิมที่อาจท้าชนได้กับเพื่อไทย ดูจะมีเฉพาะเขต 1 กับเขต 6

แต่... เรื่องนี้มี แต่ว่า... 2 ประเด็น

ประเด็นแรก ชื่อเสียงของพลเอกประยุทธ์ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ภาพลักษณ์และนโยบายพรรคพลังประชารัฐ หลายปีที่ผ่านมา กินใจจับใจประชาชนคนสกลนครหรือไม่ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและการช่วยเหลือภัยโควิด-19

ถ้าตอบจากงานวิจัยของนักศึกษาปริญญาโทรัฐศาสตร์ ม.รังสิต ในเขตอื่นๆ ต่อความนิยมในพลเอกประยุทธ์  รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ และ รัฐประหาร คสช. นับว่าได้คะแนนน้อยมากแบบน้อยที่สุด 

ปัจจัยผู้นำทางการเมืองของพลเอกประยุทธ์ ปัจจัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ไม่เป็นปัจจัยช่วยต่อผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐสักเท่าใด เหมือนๆ กับการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. และ  ส.ก. ที่เพิ่งผ่านไป ที่คะแนนของผู้ที่อยู่ฝ่ายสนับสนุนรัฐประหารและพรรคพลังประชารัฐได้น้อยมากๆ ดังนั้น ผู้สมัครพรรคนี้จะได้คะแนน ส.ส. หรือไม่จึงขึ้นกับปัจจัยตัวผู้สมัครมากกว่าปัจจัยพรรคการเมือง

ประเด็นที่สอง ในการเลือกตั้งปี 2562 ทีมคนหนุ่มแห่งพรรคอนาคตใหม่มีคะแนนเเป็นอันดับสามเกือบทุกเขต ทั้งยังมีคะแนนสูงตามติดหรือแบบคู่คี่กับผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ นี่คือปัจจัยที่ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐจะถึงฝั่งฝันชัยชนะนั้นยากยิ่งนัก
ยิ่งไปกว่านั้น  แม้อนาคตใหม่จะถูกยุบพรรค แต่ทีมคนหนุ่มนี้ก็ยังทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่องทุกวันๆ ในสังกัดพรรคก้าวไกล 

ด้วยปัจจัย 2 ประเด็นนี้ เสียงตะโกนของกลุ่มคนสกลนครกลุ่มนี้ว่า "เรารักลุงตู่" และ "ลุงตู่อยู่ยาวๆ" อาจเป็นเหมือนเสียงบรรเลงของยานอนหลับที่ทำให้ลุงตู่หลับฝันดีว่าใครๆ ก็ยังรักลุงนั้น แต่เมื่อตื่นขึ้นมาในสนามเลือกตั้ง ลุงตู่อาจสะท้านจากความจริงในสนามเลือกตั้งสกลนคร ว่าฝันนั้นอาจไม่เป็นจริง


หมายเหตุ: ข้อเขียนนี้เป็นทัศนะของผู้เขียน ไม่ใช่ทัศนะของหน่วยงานหรือสถาบันใดๆ ทั้งสิ้น