ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่กฎกระทรวงกำหนดบัญชีอัตราเงินเดือนเพื่อใช้ในการคำนวณเงินสะสม เงินสมทบเงินชดเชย และบำเหน็จบำนาญของพนักงานมหาวิทยาลัย (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2565
27 มิ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่กฎกระทรวงกำหนดบัญชีอัตราเงินเดือนเพื่อใช้ในการคำนวณเงินสะสม เงินสมทบเงินชดเชย และบำเหน็จบำนาญของพนักงานมหาวิทยาลัย (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2565
โดยระบุว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 และมาตรา 70/8 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2549 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เป็นต้นไป
ข้อ 2 ให้ยกเลิกบัญชีอัตราเงินเดือนอ้างอิงของพนักงานมหาวิทยาลัยท้ายกฎกระทรวงกำหนดบัญชีอัตราเงินเดือนเพื่อใช้ในการคำนวณเงินสะสม เงินสมทบ เงินชดเชย และบำเหน็จบำนาญของพนักงานมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2554 และให้ใช้บัญชีอัตราเงินเดือนอ้างอิงของพนักงานมหาวิทยาลัยท้ายกฎกระทรวงนี้แทน
พร้อมระบุหมายเหตุประกอบประกาศไว้ด้วยว่า เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ พลเรือน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 ซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557 กำหนดให้ปรับปรุง บัญชีเงินเดือนขั้นต่ าขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ มีผลท าให้อัตราเงินเดือนขั้นสูงสุดของข้าราชการ พลเรือนสามัญประเภทบริหารขั้นสูง (เทียบเท่าอันดับ ท. 11 เดิม) สูงกว่าเงินเดือนอ้างอิงขั้นสูงในบัญชี อัตราเงินเดือนอ้างอิงของพนักงานมหาวิทยาลัย สมควรแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีอัตราเงินเดือนอ้างอิงของพนักงาน มหาวิทยาลัยให้สอดคล้องกับอัตราเงินเดือนข้าราชการพลเรือนที่มีการปรับปรุงดังกล่าว จึงจำเป็นต้องออก กฎกระทรวงนี้
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)